ประเด็นร้อนในแวดวงครู เมื่อเพจ “คุณครูครับ” เผยแพร่โพสต์ตั้งคำถามว่า “การลาเป็นสิทธิ ทำไมต้องถูกนำมาใช้ประกอบการประเมินความดีความชอบ?” ทำให้เกิดการถกเถียงอย่างกว้างขวางในหมู่ครูและข้าราชการจำนวนมาก
การลาเป็นสิทธิจริง แต่ทำไมมีผลต่อการประเมิน?
ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ.2555 การลาเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของข้าราชการทุกคน แต่หากลามากเกินกว่าที่กำหนดอาจกระทบต่อการพิจารณาความดีความชอบในแต่ละรอบได้ ทำให้ครูจำนวนไม่น้อยรู้สึกว่า แม้ลาตามสิทธิ แต่กลับถูกนำมาใช้หักคะแนนประเมิน ซึ่งไม่เป็นธรรม
เพจคุณครูครับตั้งคำถามว่า

“เมื่อลาตามสิทธิ ทำไมยังถูกนำไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของการประเมิน? ลาเพราะมีความจำเป็น ไม่ได้ลามั่ว หรือใช้สิทธิเกินระเบียบ”
ประเด็นนี้ทำให้มีครูจำนวนมากเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย
เสียงสะท้อนจากผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก
ความคิดเห็นที่ 1: สนับสนุนการลา หากไม่กระทบงานผู้อื่น
“ถ้าการลาไม่เพิ่มภาระให้คนอื่น ลาเลยครับ แต่ส่วนใหญ่แล้วกระทบทั้งนั้น… การลาป่วยหรือเลี้ยงดูคนในครอบครัวอันนี้เข้าใจได้ แต่ลากิจไปเที่ยวอาจไม่เหมาะสม”
ความคิดเห็นที่ 2: ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ไม่ควรนำมาหักคะแนน
“เห็นด้วยครับ เป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ไม่ควรนำมาใช้เป็นเกณฑ์พิจารณา ถ้าอยู่ในจำนวนที่ระเบียบกำหนด”
ความคิดเห็นที่ 3: บางคนชี้ว่าลาได้ แต่ภาระงานไปตกกับเพื่อนครู
“เป็นสิทธิค่ะ แต่เมื่อภาระงานไปตกที่เพื่อนครู คนที่ลาบ่อย ๆ ก็ไม่ควรได้รับประโยชน์เท่าคนที่รับภาระแทน”
ความคิดเห็นที่ 4: ผู้บริหารบางคนไม่เคยลา แต่ก็ไม่โปร่งใสเรื่องเวลา
“บรรดาผอ.ทั้งหลายไม่ค่อยลา แต่ไปไหนไม่เคยบอก ไปสายบ่อยกว่าลูกน้องก็มี”
ความคิดเห็นที่ 5: บางส่วนเห็นว่า ลายังเป็นตัวชี้วัดความรับผิดชอบ
“บางคนลาบ่อยในวันที่มีงานเข้า แบบนี้สะท้อนคุณภาพการทำงาน การมาทำงานสม่ำเสมอคือความใส่ใจ”
ความคิดเห็นที่ 6: อีกมุมหนึ่งคือ ผู้ลาบ่อยอาจเสียสิทธิการขึ้นเงินเดือน
“ก็เป็นสิทธิของผู้ลา แต่สิทธิการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนก็เป็นอำนาจของผู้บริหารเช่นกัน”
ปัญหาเดียวกันนี้เคยเกิดในประเด็นอื่นด้วย
ผู้ใช้งานบางรายยกตัวอย่างว่า แม้การ “เขียนย้าย” จะเป็นสิทธิของครูเช่นกัน แต่กลับถูกผู้บริหารบางแห่งใช้พิจารณาเลื่อนเงินเดือนเช่นเดียวกัน สะท้อนความไม่เป็นธรรมที่ยังเกิดขึ้นในหลายโรงเรียน
ประเด็นนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงและสะท้อนระบบประเมินผลที่ไม่สอดคล้องกันในแต่ละสถานศึกษา ซึ่งอาจจำเป็นต้องมีแนวทางกลางที่ชัดเจน เพื่อให้เป็นธรรมกับครูทุกคน
อ่านต้นฉบับได้ที่
เพจคุณครูครับ : คลิกเพื่ออ่านโพสต์ต้นทาง
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก :: เพจคุณครูครับ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2568
