กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น รับสมัครสอบบรรจุ ปี 2568 จำนวน 8,557 อัตรา สมัครทางเว็บไซต์ 7-28 มีนาคม 2568  เช็กคุณสมบัติ-เอกสารที่ต้องใช้ก่อนยื่นสมัครผ่านเว็บไซต์


ประกาศรับสมัครสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น  
โดยคณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.)  

กสถ. เปิดรับสมัครสอบแข่งขัน แบ่งเขตการสมัครออกเป็น 10 กลุ่มภาค เพื่อความสะดวกในการขึ้นบัญชีและการบรรจุแต่งตั้ง ตามอัตราว่างของแต่ละพื้นที่ รายละเอียดดังนี้  

 กลุ่มภาคกลาง  
 เขต 1: ชัยนาท, นนทบุรี, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, ลพบุรี, สระบุรี, สิงห์บุรี, อ่างทอง  
 เขต 2: จันทบุรี, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ตราด, นครนายก, ปราจีนบุรี, ระยอง, สมุทรปราการ, สระแก้ว  
 เขต 3: กาญจนบุรี, นครปฐม, ประจวบคีรีขันธ์, เพชรบุรี, ราชบุรี, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร, สุพรรณบุรี  

 กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  
 เขต 1: กาฬสินธุ์, ขอนแก่น, ชัยภูมิ, นครราชสีมา, บุรีรัมย์, มหาสารคาม  
 เขต 2: มุกดาหาร, ยโสธร, ร้อยเอ็ด, ศรีสะเกษ, สุรินทร์, อำนาจเจริญ, อุบลราชธานี  
 เขต 3: นครพนม, บึงกาฬ, เลย, สกลนคร, หนองคาย, หนองบัวลำภู, อุดรธานี  

 กลุ่มภาคเหนือ  
 เขต 1: เชียงราย, เชียงใหม่, น่าน, พะเยา, แพร่, แม่ฮ่องสอน, ลำปาง, ลำพูน  
 เขต 2: กำแพงเพชร, ตาก, นครสวรรค์, พิจิตร, พิษณุโลก, เพชรบูรณ์, สุโขทัย, อุตรดิตถ์, อุทัยธานี  

 กลุ่มภาคใต้  
 เขต 1: กระบี่, ชุมพร, นครศรีธรรมราช, พังงา, ภูเก็ต, ระนอง, สุราษฎร์ธานี  
 เขต 2: ตรัง, นราธิวาส, ปัตตานี, พัทลุง, ยะลา, สงขลา, สตูล  

ตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร 
- ตำแหน่งประเภททั่วไป  
- ตำแหน่งประเภทวิชาการ  
- ตำแหน่งครูผู้ช่วย  

รายละเอียดเกี่ยวกับอัตราว่าง เงินเดือน และเงื่อนไขการสมัคร สามารถตรวจสอบได้จากประกาศฉบับเต็มของ กสถ.  

3.2 คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง
(1) ผู้สมัครสอบต้องมีคุณวุฒิการศึกษาที่ ก.จ. ก.ท. ก.อบต. หรือ ก.พ. รับรองว่าตรงตาม คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งที่สมัครสอบก่อนหรือในวันปิดรับสมัครสอบ โดยคุณวุฒิการศึกษาที่ตรงตาม คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งมีรายละเอียดตามที่ระบุไว้ใน “บัญชีตำแหน่งที่เปิดรับสมัครภาค/เขต” ตามข้อ 1
(2) ผู้สมัครสอบในตำแหน่ง “ครูผู้ช่วย” นอกจากมีคุณสมบัติตาม (1) แล้ว ต้องมีใบอนุญาต ประกอบวิชาชีพครูหรือหลักฐานที่ใช้แสดงในการประกอบวิชาชีพครูตามที่คุรุสภาออกให้เพื่อปฏิบัติหน้าที่สอนที่ยังไม่ หมดอายุในวันปิดรับสมัคร
(3) ผู้สมัครสอบในตำแหน่ง “วิศวกรเครื่องกลปฏิบัติการ, วิศวกรไฟฟ้าปฏิบัติการ, วิศวกรโยธาปฏิบัติการ และวิศวกรสุขาภิบาลปฏิบัติการ” นอกจากมีคุณสมบัติตาม (1) แล้วต้องมีใบอนุญาตเป็น ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมตามที่กฎหมายกำหนดที่ยังไม่หมดอายุในวันปิดรับสมัคร
(4) ผู้สมัครสอบในตำแหน่ง “สถาปนิกปฏิบัติการ” นอกจากมีคุณสมบัติตาม (1) แล้ว ต้องมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุมตามที่กฎหมายกำหนดที่ยังไม่หมดอายุในวันปิด รับสมัคร
(5) ผู้สมัครสอบในตำแหน่ง “พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ” นอกจากมีคุณสมบัติตาม (1) แล้ว
ต้องมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสาขาการพยาบาลชั้นหนึ่ง หรือสาขาการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง ที่ยังไม่หมดอายุในวันปิดรับสมัคร
(6) ผู้สมัครสอบในตำแหน่ง “นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ” นอกจากมีคุณสมบัติตาม (1) แล้ว
ต้องมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์จากสัตวแพทยสภาที่ยังไม่หมดอายุในวันปิดรับสมัคร
(7) ผู้สมัครสอบในตำแหน่ง “นักฉุกเฉินการแพทย์ปฏิบัติการ” นอกจากมีคุณสมบัติ ตาม (1) แล้ว ต้องมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาฉุกเฉินการแพทย์ที่ยังไม่หมดอายุในวันปิดรับสมัคร
(8) ผู้สมัครสอบในตำแหน่ง “นักกายภาพบำบัดปฏิบัติการ” นอกจากมีคุณสมบัติตาม (1) แล้ว ต้องมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขากายภาพบำบัด หรือใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพกายภาพบำบัด ของสภากายภาพบำบัดที่ยังไม่หมดอายุในวันปิดรับสมัคร
(9) ผู้สมัครสอบในตำแหน่ง “นักสาธารณสุข” นอกจากมีคุณสมบัติตาม (1) แล้ว ต้องมี ใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชนที่ยังไม่หมดอายุในวันปิดรับสมัคร
ทั้งนี้ สำหรับตำแหน่งที่คุณสมบัติตามมาตรฐานกำหนดตำแหน่งกำหนดให้มีใบอนุญาต ประกอบวิชาชีพ ต้องมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพตามที่กำหนดไว้ในมาตรฐานกำหนดตำแหน่งที่ยังไม่หมดอายุ ในวันปิดรับสมัคร

4. การรับสมัคร ต้องเตรียมเอกสารหลักฐานดังต่อไปนี้  
รับสมัครสอบทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 7 - 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้น วันหยุดราชการ ที่เว็บไซต์ หัวข้อ “สมัครสอบแข่งขัน อปท.” โดยผู้มีคุณสมบัติข้างต้นและประสงค์จะสมัครสอบแข่งขันตามเงื่อนไข หลักเกณฑ์ และวิธีการสอบที่กำหนด ให้ดำเนินการตามขั้นตอน ดังนี้
4.1 เข้าไปที่เว็บไซต์ หัวข้อ "สมัครสอบแข่งขัน อปท.” 4.2 ให้ผู้สมัครสอบกรอกข้อมูลการสมัครให้ถูกต้องและครบถ้วน ปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนด พร้อมอัปโหลด (upload) ไฟล์ ดังนี้
(1) รูปถ่ายสีหน้าตรง ไม่สวมหมวกและไม่สวมแว่นตาดำ พื้นหลังไม่มีลวดลาย ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน ขนาด 1 นิ้ว โดยใช้รูปแบบไฟล์รูปภาพและขนาดตามที่ระบบกำหนด ทั้งนี้ รูปถ่ายจะปรากฏบนใบสมัครสอบ บัตรประจำตัวผู้เข้าสอบสำหรับแสดงตนในการเข้าสอบ และหนังสือรับรองผลการสอบผ่านภาคความรู้ ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) กรณีที่รูปถ่ายไม่ถูกต้องอาจมีผลต่อการตรวจสอบตัวบุคคลในการเข้าสอบและหัวหน้า ผู้กำกับการสอบหรือกรรมการกำกับการสอบอาจไม่อนุญาตให้เข้าสอบ โดยถือเป็นความบกพร่องของผู้สมัครสอบเอง จะอ้างว่าระบบรับสมัครได้ทำการรับสมัครไว้แล้วไม่ได้
(2) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (ที่ยังไม่หมดอายุ)
(3) สำเนาทะเบียนบ้าน
(4) สำเนาใบปริญญาบัตร/ประกาศนียบัตร และสำเนาระเบียนแสดงผลการศึกษา
(Transcript of Records) ที่แสดงว่าเป็นผู้มีคุณวุฒิการศึกษาตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง ตามประกาศรับสมัคร โดยต้องสำเร็จการศึกษาและได้รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจอนุมัติภายในวันปิดรับสมัครคือวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่เป็นฉบับภาษาไทยเท่านั้น ทั้งนี้ ผู้ที่จะถือว่าเป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตร ระดับใด จะถือตามกฎหมาย กฎ หรือระเบียบเกี่ยวกับการสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรของสถานการศึกษานั้น เป็นเกณฑ์ โดยให้อัปโหลด (upload) ไฟล์ คุณวุฒิการศึกษาที่ ก.พ. ก.จ. ก.ท. ก.อบต. หรือ ก.ค.ศ. รับรอง แล้วแต่กรณี
(5) สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ (ต้องไม่หมดอายุ) ดังนี้
(5.1) สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูหรือหลักฐานที่ใช้แสดงในการประกอบ วิชาชีพครูตามที่คุรุสภาออกให้เพื่อปฏิบัติหน้าที่สอน (กรณีสมัครสอบตำแหน่งครูผู้ช่วย) อบตาแหน่งครูผู้ช่วย
(5.2) สำเนาใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมตามที่กฎหมาย กำหนด (กรณีสมัครสอบตำแหน่งวิศวกรเครื่องกลปฏิบัติการ วิศวกรไฟฟ้าปฏิบัติการ วิศวกรโยธาปฏิบัติการ และวิศวกรสุขาภิบาลปฏิบัติการ)
(5.3) สำเนาใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุมตามที่กฎหมาย กำหนด (กรณีสมัครสอบตำแหน่งสถาปนิกปฏิบัติการ)
(5.4) สำเนาใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์จากสัตวแพทยสภา (กรณีสมัครสอบตำแหน่งนายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ)
(5.5) สำเนาใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสาขาการพยาบาลชั้นหนึ่ง หรือสาขา การพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง (กรณีสมัครสอบตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ)
(5.6) สำเนาใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาฉุกเฉินการแพทย์ (กรณีสมัครสอบ ตำแหน่งนักฉุกเฉินการแพทย์ปฏิบัติการ)
(5.7) สำเนาใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขากายภาพบำบัด หรือใบอนุญาต เป็นผู้ประกอบวิชาชีพกายภาพบำบัดของสภากายภาพบำบัด (กรณีสมัครสอบตำแหน่งนักกายภาพบำบัดปฏิบัติการ)
(5.8) สำเนาใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน (กรณีสมัครสอบ ตำแหน่งนักสาธารณสุขปฏิบัติการ)
ทั้งนี้ สำหรับตำแหน่งที่คุณสมบัติตามมาตรฐานกำหนดตำแหน่งกำหนดให้มีใบอนุญาต ประกอบวิชาชีพ ต้องมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพตามที่กำหนดไว้ในมาตรฐานกำหนดตำแหน่งที่ยังไม่หมดอายุ ในวันปิดรับสมัคร
(6) เอกสารทางทหาร คือ
- หนังสือสำคัญ (แบบ สด.8) หรือ
- ใบสำคัญ (แบบ สด.4) หรือ
- ใบรับรองผลการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ(แบบ สด.43)
(3) สำเนาหลักฐานอื่น ๆ เช่น ใบสำคัญการสมรส ใบเปลี่ยนชื่อ - นามสกุล (ในกรณีชื่อ - นามสกุล ในหลักฐานการสมัครไม่ตรงกัน)
 สำเนาหลักฐานตามข้อ 4.2 (2) - 4.2 (2) ให้อัปโหลด (upload) ประเภทของ ไฟล์เป็น PDF ขนาดไม่เกิน 1 เมกะไบต์ (1 MB) เอกสารทุกฉบับให้ผู้สมัครเขียนคำรับรองว่า “สำเนาถูกต้อง” ลงลายมือชื่อและลายมือชื่อตัวบรรจง วันที่ พร้อมเขียนชื่อตำแหน่งที่สมัครสอบ กำกับไว้ทุกหน้า
กรณีผู้สมัครไม่ได้อัปโหลด (upload) รูปถ่ายและเอกสารประกอบการสมัครจะไม่สามารถสมัครสอบได้
ทั้งนี้ เมื่อยืนยันข้อความที่ได้กรอกแล้ว ระบบจะออกใบตรวจสอบข้อมูลผู้สมัครและแบบฟอร์ม การชำระเงินค่าธรรมเนียมในการสมัครโดยอัตโนมัติ
4.3 พิมพ์แบบฟอร์มการชำระเงินลงในกระดาษขนาด A4 จำนวน 1 แผ่น หรือจัดเก็บข้อมูล ไว้ในรูปแบบ File หากต้องการพิมพ์แบบฟอร์มการชำระเงินในภายหลังในกรณีได้ยืนยันการสมัครสอบแล้ว แต่ไม่สามารถจัดเก็บข้อมูลไว้ในรูปแบบ File หรือไม่สามารถพิมพ์แบบฟอร์มการชำระเงินได้ ผู้สมัครสอบ สามารถค้นหาข้อมูลการสมัครสอบและแบบฟอร์มการชำระเงินนั้น ได้ที่เว็บไซต์ตามข้อ 4.1 หัวข้อ “ตรวจ สถานะการสมัครสอบ” โดยกรอกเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ทั้งนี้ ไม่สามารถแก้ไขข้อมูลการสมัครสอบ ที่ได้ยืนยันในระบบไปแล้ว
4.4 ค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบ จำนวน 430 บาท ประกอบด้วย
(1) ค่าธรรมเนียมสอบ จํานวน 400 บาท
(2) ค่าธรรมเนียมธนาคารรวมค่าบริการทางอินเทอร์เน็ต จำนวน 30 บาท
ค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบจะไม่จ่ายคืนให้ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ การสมัครสอบจะมี ผลสมบูรณ์เมื่อมีการชำระค่าธรรมเนียมในการสมัครภายในระยะเวลาที่กำหนด
4.5 นำแบบฟอร์มการชำระเงินตามข้อ 4.3 ไปชำระเงินค่าธรรมเนียมตั้งแต่วันที่ 7 - 29 มีนาคม พ.ศ. 2568 ได้ที่ บมจ. ธนาคารกรุงไทย โดยสามารถชำระได้ 3 ช่องทาง ดังนี้
(1) การชำระผ่านทางเคาน์เตอร์ บมจ.ธนาคารกรุงไทย (Teller Payment) ให้ผู้สมัคร นำแบบฟอร์มการชำระเงินไปชำระเงินที่เคาน์เตอร์ บมจ. ธนาคารกรุงไทยทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 7 - 29 มีนาคม พ.ศ. 2568 ภายในวันและเวลาทำการของธนาคาร และให้เก็บหลักฐานการชำระเงินไว้เป็นหลักฐานด้วย (2) การชำระผ่านทางแอปพลิเคชัน ดังนี้
(2.1) การชำระเงินผ่านทางแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT ของ บมจ. ธนาคารกรุงไทย โดยผู้สมัครซึ่งมีบัญชีธนาคารกรุงไทยที่ได้ลงทะเบียน (Register) ขอใช้บริการ Krungthai NEXT แล้ว สามารถ เลือกชำระเงินผ่านทางระบบแอปพลิเคชัน และปฏิบัติตามขั้นตอนที่ระบบกำหนดไว้ โดยชำระเงินได้ตั้งแต่วันที่ วันที่ 7 - 29 มีนาคม พ.ศ. 2568 ภายในเวลา 22.00 น. และให้เก็บหลักฐานการชำระเงินไว้เป็นหลักฐานด้วย
(2.2) การชำระเงินผ่านทางแอปพลิเคชัน เป๋าตัง โดยผู้สมัครที่ได้ลงทะเบียน (Register) ขอใช้บริการแอปพลิเคชัน เป๋าตัง แล้ว สามารถนำรหัส QR Code ไปทำรายการชำระเงินผ่านแอปพลิเคชัน เป๋าตัง และปฏิบัติตามขั้นตอนที่ระบบกำหนดไว้ โดยชำระเงินได้ตั้งแต่ วันที่ 7 - 29 มีนาคม พ.ศ. 2568 ภายในเวลา 22.00 น. และให้เก็บหลักฐานการชำระเงินไว้เป็นหลักฐานด้วย
(3) การชำระเงินผ่านทางเครื่อง ATM ของ บมจ. ธนาคารกรุงไทย
ผู้สมัครที่มีบัตร ATM ของ บมจ. ธนาคารกรุงไทย สามารถเลือกชำระเงิน โดยนำ แบบฟอร์มการชำระเงินจากระบบไปทำรายการชำระเงินผ่านเครื่อง ATM ของ บมจ. ธนาคารกรุงไทย และ ปฏิบัติตามขั้นตอนที่ระบบกำหนดไว้ โดยชำระเงินได้ตั้งแต่วันที่ 7 - 29 มีนาคม พ.ศ. 2568 ภายในเวลา 22.00 น. และให้เก็บหลักฐานการชำระเงินไว้เป็นหลักฐานด้วย
4.6 ผู้สมัครที่ชำระค่าธรรมเนียมสอบแล้ว จะได้รับเลขประจำตัวสอบ (การกำหนด เลขประจำตัวสอบโดยการสุ่ม) และสามารถเข้าไปพิมพ์บัตรประจำตัวผู้เข้าสอบ ซึ่งจะประกาศให้ทราบในวัน ประกาศรายชื่อผู้สมัคร วัน เวลา สถานที่สอบ และระเบียบเกี่ยวกับการสอบ ที่เว็บไซต์ หัวข้อ “พิมพ์บัตรประจำตัวผู้เข้าสอบ” แล้วพิมพ์บัตรประจำตัวผู้เข้าสอบ ที่มีเลขประจำตัวสอบลงในกระดาษ A4 โดยผู้สมัครสอบต้องลงลายมือชื่อในบัตรประจำตัวผู้เข้าสอบให้ครบถ้วน (โดยผู้สมัครสอบต้องตรวจสอบภาพถ่ายให้ตรงกับผู้สมัครสอบ) เพื่อนำไปแสดงตนหรือส่งมอบให้เจ้าหน้าที่คุมสอบ ในวันสอบ
4.7 ผู้สมัครสอบที่มีความพิการทางการเห็น (ตาบอดทั้งสองข้าง) ตามประกาศกระทรวง การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลงวันที่ 30 เมษายน 2552 เรื่อง ประเภทและหลักเกณฑ์ความพิการ ข้อ 4 (1) ให้ระบุในการกรอกข้อมูลการสมัครด้วย เพื่อจะจัดให้เข้าสอบที่ศูนย์สอบกรุงเทพมหานคร หรือในสถานที่ ที่คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) กำหนดเท่านั้น

5. เงื่อนไขการสมัคร
5.1 ในการสมัครสอบครั้งนี้ ผู้สมัครสอบจะสมัครสอบผ่านทางอินเทอร์เน็ต ได้เพียงครั้งเดียว เท่านั้น เมื่อสมัครสอบแล้วจะไม่สามารถแก้ไขข้อความใด ๆ ได้อีก
5.2 ผู้สมัครสอบเลือกสมัครสอบได้เพียง 1 ตำแหน่ง และเลือกกลุ่มภาค/เขต ที่สมัครสอบได้ เพียง 1 กลุ่มภาค/เขต เมื่อสมัครแล้วจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขไม่ได้ (ผู้สมัครจึงต้องละเอียด รอบคอบ และตรวจสอบ การพิมพ์ชื่อ - สกุล เลขประจำตัวประชาชน และหมายเลขโทรศัพท์ ให้ถูกต้อง)
5.3 ผู้สมัครสอบจะต้องเป็นผู้มีคุณวุฒิการศึกษาตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง ที่สมัครสอบตามข้อ 3.2 โดยต้องเป็นผู้สำเร็จการศึกษาและได้รับการอนุมัติจากผู้มีอำนาจอนุมัติภายใน วันปิดรับสมัคร คือ วันที่ 28 มีนาคม 2568 ทั้งนี้ การสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรระดับใด จะถือตาม กฎหมาย กฎหรือระเบียบเกี่ยวกับการสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรของสถานศึกษานั้นเป็นเกณฑ์
5.4 การสมัครสอบตามประกาศนี้ ถือว่าผู้สมัครเป็นผู้ลงลายมือชื่อ และรับรองความถูกต้อง ของข้อมูลดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 และแก้ไขเพิ่มเติม ดังนั้น หากผู้สมัครจงใจกรอกข้อมูลอันเป็นเท็จ อาจมีความผิดทางอาญาฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1397
5.5 ผู้สมัครสอบต้องรับผิดชอบในการตรวจสอบและรับรองตนเองว่า เป็นผู้มีคุณสมบัติ ตรงตามประกาศรับสมัครสอบ และต้องกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ให้ถูกต้องครบถ้วนตรงตามความเป็นจริง ในกรณีที่มีความผิดพลาดอันเกิดจากผู้สมัคร หรือหากภายหลังผู้สมัครรายใดมีคุณสมบัติไม่ถูกต้องครบถ้วน หรือตรวจพบว่าเอกสารและหรือหลักฐานคุณวุฒิซึ่งผู้สมัครสอบนำมายื่นไม่ตรงหรือไม่เป็นไปตามประกาศ รับสมัครสอบ ให้ถือว่าผู้สมัครสอบเป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการสมัครสอบครั้งนี้มาตั้งแต่ต้นและไม่มีสิทธิ ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง และจะไม่คืนค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบ
5.6 หากปรากฏหลักฐานว่า ผู้สมัครมีการสมยอมให้มีการเรียกรับเงิน เพื่อแลกกับการช่วยเหลือให้เป็นผู้สอบแข่งขันได้ หรือทุจริตการสอบแข่งขันต้องถูกปรับให้ตก และถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้สมัครสอบแข่งขัน เป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นไปตลอดชีวิต รวมทั้งต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญา

6. การประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าสอบ วัน เวลา สถานที่สอบ และระเบียบเกี่ยวกับการสอบ คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) จะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ เข้าสอบภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) และภาคความรู้ความสามารถเฉพาะสำหรับตำแหน่ง (ภาค ข) และ จะประกาศ วัน เวลา สถานที่สอบ และระเบียบเกี่ยวกับการสอบ ทางเว็บไซต์ โดยผู้สมัครสอบสามารถตรวจสอบชื่อผู้มีสิทธิสอบภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) ภาคความรู้ความสามารถที่ ใช้เฉพาะสำหรับตำแหน่ง (ภาค ข) และสถานที่สอบของตนเองได้ ที่หัวข้อ “ตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าสอบภาค ก ภาค ข และสถานที่สอบ"
ให้ผู้สมัครสอบพิมพ์บัตรประจำตัวผู้เข้าสอป (ซึ่งมีรายละเอียดตำแหน่งที่สมัครสอบ วัน เวลา สถานที่สอบ รูปถ่ายผู้สมัครสอบ เลขประจำตัวสอบ) ทางเว็บไซต์ หัวข้อ “พิมพ์บัตรประจำตัวผู้เข้าสอบ” ซึ่งจะประกาศให้ทราบในภายหลัง

รายละเอียดเพิ่มเติม  || เว็บสมัครสอบ