"จาตุรนต์" ชี้ครูต้องปรับตัว-เพิ่มงานวิจัย-ใกล้ชิดนักเรียนมากขึ้น
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
"จาตุรนต์" ชี้ครูต้องปรับตัว-เพิ่มงานวิจัย-ใกล้ชิดนักเรียนมากขึ้น
กรุงเทพฯ 14 ก.ย.- นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดการประชุมทางวิชาการของคุรุสภา ประจำปี 2556 "การวิจัยเพื่อเพิ่มคุณภาพการศึกษาและการพัฒนาวิชาชีพ" และกล่าวว่า ในโลกปัจจุบันที่มีความเปลี่ยนแปลงในหลายด้าน จำเป็นอย่างยิ่งที่ครูจะต้องปรับตัวให้สอดรับเพื่อเป็นกลไกสำคัญในการสร้างเด็กเยาวชนไทยให้มีความพร้อมสู่การเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ เชื่อว่าครูไทยในปัจจุบัน มีความพร้อมอยู่แล้ว
นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ที่สำคัญต้องมีการพัฒนาระบบในการอบรมพัฒนาครูอย่างจริงจัง ว่าทำอย่างไรจึงจะมีประสิทธิภาพและมีผลต่อเนื่อง เช่น การจัดกลุ่มอบรม การเพิ่มโครงการพัฒนาครู การถ่ายทอดองค์ความรู้อย่างต่อเนื่อง และการส่งเสริมให้เกิดการถ่ายทอดวิธีการสอนแบบใหม่ ๆ ที่มีประสิทธิภาพ จะต้องมีการรวบรวมองค์ความรู้เหล่านี้อย่างเป็นระบบ จากครูที่มีผลงานดีเด่นทั่วประเทศ โดยใช้ไอซีทีมาเป็นเครื่องมือช่วย ซึ่งจะเป็นทางลัดให้กับการพัฒนาได้อย่างมาก
"ที่ผ่านมา การพัฒนาครูมุ่งเน้นการพัฒนาวิชาชีพครู แต่ยังเชื่อมโยงน้อยกับเป้าหมายคุณลักษณะผู้เรียนที่พึงประสงค์ จากนี้จึงต้องมีการวางระบบให้เชื่อมโยงกับเป้าหมายในตัวผู้เรียนมากขึ้น ขณะที่การเจริญก้าวหน้าทางวิชาชีพครู จะต้องสอดคล้องโดยตรงกับผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนอย่างมากกว่านี้ ซึ่งจะต้องมีวางระบบและเทคนิคนำไปสู่การทิศทางดังกล่าว" นายจาตุรนต์ กล่าวและย้ำว่า จากนี้ครูจะต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิดและวิธีทำ และต้องมีความใกล้ชิดผู้เรียนมากขึ้นกว่าเดิม
สำหรับการประชุมวิชาการครั้งนี้ จัดขึ้นที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 14-15 กันยายน มีครูและนักเรียนจากโรงเรียนหลายจังหวัดทั่วประเทศที่มีผลงานทางวิชาการดีเด่นมาจัดนิทรรศการแสดงผลงานที่น่าชื่นชมในความสามารถ เช่น นักเรียนวิทยาลัยเทคโนโลยีและการจัดการปง อำเภอปง จังหวัดพะเยา นำผลงานการประดิษฐ์เครื่องเผาถ่านหุงต้มจากซังข้าวโพด เครื่องทำน้ำอุ่นเตาถ่าน เครื่องปัดฝุ่นรองเท้า
ขณะที่โรงเรียนอนุบาลเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย มี ด.ช.ภูมิรพี สุระ นักเรียนชั้น ป.6 มานำเสนอความสำเร็จในการประดิษฐ์เครื่องพ่นมอเตอร์ไฟฟ้าพอเพียง จากการดัดแปลงใช้มอเตอร์และแบตเตอรี่ในรถยนต์มาเป็นกลไกเครื่องฉีดพ่นน้ำยาทางการเกษตรอัตโนมัติ เพราะไม่ต้องการให้พ่อแม่ที่เป็นเกษตรกรต้องลำบากในการใช้คันโยกเพื่อฉีดพ่นน้ำยา.
ที่มาของข่าว : เว็บไซต์สำนักข่าวไทย วันที่ 14 กันยายน 2556