การจ่ายเงินเดือนระหว่างออกจากราชการ
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
การจ่ายเงินเดือนระหว่างออกจากราชการ
1.ข้าราชการพลเรือนที่กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงต้องถูกลงโทษให้ออก ปลดออกหรือไล่ออกจากราชการโดยคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือได้รับการพิจารณายกโทษ เช่นนี้ จะได้รับเงินเดือนระหว่างที่ออกจากราชการไปดังกล่าวหรือไม่
1.ข้าราชการพลเรือนที่กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงต้องถูกลงโทษให้ออก ปลดออกหรือไล่ออกจากราชการโดยคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือได้รับการพิจารณายกโทษ เช่นนี้ จะได้รับเงินเดือนระหว่างที่ออกจากราชการไปดังกล่าวหรือไม่
2.ปัญหาประเด็นนี้ได้ตรวจค้นย้อนหลังไปพบว่าในปี พ.ศ.2523 กระทรวงการคลังได้อาศัยมาตรา 15 แห่ง พ.ร.ฎ.การจ่ายเงินเดือนเงินปีฯ พ.ศ. 2524 เสนอร่างระเบียบการจ่ายเงินเดือนให้แก่ข้าราชการซึ่งถูกสั่งให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากราชการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและข้าราชการซึ่งถูกสั่งให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากราชการแล้วต่อมาได้รับการพิจารณายกโทษโดยเสนอว่า เมื่อกรณีถึงที่สุดแล้ว จะได้รับเงินเดือนในระหว่างที่มิได้ปฏิบัติราชการดังนี้
(1)ถ้ามิได้กระทำผิดและไม่มีมลทินหรือมัวหมอง ให้จ่ายตามที่ผู้มีอำนาจพิจารณา กำหนด(กรณีที่มิได้ให้จ่ายเต็ม)
(2)ถ้ากระทำความผิดหรือมีมลทินหรือมัวหมองให้จ่ายได้ ไม่เกินครึ่งหนึ่งของเงินเดือนที่ได้รับขณะออกจากราชการ
3.คณะรัฐมนตรีได้ประชุมปรึกษาเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2523 ลงมติเห็นชอบ(หนังสือสำนักเลขาธิการ ค.ร.ม.ที่สร 0201/ว.214 ลงวันที่ 10 พ.ย.2523)
4.ต่อมากระทรวงการคลังอาศัยอำนาจตามมาตรา 16 แห่งพ.ร.ฎ.การจ่ายเงินเดือน เงินปีฯ พ.ศ.2535 นำระเบียบปี 2523 ดังกล่าวมาออกเป็นระเบียบกระทรวงการคลัง ตามหนังสือกระทรวงการคลังที่ ก.ค.0502/ว.86 ลงวันที่ 30 ส.ค.2538
5.หลังจากนั้นปี 2549 มีการแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.ฎ.การจ่ายเงินเดือน เงินปีฯ พ.ศ.2535 โดยเปลี่ยนแปลงผู้มีอำนาจกำหนดสิทธิได้รับเงินเดือนของข้าราชการในกรณีอื่น
ตามมาตรา 16 วรรคสอง จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นอธิบดีกรมบัญชีกลาง
6.อธิบดีกรมบัญชีกลาง จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 16 วรรคสอง ดังกล่าวออกระเบียบกรมบัญชีกลางว่าด้วยการจ่ายเงินเดือนให้แก่ข้าราชการซึ่งออกจากราชการโดยคำสั่งลงโทษทางวินัยหรือคำสั่งให้ออกจากราชการแล้วได้รับการพิจารณายกเลิก เพิกถอน หรือเปลี่ยนแปลงคำสั่งเป็นอย่างอื่น พ.ศ. 2551 โดยมีหลักการเป็นเช่นเดียวกัน แต่มีการกำหนดรายละเอียดสำคัญเพิ่มเติม 2 ประการสำคัญ คือ
(1)การเปลี่ยนแปลงคำสั่งนั้นต้องเป็นไปตามคำพิพากษาของศาล เพิ่มจากเดิมที่มีเฉพาะคำวินิจฉัยของผู้มีอำนาจพิจารณาตามกฎหมายเท่านั้น
(2)กรณีที่ข้าราชการผู้นั้น กลับเข้ารับราชการไม่ได้เพราะว่าเกษียณอายุ หรือถึงแก่ความตายก่อนคดีหรือกรณีถึงที่สุด ก็ให้จ่ายเงินเดือนให้วันสิ้นปีงบประมาณที่เกษียณหรือวันที่ถึงแก่ความตาย
7.นอกจากนั้น ยังมีการจ่ายเงินเดือนระหว่างพักราชการเมื่อกรณีหรือคดีถึงที่สุดตามมาตรา 7 แห่งพ.ร.บ.เงินเดือนของข้าราชการผู้ถูกสั่งพักราชการ พ.ศ 2502 โดยกำหนดให้จ่ายตามหลักเกณฑ์เดียวกัน เว้นแต่กรณีถูกลงโทษถึงออกจากราชการมิให้จ่าย สำหรับกรณีที่ผู้นั้น ตายก่อนคดีหรือกรณีถึงที่สุดให้เจ้ากระทรวงพิจารณาและวินิจฉัยตามหลักฐานที่มีอยู่ตามมาตรา 7 โดยอนุโลม...ก็นำมาบอกเล่ากันให้รับทราบไว้
ที่มาของข่าว : เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 11 สิงหาคม 2556