จี้ ผอ.รร.ใช้อำนาจมาตรา 53 เอาผิดทุจริตครูผู้ช่วย
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
จี้ ผอ.รร.ใช้อำนาจมาตรา 53 เอาผิดทุจริตครูผู้ช่วย
จี้ ผอ.รร.ใช้อำนาจมาตรา 53 เอาผิดทุจริตครูผู้ช่วย "จาตุรนต์" เผย ก.อ.ค.ศ.เขตฯ ล้มคำสั่ง "ให้ออก" ไม่ได้ กลุ่มผู้เสียหายต้องร้องทุกข์ตามกระบวนการ หากพ้นผิดกลับเข้ารับราชการได้ พร้อมกำชับเขตฯ เร่งตรวจสอบย้อนหลังกว่า 2 พันราย ขาดคุณสมบัติ/ตั๋วครู แต่ยังเข้าสอบได้ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่าจากการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เมื่อเร็วๆ นี้ ได้พิจารณาเกี่ยวกับการดำเนินการกรณีทุจริตการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการ เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือเหตุพิเศษ ว12 ตามรายชื่อของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) 344 ราย ตามที่ดีเอสไอ เห็นว่ากระทำการเข้าข่ายการทุจริตการสอบ ซึ่ง ก.ค.ศ.ได้มีมติเห็นชอบให้กำหนดแนวปฏิบัติการดำเนินการกับบุคคลที่เข้าข่ายทุจริตในการสอบครูผู้ช่วย จำนวน 344 ราย
ซึ่งจากข้อมูลพบว่า ขณะนี้ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งแล้ว 262 ราย ยังไม่ได้รับการบรรจุแต่งตั้ง 51ราย และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ยังไม่รายงานข้อมูล 8 เขตฯจำนวน 31 ราย ในจำนวนที่บรรจุฯ แล้ว ถูกสั่งให้ออกจากราการ 188 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการ 62 ราย ขอลาออก 4 ราย และเขตฯ ยังไม่ได้ดำเนินการตามมติ ก.ค.ศ.จำนวน 8 ราย โดยได้มีการร้องทุกข์ต่อ ก.ค.ศ.แล้ว 187 ราย และอยู่ระหว่างการพิจารณาคำร้องทุกข์ตามกระบวนการ และขั้นตอนตามกฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการร้องทุกข์และการพิจารณาร้องทุกข์ พ.ศ.2551 ให้เสร็จสิ้น
"กลุ่มครูผู้ช่วย ที่ได้รับการบรรจุแล้ว แต่ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ และยังไม่ได้ดำเนินการพิจารณาให้ออกจากราชการ จะต้องให้ผู้อำนวยการสถานการศึกษาในฐานะผู้มีอำนาจ ตามมาตรา 53 พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ดำเนินการตาม พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ซึ่งจะต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวน แจ้งข้อกล่าวหา ให้มีการชี้แจงแก้ข้อกล่าวในเวลาที่กำหนดให้ครบตามขั้นตอน และในเร็วๆ นี้ จะจัดให้มีการชี้แจงเรื่องนี้จากคณะอนุกรรมการด้านกฎหมายของ ก.ค.ศ. และผู้ทรงคุณวุฒิ แก่เขตพื้นที่ฯ ส่วนผู้ที่ถูกให้ออกไปแล้วและมีการร้องทุกข์ ก็ต้องดำเนินการตามกระบวนการ"นายจาตุรนต์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้ รมว.ศึกษาธิการ จะขอให้กลุ่มอดีตครูผู้ช่วย ที่ถูกให้ออกจากราชการ แต่ไม่ได้มีการเรียกชี้แจงตามกระบวนการ ให้กลับเข้ารับราชการจะยังดำเนินการอยู่หรือไม่
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่ามติ ก.ค.ศ.ล่าสุดได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่สามารถดำเนินการได้ จะต้องให้คนกลุ่มนี้เข้าสู่กระบวนการร้องทุกข์ และหากคณะกรรมการร้องทุกข์เห็นว่าการดำเนินการไม่ถูกต้อง ก็สามารถจะยกเลิกคำสั่งให้ออกจากราชการ และให้กลับเข้ารับราชการ และให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนใหม่ เพราะ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ไม่สามารถไปยกเลิกคำสั่งของตนเองได้ จึงต้องใช้วิธีการร้องทุกข์
ด้านนางศิริพร กิจเกื้อกูล เลขาธิการ ก.ค.ศ. กล่าวถึงกรณีที่ดีเอสไอ ทำหนังสือแจ้งให้ ศธ. พิจารณาดำเนินการกับครูผู้ช่วยจำนวน 2,161 ราย เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติย้อนหลัง ภายหลังที่ดีเอสไอ ตรวจพบว่ามีคุณสมบัติที่ไม่ถูกต้อง เช่น ปฏิบัติหน้าที่เป็นครูอัตราจ้าง ไม่ครบ 3 ปีตามที่กำหนด เป็นต้น ขณะ้นี้ สำนักงาน ก.ค.ศ.ได้แจ้งคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่ฯ ให้ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติครูผู้ช่วย เหล่านี้แล้ว
อย่างไรก็ตาม ได้กำหนดแนวทางไปให้ อาทิ ให้ประสานคุรุสภา เพื่อขอความร่วมมือในการตรวจสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ให้มีการตรวจสอบตั้งแต่วันรับสมัคร ว่าเป็นลูกจ้าง เป็นครูอัตราจ้าง ครบ 3ปีหรือไม่ การตรวจสอบคำสั่งสัญญาจ้างต่างๆ และต้องตรวจสอบคำสั่งจ้างของผู้บังคับบัญชา และหนังสือรับรองของผู้มีอำนาจ เป็นต้น โดยจะให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ดำเนินการตรวจสอบให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ที่มาของข่าว : เว็บไซต์หนังสือพิมพ์สยามรัฐ วันที่ 4 พ.ย. 2556