'นิสิตครูมศว.'ค้านปลดล็อกตั๋วครู

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์
ก-
ก+
17 ก.ย.56 จากกรณีที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ มีนโยบายปลดล็อกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้มีความเชี่ยวชาญในวิชาชีพต่างๆ เข้ามาเป็นครูได้ และเป็นการแก้ปัญหาการขาดแคลนครูเฉพาะทางนั้น เมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา เวลา 16.30 น. กลุ่มนิสิตหลักสูตรการศึกษาบัณฑิต (กศ.บ. หลักสูตร 5 ปี ) คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.)ประมาณ 20 คน ได้ออกมาเรียกร้อง แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว พร้อมจัดเสวนา หัวข้อ"จะเป็นเช่นไร...หาก "ครูไทย" ไร้ใบประกอบวิชาชีพ"
โดยมีนายกฤษณ์ คงเปีย นิสิตคณะศึกษา เอกจิตวิทยาการแนะแนว และประธานสโมสรนิสิตคณะศึกษาศาสตร์ กล่าวว่า การออกมาแสดงความคิดเห็นในครั้งนี้ ก็เพื่อเป็นการแสดงจุดยืนของนิสิตครู มศว.ที่ต้องการให้ทางรมว.ศึกษาธิการ ยกเลิกนโยบายที่จะปลดล็อกใบประกอบวิชาชีพครู เพราะหากมีนโยบายดังกล่าวขึ้นมาจริงๆ จะเป็นการสร้างความไม่ยุติธรรมให้แก่นิสิตนักศึกษาที่เรียนวิชาชีพครูอย่างมาก อีกทั้งการเรียนครูไม่ใช่เรียนเพื่อมาสอนให้เด็กเก่งเพียงอย่างเดียว แต่ต้องรู้จักเด็ก สอนให้เด็กคิดเป็นคนดี มีคุณธรรมจริยธรรม อยู่ร่วมในสังคมกับผู้อื่นได้ เป็นวิชาชีพที่สร้างคนไม่ใช่สร้างตึก อาคาร ดังนั้น ผู้ที่จะมาเป็นครูไม่ใช่ว่าใครจะสามารถมาเป็นครูได้
“นโยบายที่จะเปิดโอกาสให้ผู้ที่อยู่อาชีพอื่นมาเป็นครูนั้น เอาอะไรมาการันตีว่าผู้ที่จบจากคณะอื่น อาชีพอื่นจะสอนดีกว่านิสิตนักศึกษาครู เพราะการจะเรียนเพื่อเป็นผู้อบรม บ่มเพาะเด็กคนหนึ่งไม่ใช่เรียน 2-3 ปีแล้วสามารถสอนเด็กได้ นิสิตนศ.ครูต้องเรียนถึง 5 ปี และการจะถ่ายทอดความรู้ให้แก่เด็ก ไม่ใช่สอนให้พวกเขาเก่ง หรือมีความรู้อย่างเดียว แต่ครูที่ดีต้องเรียนรู้จิตวิทยาของเด็กที่มีความแตกต่างกัน ครูต้องสอนเด็กตามอัตลักษณ์ ความเป็นตัวตน ความเก่ง ความถนัดของเด็ก ครูต้องรู้กระบวนการควบคุมห้องเรียน รู้จักการจัดการภาระงานของตนเอง และเรียนรู้จิตวิญญาณของความเป็นครู ซึ่งผู้ที่จบจากสาขาวิชาอื่นได้เรียนอะไรแบบนี้หรือไม่ ดังนั้น ต่อให้บอกว่าพวกเขามาอบรมความเป็นครู 1-2 ปี พวกเขาสามารถถ่ายทอดความรู้ตามที่ตัวเองเรียนมาได้ แต่พวกเขาก็ไม่เหมาะสมที่จะเป็นครู พวกเขาไม่รู้กระบวนการเรียนรู้เด็ก ไม่มีความรัก ห่วงใยและเข้าใจเด็ก”นายกฤษณ์ กล่าว
