ก.ค.ศ.สั่งทบทวนมติเชือดครูผู้ช่วยอีกรอบ
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
เหตุกรรมการและผู้ปฏิบัติสับสน รับลูกดีเอสไอสอบคุณสมบัติย้อนหลัง
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) พบว่ามีเรื่องยุ่งยากซึ่งเป็นเรื่องเดิมที่ต่อเนื่องมาจากมติ ก.ค.ศ.เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ให้แจ้งคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษาให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้งตามมาตรา 53 แห่ง พ.ร.บ.ครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ดำเนินการเพิ่มเติมกับผู้เข้าสอบครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือเหตุพิเศษ ว 12 จำนวน 344 คน ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ แจ้งว่าเข้าข่ายกระทำการทุจริตในการสอบ หากได้รับการบรรจุแต่งตั้งไปแล้วให้ดำเนินการตาม ม.49 เนื่องจากเป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดี และต่อมา ก.ค.ศ.มีมติเพิ่มเติมให้ผู้มีอำนาจในการบรรจุแต่งตั้งไปดำเนินการสอบสวนว่าผู้ถูกกล่าวหา และล่าสุด ก.ค.ศ.มีมติส่งเรื่องคืนให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาพิจารณาทบทวนการดำเนินการ ซึ่งมติเหล่านี้ทำให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงกรรมการใน ก.ค.ศ.เองเกิดความสับสน มีความเข้าใจในมติที่แตกต่างกัน รวมถึงประเด็นในข้อกฎหมายก็ยังไม่มีความชัดเจน อาทิ ผู้ที่ถูกให้ออกจากราชการไปแล้วก็ไม่แน่ใจว่าจะสามารถกลับเข้ารับราชการได้หรือไม่
รมว.ศธ.กล่าวอีกว่า เมื่อเกิดความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามติที่ครบถ้วนสมบูรณ์ของ ก.ค.ศ. ที่ต้องดำเนินการมีใจความเป็นอย่างไร หากจะดำเนินการทางใดทางหนึ่งก็เกรงว่าจะเกิดปัญหาว่าการดำเนินการจะไม่มีผลตามกฎหมาย ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติให้ ก.ค.ศ.ไปรวบรวมความคิดเห็น รวมถึงหารือกับฝ่ายกฎหมาย และไปทำข้อสรุปให้ชัดเจน และนำกลับมาให้ ก.ค.ศ.พิจารณาอีกครั้งว่ามติที่ครบถ้วนสมบูรณ์เป็นอย่างไร และมีอะไรที่จะต้องปรับปรุงให้สอดคล้องกับข้อกฎหมาย และให้เสนอมาด้วยว่าแนวทางที่ควรจะต้องปฏิบัติควรจะเป็นอย่างไร ที่จะทำให้เกิดความเป็นธรรม คุ้มครองผู้สุจริต และเอาผิดกับคนที่ทุจริตให้ได้ ส่วนกรณีที่ดีเอสไอส่งหนังสือให้ตรวจสอบครูผู้ช่วยจำนวน 2,161 ราย หลังสอบสวนพบว่าผู้สมัครมีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนตามหลักเกณฑ์นั้น ตนได้รับเรื่องดังกล่าวแล้วและขอให้ ก.ค.ศ.ไปดำเนินการแจ้ง อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการตรวจสอบหากพบว่าขาดคุณสมบัติจริงก็ให้ดำเนินการตามกฎหมาย เพราะถือว่าขาดคุณสมบัติในการปฏิบัติราชการ.
ที่มาของข่าว : เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 16 ตุลาคม 2556