ห่วงมหา'ลัย ฮั้วเขตพื้นที่ฯ โกงสอบครูผู้ช่วยทั่วไป เดือน มิ.ย.นี้
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
ผู้ตรวจ ศธ.วอนผู้บริหารมหา'ลัย สอดส่อง คุมเข้มปิดช่องทุจริตทุกทาง ยกกรณีตัวอย่างคณะดังออกข้อสอบ แต่คนในรับเงินและรู้เห็นปล่อยข้อสอบรั่ว พร้อมจี้ "คุรุสภา" อย่านิ่งนอนใจควรประกาศย้ำ ครู ผู้บริหารร่วมขบวนการโกงสอบครู ถอนใบวิชาชีพตลอดชีวิต เชื่อสกัดขบวนการทุจริตได้
วันที่ 27 พ.ค.56 นายพิษณุ ตุลสุข ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีการทุจริตสอบคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการครู ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีมีความจำเป็น หรือเหตุพิเศษ ว12 เปิดเผยว่า การตรวจสอบและเอาผิดขบวนการทุจริตสอบครูผู้ช่วย ว12 ที่ผ่านมาก็ต้องเดินหน้าต่อไป และถือเป็นบทเรียนของ ศธ. แต่ขณะเดียวกันก็ต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้การสอบครูผู้ช่วยทั่วไป ประจำปี2556 ระหว่างวันที่ 22-24 มิ.ย.56 ต้องไม่ให้เกิดทุจริต ซึ่งที่ผ่านมาเริ่มมีกระแสข่าวว่าขบวนการทุจริตสอบครูผู้ช่วย เริ่มออกหาลูกค้าเพื่อจะทำการโกงสอบแล้ว ทั้งที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก็ทยอยกวาดล้างขบวนการทุจริตสอบครูผู้ช่วยที่ผ่านมาอยู่ อย่างไรก็ดี หากขบวนการทุจริตสอบไม่เกรงกลัวและเราจัดการไม่ได้ ก็ต้องไปปลุกจิตสำนึกที่เหยื่อหรือผู้ใช้บริการโกงสอบนั้น ให้เกิดการเปลี่ยนใจใหม่ ซึ่งเรื่องนี้สามารถทำได้
ผู้ตรวจราชการ ศธ. กล่าวอีกว่า เริ่มแรกต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาประกาศย้ำ ถึงมาตรการลงโทษให้ชัดเจนก่อน อย่างที่ผ่านมาสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ก็ได้ประกาศย้ำชัดเจนแล้วว่า หากบุคคลใดกระทำการทุจริตในการสอบเข้ารับราชการ หรือเข้าปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ ก็จะถูกขึ้นบัญชีดำตลอดชีวิต ไม่สามารถสมัครสอบเข้ารับราชการครูได้อีก แต่คุรุสภากลับยังเงียบอยู่ ซึ่งคิดว่าจากนี้ผู้บริหารคุรุสภา ต้องออกมาประกาศย้ำให้ชัดเจนเช่นกันว่า บุคคลใดที่กระทำการทุจริตจะถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถเป็นครูที่ไหนได้อีก ทั้งครูโรงเรียนรัฐ และเอกชน เพราะจะไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู อย่างไรก็ตาม หากผู้สอบได้รับทราบมาตรการลงโทษที่รุนแรงจากการทุจริตแล้ว จะได้เปลี่ยนใจไม่ใช่บริการ และเมื่อไม่มีผู้ใช้บริการก็จะไม่มีผู้ให้บริการหรือขบวนการทุจริตสอบต่อไป
"การจะทำให้การสอบครูผู้ช่วยทั่วไป นี้ไร้ทุจริต นอกจากจะต้องกระตุ้นจิตสำนึกผู้สอบแล้ว แต่ละเขตพื้นที่ฯ ต้องเข้มแข็งและรัดกุมไม่ปล่อยให้เกิดการทุจริต ส่วน ก.ค.ศ. เองก็ต้องเด็ดขาดกล้าตัดสินใจ เพราะอย่างหลายคดีทุจริตสอบครูผู้ช่วย ที่เรื่องส่งมาจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่ผ่านมา ถึงแม้จะผ่านมา 4-5 ปีแล้ว ขณะนี้ ก.ค.ศ.ก็ยังไม่ตัดสินเลย ทำให้ไม่รู้ว่าใครถูกหรือผิด จนอาจทำให้ไม่มีใครเชื่อมั่นและไม่กลัว ดังนั้นถึงเวลาที่ ก.ค.ศ.จะต้องตัดสินใจให้เด็ดขาด"
นายพิษณุ กล่าวและว่า ยังเป็นห่วงในหลักเกณฑ์และวิธีการสอบครูผู้ช่วยทั่วไปนี้ โดยเฉพาะในข้อ 4ที่ให้เขตพื้นที่ฯ รวมกลุ่มกันตามเขตตรวจราชการ ศธ.และดำเนินการให้สถาบันอุดมศึกษาที่เห็นควร ให้เป็นผู้ออกข้อสอบ ส่งข้อสอบ ตรวจกระดาษคำตอบ และประมวลผลการสอบตามหลักสูตรที่กำหนดนั้น จริงๆ คำว่า "สถาบันอุดมศึกษา" พอถึงเวลาจริงอาจเป็นเพียงคณะใดคณะหนึ่ง หรือคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่รับทำ ซึ่งหากเป็นอย่างนี้ก็อาจมีช่องโหว่ให้ทุจริตได้ เพราะสถาบันอุดมศึกษาไม่ได้มีคนดีทั้งหมด เปรียบเหมือนสังคมที่มีทั้งคนดีและคนเลว
ดังนั้นหากใช้คำว่าสถาบันอุดมศึกษา ก็อยากให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยนั้นๆ ได้รับรู้ สอดส่อง และคัดเลือกคนดี มีความซื่อสัตย์ สุจริตมาร่วมออกข้อสอบด้วย เพื่อการออกข้อสอบจะได้มีความปลอดภัย และไม่เสียชื่อเสียงสถาบันอุดมศึกษาตัวเอง อย่างไรก็ตาม การให้สถาบันอุดมศึกษาออกข้อสอบที่ผ่านมา มีกรณีคณะหนึ่งของสถาบันอุดมศึกษาแห่งหนึ่งรับออกข้อสอบ แต่ปรากฏว่าคนในคณะนั้นกลับไปรับเงินและรู้เห็นกับเขตพื้นที่ฯ ทำให้ออกข้อสอบตามที่เขตพื้นที่ฯได้กำหนด ต่อมาเกิดธุรกิจติวเตอร์ที่ติวตรงตามข้อสอบจริงทั้งหมด ซึ่งตรงนี้ถือเป็นการเอาเปรียบผู้สอบทั่วไป ดังนั้นก็อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยกันเฝ้าระวังในเรื่องนี้ด้วย เพราะการสอบครูผู้ช่วยทั่วไปรอบนี้ จะมีหลายสถาบันอุดมศึกษาที่ได้รับการทาบทามมาออกข้อสอบ