08 ธ.ค. 2568โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เบญจมราชาลัย รับสมัครลูกจ้างชั่วคราว 5 อัตรา (ครู/นักจิตวิทยา/ขับรถ/ช่าง) 08 ธ.ค. 2568สพป.กำแพงเพชร เขต 1 รับสมัครพนักงานราชการครู 7 อัตรา เงินเดือน 21,780 บาท 08 ธ.ค. 2568ด่วนที่สุด! ก.ค.ศ. สั่งเบรกย้ายครูผ่านระบบ TRS ชั่วคราว (เริ่ม 1 ม.ค. 69) ให้กลับไปใช้เกณฑ์ ว18 พร้อมสั่งเขตฯ ส่งปฏิทินย้ายด่วน ภายใน 19 ธ.ค.นี้! 08 ธ.ค. 2568โรงเรียนเพชรพิทยาคม รับสมัครลูกจ้างชั่วคราว 2 อัตรา (พัสดุ/ช่างโยธา) สมัคร 15-20 ธ.ค. 68 08 ธ.ค. 2568สพป.ศรีสะเกษ เขต 2 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 9 อัตรา (ขอใช้บัญชี สพป.ศรีสะเกษ เขต 1) รายงานตัว 11 ธ.ค.นี้ 08 ธ.ค. 2568โรงเรียนบ้านโป่งตาเบ้า รับสมัครครูวิกฤต วิชาเอกสังคมศึกษา เงินเดือน 15,000 บาท 07 ธ.ค. 2568เตรียมพร้อม! ประกาศผลสอบท้องถิ่น ภาค ก และ ภาค ข ปี 2568 รวมลิงก์เช็กรายชื่อผู้มีสิทธิสอบภาค ค ไว้ที่นี่ 07 ธ.ค. 2568สพป.อุดรธานี เขต 3 รับสมัครพนักงานราชการครู 8 อัตรา เงินเดือน 21,780 บาท 06 ธ.ค. 2568สพป.นครราชสีมา เขต 4 รับสมัครพนักงานราชการครู 10 อัตรา เงินเดือน 21,780 บาท 05 ธ.ค. 2568โรงเรียนวัดพระมหาธาตุ รับสมัครครูอัตราจ้าง วิชาเอกภาษาอังกฤษ เงินเดือน 10,000 บาท
ข่าวการศึกษา >
ผอ.สพท.วิจารณ์ระบบย้าย TRS ก.ค.ศ.ปัญหาเพียบ! ไม่ทันความต้องการ รร.

ผอ.สพท.วิจารณ์ระบบย้าย TRS ก.ค.ศ.ปัญหาเพียบ! ไม่ทันความต้องการ รร.
ผอ.สพท.วิจารณ์ระบบย้าย TRS ก.ค.ศ.ปัญหาเพียบ! ครูขาดขวัญกำลังใจ-ล่าช้าไม่ทันความต้องการโรงเรียน
เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2568 คอลัมน์ บทความ/รายงานพิเศษ EduGuide 4.0 นำเสนอประมวลเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของกลุ่มผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (ผอ.สพท.) ทั้งในปัจจุบันและอดีตหลายคน ที่มีต่อปัญหาการยื่นคำร้องขอย้ายข้าราชการครูผ่านระบบ TRS (Teacher Rotation System) ของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ซึ่งได้สะท้อนผ่านโซเชียล และให้ความเห็นโดยตรงกับ EduGuide 4.0 ดังต่อไปนี้

องค์ประกอบพิจารณา 2.กลุ่มวิชา หรือทาง หรือสาขาวิชาที่สอน พบปัญหาประเด็นที่ 1 ผู้ยื่นคำร้องขอย้ายแจ้งในระบบว่า มีประสบการณ์การสอน 12 ปี ข้อที่พบ
1) ผู้ยื่นคำร้องฯส่งตารางสอนมาไม่ครบจำนวน 12 ปีหรือตามเกณฑ์ ส่งมาแค่ 1 ปีการศึกษา โปรแกรมก็ประมวลผลให้คะแนน 20 คะแนน (ซึ่งตามเกณฑ์ต้องได้ 12 คะแนน เพราะมีเอกหลักฐานแค่ 1 ปี ซึ่งประเด็นนี้ขาดความชัดเจนของหลักเกณฑ์ให้คะแนนว่า
จะให้แนบหลักฐานเท่าใคร ใครเป็นคนรับรอง บางทีคนที่สอนมา 12 ปี แผนการสอนอาจจะไม่ได้เก็บไว้ หรือถ้าทำขึ้นใหม่จะตรงตามความจริงหรือไม่
2) ในกรณีที่ผู้ยื่นคำร้องขอย้ายจบไม่ตรงวิชาเอกที่ขอย้ายสามารถใช้หลักเกณฑ์สาขาวิชาที่ได้รับวิทยฐานะขอย้ายได้ เช่น ครูจบเอกประถมศึกษา ได้ได้วิทยฐานะสาขาวิชาภาษาไทย ก็สามารถยื่นคำร้องขอย้ายในสาขาวิชาภาษาไทยได้ ซึ่งตรงนี้ นาย ก เอกประถมศึกษา สอนชั้น ป.3 มา 12 ปี พึ่งได้วิทยฐานะชำนาญการเอกภาษาไทย 2 ปี โปรแกรมควรจะไปประมวลผลในข้อใด
3) การประมวลผลคะแนนของระบบได้จากการลงข้อมูลของผู้ยื่นคำร้องขอย้าย ถ้าผู้ยื่นคำร้องลงระบบไม่ตรงความเป็นจริง ผู้บริหารสถานศึกษาต้นทางตรวจสอบเอกสารหลักฐาน พิจารณาอนุมัติเห็นควรให้ย้าย โปรแกรมก็จะประมวลผลคะแนนตามผู้ยื่นคำร้องให้ข้อมูล แต่ถ้าผู้บริหารตรวจสอบพบว่า เอกสารหลักฐานไม่ถูกต้องให้แจ้งผู้ขอย้ายแก้ไข (ประเด็นนี้ผู้บริหารต้องตรวจสอบให้ชัดเจน)
4) สพท.ได้ตรวจสอบอีกครั้ง ถ้าพบว่าเอกสารหลักฐานไม่ถูกต้องหรือไม่ครบตามเกณฑ์ คะแนนที่ได้จะไม่ตรงกับโปรแกรมประมวลผล (ทำให้เกิดข้อสงสัยและความไม่เข้าใจระหว่างผู้ขอย้ายกับผู้ตรวจสอบ)
องค์ประกอบพิจารณา 3.เหตุผลในการขอย้าย ปัญหาที่พบ
1) ผู้ยื่นคำร้องขอย้ายส่งเอกสารหลักฐานไม่ตรงกับเหตผลที่ขอย้าย เช่น ขอย้ายเพื่อดูแลบิดา มารดา แต่ทะเบียนบ้านบิดามารดาไม่ได้ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ขอประสงค์ขอย้าย 2) ถ้าทะเบียนบ้านของบิดามารดาอยู่อำเภอใกล้เคียง หรือติดกับโรงเรียนที่ผู้ยื่นคำร้องขอย้ายเขียนลง แต่คนละเขตพื้นที่การศึกษาก็จะได้คะแนน 6 (เหตุผลอื่น) (ในเชิงบริหารไม่สามารถพิจารณาตรงนี้ได้ ถึงแม้ว่าระยะห่างของที่อยู่ของบิดา
มารดาจะติดกับโรงเรียนที่ขอย้ายก็ตาม เนื่องจากโปรแกรมยึดภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้าน 3) คนที่มีความรู้ ความสามารถ คนโสด อยากพัฒนางาน สถานศึกษาอยากได้เนื่องจากเป็นครูที่มีความสามารถ ถ้าขอ
ย้ายก็จะได้คะแนนแค่ 6 คะแนน
ยังมีข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า 1.กรณีที่ผู้ยื่นคำร้องขอย้ายได้คะแนนเท่ากัน ระบบ TRS จะประมวลผลโดยเรียงอันดับผู้ที่ได้คะแนนองค์ประกอบที่ 1 มากกว่าเป็นผู้อยู่ในอันดับที่ดีกว่า ถ้าองค์ประกอบที่ 1 เท่ากัน ก็ให้พิจารณาองค์ประกอบที่ 2 ถ้าองค์ประกอบที่ 2 เท่ากัน ก็ให้พิจารณาองค์ประกอบถัดไปทีละองค์ประกอบ 2.การได้ครูอาจไม่ได้ตรงวิชาเอกที่ต้องการ เนื่องจากสามารถใช้หลักเกณฑ์การยื่นขอวิทยฐานะเทียบเคียงได้ 3.ครูที่มีผลงานดีเด่นเชิงประจักษ์ เช่น พัฒนางานได้รางวัลต่างๆ ที่เกิดกับตนเอง กับนักเรียน กับโรงเรียน ไม่ได้นำมาใช้ ทำให้ขาดขวัญกำลังใจอันจะส่งผลให้ครูขาดความกระตือรือร้นในการพัฒนางาน สร้างผลงานต่างๆ
4.ในเชิงบริหารไม่สามารถใช้หลักธรรมาภิบาล โดยเฉพาะหลักคุณธรรมตามสภาพจริงในการบริหารจัดการได้ 5.ไม่สามารถย้ายต่อเนื่องได้ทันที เพราะต้องรอการแนบรายงานมติของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาให้เรียนร้อยก่อน 6.ครูที่มีความเดือดร้อน จำเป็นจริงๆ ขอย้ายลงโรงเรียนใดก็ได้ ไม่สามารถรับย้ายได้เนื่องจากโปรแกรมไม่ได้ระบุ 7.ครูช่วยราชการที่ความเดือดร้อน จำเป็น ที่ช่วยราชการในโรงเรียนนั้นอยู่แล้ว แต่โรงเรียนเปิดรับวิชาเอกว่างไม่ตรงกับครูที่ช่วยราชการ ก็ไม่สามารถรับย้ายช่วยเหลือครูคนนี้ได้ หรือโรงเรียนว่างตรงตามวิชาเอกของครูที่ช่วยราชการ แต่โปรแกรมประมวลผลคะแนนน้อยกว่ารายอื่นๆ ที่เขียนขอย้ายเข้ามา เชิงบริหารก็ไม่สามารถช่วยเหลือดูแลครูที่ช่วยราชการที่โรงเรียนนี้อยู่ก่อนแล้ว
นอกจากนี้ ผอ.สพท.บางคนได้สะท้อนว่า ย้ายได้จำกัดมาก ถ้ามีตำแหน่งว่างหลังการย้ายตามตำแหน่งทึ่ประกาศรับย้าย ก็ยากที่จะใช้พิจารณาย้ายต่อเนื่อง การระบุสาขาวิชาก็มีปัญหา เอกปฐมวัย พอระบุเอกการศึกษาปฐมวัย ในระบบกลับระบุว่าสาขาวิชาเอกไม่ตรงที่ระบุรับย้าย ไม่เห็น ก.ค.ศ.ออกมาพูดถึงปัญหาและการแก้ไขในครั้งนี้ เหมือนจะให้ผ่านไปแล้วไปว่ากันใหม่ครั้งหน้าหรืออย่างไร ครูเราจะเสียโอกาส เสียสิทธิเพียงใด เพราะกำหนดการพิจารณาให้เสร็จภายใน 31 มีนาคม 2568 นับวันจะลิดรอนโอกาสและสิทธิไปทุกที
ตำแหน่งว่างจากการย้ายเคยนำมาพิจารณาต่อเนื่องจากผู้ที่ระบุขอย้ายตรง หรือระบุในอำเภอ ในเขต ซึ่งช่วยสร้างโอกาสการรับย้าย กับช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ที่จะย้ายมาใกล้บ้าน ใช้แต่กลไกอิเล็กทรอนิกส์ตัดโอกาสการดูแลขวัญกำลังใจและสภาพจิตใจของผู้เป็นครูในปัจจุบัน ลืมวิถีชีวิตจิตวิญญาณที่เคยมีในอดีตมาให้ความสำคัญกับวิถีดิจิทัล ด้วยความกลัวคำว่าทุจริตที่ตามหลอกหลอน และใช้เป็นข้ออ้างมาอย่างต่อเนื่องของคนมีอำนาจในการลดโอกาสตัดรอนวิธีการที่จะสร้างบรรยากาศ และวิถีทางของการบริหารงานบุคคลทึ่มีคุณธรรม จริยธรรม ขวัญกำลังใจอย่างหลากหลาย ใครทำผิด ทุจริต หาผลประโยชน์ ก็ดำเนินการลงโทษอย่างจริงจัง ปัจจุบันการติดตามตรวจสอบ การฟ้องร้อง เปิดไว้อย่างกว้างขวาง ถ่วงดุลป้องปรามชัดเจนอยู่แล้ว
อีกเรื่องหนึ่งที่อยากชวนท่าน ผอ.สพท.ทั้งหลายและท่านผู้มีอำนาจ ลองพิจารณาการกำหนดสาขาวิชาเอก หลักที่บังคับว่า ต้องมีให้ครบก่อนจึงจะมีสาขาวิชาเอกนอกจากนั้นได้ คนกำหนดก็เน้นกอดเอาแต่วิชาประถมฯ ปฐมวัย ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ อังกฤษ สังคม เป็นหลัก นอกนั้นไม่สำคัญใช่ไหม ซึ่งไม่ว่า ศิลปะ ดนตรีไทย/สากล นาฏศิลป์ พละศึกษา เกษตร คหกรรมศาสตร์ ฯลฯ ไม่สำคัญใช่ไหม ทั้งที่เป็นสาขาที่ก่อให้เกิดทักษะชีวิต/การทำงาน/อาชีพ พัฒนาทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์ ความสุนทรีย์ทางชีวิตจิตวิญญาณของความเป็นมนุษย์ เน้นหัวโตแบบกลวงๆ เท่านั้นใช่ไหม
คิดอะไรมันตื้นเขินคับแคบเข้าไปทุกที แล้วเราจะพัฒนาเด็กของเราให้เจริญเติบโตเป็นมนุษย์ที่มีวีถีชีวิตที่ดีอย่างไร วิชาหลัก 5 วิชา คนจบ ป.ตรีเขามีความรู้สอนได้ เนื่องจากพื้นฐานเหล่านึ้ได้เรียนรู้มาก่อน ป.ตรึและตอน ป.ตรี ลองไตร่ตรองกันบ้างก็น่าจะดี ไม่เช่นนั้นจะกล่ายเป็นมนุษย์หุ่นยนต์ด้อยค่าจิตวิญญาณและความเป็นมนุษย์ทั้งครูและเด็ก ไม่ถูกใจท่านใดก็ขออภัย คิดและนำเสนอด้วยความเป็นห่วงคนเป็นครูและนักเรียน ในฐานะคนในวงการศึกษาที่เห็นภาวะมาหลายยุคหลายสมัย จะผิดถูกอย่างไรฝากพิจรณาดูครับ
มีอดีต ผอ.เขตฯได้ตั้งข้อสังเกตในทำนองเดียวกันว่า เพราะอะไรให้ครูยื่นขอย้ายเลือกลงได้แค่ 3 โรงเรียน เพราะอะไรไม่มีเกณฑ์ครูย้ายไปดูแลลูกในกรณีแม่เลี้ยงเดี่ยว ลูกอยู่ที่ แม่อยู่ที่ และเลื่อนไหลไม่ได้ ขาดการบริหารจัดการ
ทั้งนี้ ยังมีเสียงสะท้อนจากโรงเรียนไปถึง ผอ.สพท. "เรียนท่าน ผอ.เขต ระบบ TRS การย้ายไม่ตรงสาขา โดยเฉพาะโรงเรียนที่เน้นวิชาการ (การสอบเรียนต่อชั้นที่สูงขึ้น) ต้องการครูที่ตรงสาขาวิชาเอกที่จบการศึกษาครับ ระยะยาวการย้ายจะได้เอกประถมเต็มไปหมดครับ ผมคิดว่ามีบางประเด็นของระบบTRS ที่ทาง ก.ค.ศ.ควรทำความเข้าใจกับครู เพื่อให้ครูบันทึกข้อมูลในระบบได้อย่างถูกต้อง ไม่เสียสิทธิ์ในการย้าย เช่น การบันทึกข้อมูลในส่วนที่ 1 ซึ่งระบบควรยึดวิชาเอกที่บรรจุ (ส่วนที่ 2) ให้ตรงกับวิชาเอกที่โรงเรียนรับย้ายเป็นสำคัญ เพราะหากยึดกลุ่มวิชาจากการทำผลงานวิทยฐานะ จะส่งผลให้โรงเรียนได้ครูที่ไม่ตรงกับวิชาเอก และอาจไม่มีความเชี่ยวชาญ และทำให้ครูกลุ่มวิชาเอกจริงๆ เสียโอกาสย้ายด้วย"
อีกโรงเรียนสะท้อนว่า "1.การดำเนินการให้คะแนนโดยใช้ระบบ AI และการตรวจทานข้อมูลในการตรวจสอบความถูกต้อง น่าจะมีคณะกรรมการร่วมในการกลั่นกรองช่วยความถูกต้องและเหมาะสม 2.โรงเรียนไม่สามารถรับครูย้ายต่อเนื่องได้จากการประกาศตำแหน่งว่าง ทำให้เสียโอกาสในการที่จะมีครูมาชดเชยตำแหน่งที่ว่าง ซึ่งหากต้องรอการย้ายในรอบต่อไปต้องใช้เวลานานถึง 6 เดือน จึงมีความจำเป็นต้องเรียกบรรจุครูผู้ช่วย ซึ่งบางเขตฯไม่มีตำแหน่งวิชาเอกที่ต้องการ จึงต้องไปขอใช้ต่างเขตฯ ส่งผลทำให้เกิดความล่าช้า และอาจไม่ทันต่อความต้องการของโรงเรียน 3.เอกสารที่ใช้ประกอบการยื่นควรมีห้วงระยะเวลาที่เหมาะสม เช่น การมีวิทยฐานะ ทะเบียนบ้านที่ใช้ในการประกอบยื่นคำร้อง ควรจะมีรายละเอียดประกอบที่ชัดเจน ส่งผลให้คะแนนที่ได้เป็นธรรมต่อทุกคน ไม่ใช่เป็นการเฉพาะกิจ การพิจารณาความจำเป็นวิชาเอกควรมีค่าคะแนนมาก และมาก่อนภูมิลำเนา"
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: เว็บไซต์ eduguidenews.com วันที่ 2 เมษายน 2568