สพฐ.จ่อรับนร.40 คนต่อห้อง
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
สพฐ.จ่อรับนร.40 คนต่อห้องนายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวถึงกรณีที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง มีนโยบายจะปรับสัดส่วนเพิ่มผู้เรียนสายอาชีวศึกษาต่อผู้เรียนสายสามัญ เป็น 51:49 ภายในปี 2558 โดยสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้นำเสนอผลการหารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และสำนักบริหารงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ว่าในปีการศึกษา 2557 จะขยับสัดส่วนสายอาชีวะต่อสายสามัญ จากปัจจุบัน 36:64 เป็น 45:55ซึ่งเพิ่มขึ้นอีก 9% เป็นจำนวนผู้เรียน 75,600 คน โดย สพฐ. จะต้องลดการรับนักเรียนที่จบระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 ศึกษาต่อระดับม.4 ให้น้อยลงกว่า 100,000 คน รวมทั้งอาจจะแก้ไขจำนวนนักเรียนต่อห้องอยู่ที่ 40-45 คน ไม่ใช่ 40-50คนเช่นปัจจุบันและต้องไม่มีการขยายห้องเรียนเพิ่มเติม ว่า เนื่องจาก สพฐ. ได้ประกาศ นโยบายการรับนักเรียน สังกัด สพฐ.ปีการศึกษา 2557ไปล่วงหน้าตั้งแต่เดือนก.ย.ที่ผ่านมาซึ่งในขณะนั้นยังไม่มีนโยบายเพิ่มสัดส่วนสายอาชีวะต่อสายสามัญ 51:49 ออกมา เพราะฉะนั้น สพฐ.จะต้องมาแก้ไขและทบทวนประกาศดังกล่าวโดยเฉพาะการรับนักเรียนในชั้น ม.4 ซึ่งเดิมกำหนดจำนวนนักเรียนต่อห้องที่ 40คนและขยายได้ถึง 50 คนนั้น แต่หลักเกณฑ์ใหม่จะกำหนดใหม่ให้เหลือ 40คนต่อห้องเท่านั้นให้สอดคล้องกับนโยบายที่ให้ลดลง ส่วนการขยายห้องเรียนม.4 นี้ต้องมาพิจารณาอย่างรอบคอบต้องคำนึงถึงบางพื้นที่ที่ไม่มีโรงเรียนม.ปลาย อาจจะให้เปิดชั้นเรียนใหม่ได้แต่ต้องเสนอมาพิจารณาเป็นรายกรณี
“เรื่องจำนวนเด็กต่อห้องนั้นส่วนตัวผมไม่ต้องการให้เพิ่มจำนวนการรับนักเรียนชั้น ม.4 ไปเรื่อย ๆ เช่น ขอขยายจาก 40 เป็น 45 และไหลไปถึง 50 คนเหมือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ ต้องพิจารณาแก้ไขหลักเกณฑ์การรับนักเรียนที่จบม.3โรงเรียนเดิมเพื่อเลื่อนชั้นต่อม. 4ด้วยซึ่งปัจจุบันกำหนดเกรดเฉลี่ย 2.00อาจจะต้องพิจารณาปรับเพิ่มเกรดเฉลี่ยให้สูงขึ้น เป็น 2.30หรือ 2.50 แต่จะรับฟังความเห็นของผู้อำนวยการโรงเรียนถึงสาเหตุของการปรับเปลี่ยนก่อนหน้า ด้วย รวมทั้งจะพิจารณาในส่วนของเด็กโควตาต่าง ๆ ความสามารถพิเศษ และกลุ่มผู้มีอุปการคุณ อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ยังไม่ใช่ข้อยุติในการปรับปรุงหลักการรับนักเรียน ในปีการศึกษา 2557 ซึ่มผมจะฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้อง ผอ.โรงเรียน ซึ่งเชื่อว่าดำเนินการแก้ไขได้ทันเพราะยังมีเวลาอีกหลายเดือน จากนั้นจะนำเสนอในที่ประชุม กพฐ.ในเดือนธ.ค.2556″เลขาธิการ กพฐ. กล่าว
นายอภิชาติ กล่าวต่อไปว่า ตนเชื่อว่าการแก้ไขหลักเกณฑ์การรับนักเรียนสายสามัญฯดังกล่าวจะส่งผลให้มีเด็กส่วนหนึ่งหันไปเรียนสายอาชีวะมากขึ้น ซึ่งหลังจากนี้ สพฐ.จะร่วมกับ สอศ. ในการแนะแนวเรื่องการศึกษาต่อในสายอาชีพให้แก่เด็กชั้น ม.3 พร้อมทั้งจะพาเด็กไปชมบรรยากาศการจัดการเรียนการสอนในวิทยาลัยสังกัด สอศ. ด้วย ทั้งนี้ในการจูงใจให้เด็กหันมาเรียนสายอาชีพนั้น ตนอยากเสนอให้รัฐบาลจัดโครงการประกันการมีงานทำสำหรับเด็กอาชีวะ เช่นเดียวกับโครงการครูมืออาชีพที่เมื่อเรียนจบจะมีงานทำทันที
ที่มาของข่าว : เว็บไซต์หนังสือพิมพ์บ้านเมือง วันที่ 22 ตุลาคม 2556