การประเมินวิทยฐานะแนวใหม่ เพื่อขับเคลื่อนการยกระดับคุณภาพการศึกษา

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์
ก-
ก+

รมว.ศธ. กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้เป็นความต่อเนื่องการทำงานของ สพฐ.กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับการประเมินวิทยฐานะครูให้เชื่อมโยงกับผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน รวมทั้งคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ได้มีมติให้ศึกษาพัฒนาระบบการประเมินวิทยฐานะครูและบุคลากรทางการศึกษาแนวใหม่ เพื่อเป็นหลักเกณฑ์และวิธีการ และแนวทางให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา มีและเลื่อนวิทยฐานะ เป็นทางเลือกใหม่ในการที่จะมีความก้าวหน้าในวิชาชีพ ครอบคลุมทุกสายงานการสอน ส่งผลต่อขวัญและกำลังใจในการจัดการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพ ประกอบกับ ศธ.มีนโยบายปฏิรูประบบผลิตและพัฒนาครูให้สอดคล้องกับความต้องการ มีความรู้ความสามารถในการจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรปัจจุบันและรองรับหลักสูตรใหม่ รวมทั้งการเรียนรู้โลกยุคใหม่ด้วย
สพฐ.ในฐานะผู้รับผิดชอบ จึงได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ขึ้น เพื่อพัฒนาระบบการประเมินวิทยฐานะให้เชื่อมโยงกับผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน เสวนาและวิพากษ์หลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนวิทยฐานะ ด้วยการประเมินสมรรถนะ TPK Model สายงานการสอน รวมทั้งแนวทางการดำเนินงาน พร้อมทั้งมีการระดมความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งข้อดี ข้อเสีย ผลกระทบ และข้อเสนอแนะจากผู้มีส่วนได้เสีย ผู้ทรงคุณวุฒิ นักการศึกษา และนักวิชาการ เพื่อให้ได้ข้อสรุปแนวทางการดำเนินงานเหมาะสมและครอบคุลมสายงานการสอน








เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า เทคนิคและแนวทางการประเมินวิทยฐานะแนวใหม่ไม่ได้เข้ามาแทนการประเมินในทุกชั้นปีหรือในทุกกลุ่มสาระวิชาทันที ยังสามารถใช้หลักเกณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ว27 ว17 ว5 ไปก่อนได้ ควบคู่ไปกับการพัฒนาหลักเกณฑ์ที่มีแนวคิดจาก TPK Model โดยเริ่มต้นจาก 3 กลุ่มสาระที่มีความชัดเจนที่สุด คือ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ ซึ่ง สสวท. และหน่วยงานด้านภาษาอังกฤษ มีความเข้มแข็งและมีเครื่องมือในการประเมินสมรรถนะครูอย่างเต็มระบบและเชื่อถือได้ โดยประเมินคุณภาพผู้เรียนจาก O-Net และ NT เป็นตัวตั้ง นอกจากนี้ได้มีการเรียกร้องให้ประเมินแบบใหม่ในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้และทุกชั้นปี แต่ สพฐ.ในฐานะผู้รับผิดชอบ มีความเห็นว่า เรายังไม่มีความพร้อมในทุกกลุ่มสาระหรือทุกชั้นปี ควรจะเริ่มต้นจากกลุ่มสาระและชั้นปีที่มีความพร้อมให้ได้เข้าสู่ระบบไว้ก่อน เช่น ป.3 ป.6 ม.3 และ ม.6 จากนั้นจึงจะขยายกลุ่มสาระและชั้นปีมากขึ้นจนกระทั่งเต็มระบบต่อไป หากรอเพื่อให้มีความพร้อมทุกกลุ่มสาระและทุกชั้นปี ก็อาจจะต้องใช้เวลาอีกหลายปี





