LASTEST NEWS

12 ก.พ. 2568ศธ.ตั้งเป้าสอบ PISA ปีนี้เพิ่มแน่ 5 คะแนน 12 ก.พ. 2568สพป.ลพบุรี เขต 2 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย (ขอใช้บัญชีเขตอื่น) จำนวน 15 อัตรา - รายงานตัว 14 กุมภาพันธ์ 2568 12 ก.พ. 2568สพป.ลำพูน เขต 1 เตรียมเปิดสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ปี 2568 จำนวน 8 อัตรา 12 ก.พ. 2568สพม.กรุงเทพมหานคร เขต 1 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 83 อัตรา - รายงานตัว วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 12 ก.พ. 2568ตำแหน่งว่าง 287 อัตรา เปิดสอบครูผู้ช่วย สกร. ปี พ.ศ.2568 (กรณีพิเศษ) ทั่วประเทศ 11 ก.พ. 2568สพฐ.หนุนก.ค.ศ.ทำระบบย้ายครูTRS ประหยัดงบกว่า 30 ล้าน 11 ก.พ. 2568ปรับเงินเดือนข้าราชการ 2568 ดูฐานเงินเดือนใหม่ได้ที่นี่ 11 ก.พ. 2568สพฐ. เดินหน้าหลักสูตรใหม่! เริ่มใช้หลักสูตรปฐมวัย-ประถมต้น 2568 นำร่องโรงเรียนสมัครใจ 16 พ.ค. 68 นี้ 10 ก.พ. 2568ด่วนที่สุด! กรมส่งเสริมการเรียนรู้ กระทรวงศึกษาธิการ สำรวจกลุ่มวิชา / สาขาวิชาเอก เปิดสอบครูผู้ช่วย ปี พ.ศ. 2568 10 ก.พ. 2568“ธนุ” เผย เตรียมเสนอครม.อนุมัติงบเฉพาะขั้นพื้นฐาน แก้ปัญหารร.เล็กภายในก.พ.นี้

ลดการบ้าน"สพฐ.สั่ง-ครูทำ" หลายฝ่ายยกมือเห็นด้วย แต่ยังติงต้องชัดเจนภาคปฏิบัติ รู้นัย"การบ้านคืออะไร"

  • 31 ม.ค. 2556 เวลา 07:22 น.
  • 3,030
ลดการบ้าน"สพฐ.สั่ง-ครูทำ" หลายฝ่ายยกมือเห็นด้วย แต่ยังติงต้องชัดเจนภาคปฏิบัติ รู้นัย"การบ้านคืออะไร"

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

สพฐ.ไม่แคร์เสียงวิพากวิจารณ์ สั่งลดการบ้านเด็กไร้ระบบ ยันทำตามนโยบายของ รมว.ศธ. ส่วนแนวทางปฏิบัติให้โรงเรียนไปพิจารณาบริหารจัดการกันเอง ส่วนกลางเพียงให้นโยบายเท่านั้น "ชินภัทร" โวเปิดเทอมใหม่เด็กต้องมีความสุขมากขึ้นแน่ ด้านนักวิชาการเห็นด้วย แต่ติงควรลดแบบมีแบบแผน ทำความเข้าใจกับครูว่าลดการบ้านเท่ากับลดจำนวนชิ้นงาน แต่ทักษะความรู้ต้องเพิ่มขึ้น ไม่อย่างนั้นกลายเป็นทำร้ายเด็กทางอ้อม "พงศ์เทพ" ระบุ ม.ปลายห้ามลด แต่ประถมลดได้ สอน สพฐ.ต้องชัดเจนว่าการบ้านคืออะไร 
 
    คำสั่งของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่ให้โรงเรียนในสังกัดปรับลดการให้การบ้านเด็กนักเรียน อีกทั้งลดการสอบวัดผลนักเรียนให้เหลือเท่าที่จำเป็น โดยเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปีการศึกษาแรกของปี 2556 โดยให้เหตุผลว่าเพื่อลดความเครียดเด็ก ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายทั้งครูและผู้ปกครอง โดยเฉพาะความชัดเจนในแนวทางปฏิบัติ ซึ่งแม้ว่าในเบื้องต้นทาง สพฐ.จะมอบให้สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษาไปจัดทำคู่มือบูรณาการหลักสูตรครบวงจรให้แล้วเสร็จภายในเดือน เม.ย.56 จากนั้นจะจัดอบรมครูเพื่อเตรียมความพร้อมต่อไปก็ตาม 
 
    นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ชี้แจงอีกครั้งว่า การสั่งปรับลดให้การบ้านนักเรียนสอดคล้องกับการปฏิรูปหลักสูตรการศึกษา เป็นไปตามนโยบายของนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ศึกษาธิการ ที่เคยกล่าวไว้ว่าเด็กไทยเรียนมาก แต่รู้น้อย ทาง สพฐ.จึงได้นำแนวความคิดเชิงนโยบายมาวิเคราะห์ปัญหาดังกล่าวเกิดจากสาเหตุใดบ้าง สมมติฐานว่าทั้งเนื้อหาวิชาและเวลาเรียนต่อวันเรามีมาก ยิ่งหากมาดูในห้องเรียน เรื่องการสั่งการบ้านที่ครูแต่ละวิชาให้แต่ละวัน รวมถึงการประเมินผลต่างๆ ทั้งจากระดับเขตพื้นที่การศึกษาและระดับชาติ ซึ่งเป็นความหวังดีของผู้ใหญ่ แต่สุดท้ายกลับเป็นภาระเด็ก
 
    เลขาธิการ กพฐ.กล่าวอีกว่า ดังนั้นเราจึงคิดว่าหากไม่ให้เกิดสภาวะเรียนมาก แต่รู้น้อย แสดงว่าการเรียนควรเรียนเท่าที่จำเป็น แต่ได้ผลมากกว่า ซึ่งเราก็เทียบเคียงกับการประเมินนักเรียนนานาชาติ หรือพิซา ที่เป็นการทดสอบนักเรียนอายุ 15 ปีทั่วโลก เพื่อดูว่าเด็กประเทศไหนมีคุณภาพและมีความพร้อมมากกว่ากัน ขณะที่พิซาก็ทดสอบสมรรถนะเด็ก 3 ด้าน คือ การอ่านภาษา การคิดคำนวณ และด้านวิทยาศาสตร์ ก็แสดงว่าการวัดผลเรื่องดังกล่าวเป็นการวัดผลหลักที่สำคัญ ขณะที่เราก็นำแนวทางดังกล่าวมาประกอบกัน ได้แนวทางว่าจากนี้ไปจะมีการบูรณาการมากขึ้น ทั้งการจัดการเรียนการสอนที่ครูในกลุ่มสาระต่างๆ จะสอนบูรณาการกันได้ รวมไปถึงการให้การบ้าน อย่างกรณีที่ผ่านมา ครูทั้ง 8 กลุ่มสาระให้การบ้านพร้อมกันหมด เด็กก็จะมีการบ้านมากมายมหาศาล แต่หากครูมีการพูดคุยกันก่อนว่า ภาคการศึกษานี้จะสอนเรื่องอะไรบ้าง รวมถึงการบ้านที่ให้นักเรียนไปค้นคว้าจะมีกี่เรื่อง ก็ทำให้ครูแต่ละกลุ่มสาระสามารถประเมินนักเรียนได้อย่างเพียงพอ อย่างการบ้านที่จะให้จาก 8 ส่วน ต่อไปก็อาจลดเหลือ 3 ส่วน หรือ 4 ส่วน
 
    “เปิดภาคการศึกษาที่ 1/2556 ในเดือน พ.ค.56 เด็กจะมีความสุขมากขึ้น ในแง่ทำการบ้านเท่าที่จำเป็น ไม่ซ้ำซ้อน ขณะที่ครูวิชาต่างๆ ต้องมาคุยและวางแผนกันก่อนในการให้การบ้าน ดังนั้นต่อไปนี้จะเป็นการบูรณาการครบวงจรทั้งหลักสูตรและวิธีการจัดการเรียนการสอน อย่างไรก็ตาม จุดสมดุลของการให้การบ้านอยู่ที่โรงเรียนเป็นผู้กำหนดรายละเอียด เพราะ สพฐ.ไม่ได้บอกว่าให้ลดเท่านั้นเท่านี้ เพียงจะบอกแนวทางเพื่อเป็นนโยบายไว้ก่อน” นายชินภัทรกล่าว
    ขณะที่ ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าว เพราะจากข้อมูลจาก สสส.พบว่านักเรียนในปัจจุบันมีความเครียดที่เกิดจากหลายสาเหตุ อย่างภาระการบ้านมหาศาลก็เป็นหนึ่งในปัจจัย ดังนั้นหากสามารถปรับลดการบ้านลงได้ ก็สามารถลดความเครียดของนักเรียนได้ส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม คิดว่าการให้การบ้านควรปรับให้สมดุลและเหมาะสม คือการบ้านสามารถลดลงได้ แต่ไม่ควรหายไปทั้งหมด เพราะยังมีความสำคัญ
 
    ด้าน ศ.ดร.ศิริชัย กาญจนวาสี อดีตคณบดีคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับการลดการบ้านให้นักเรียน เพราะปัจจุบันต้องยอมรับว่านักเรียนมีการบ้านจำนวนมาก เนื่องจากครูในแต่ละวิชาต่างก็ให้การบ้านในวิชาของตนเอง และไม่ใช่ให้เพียงชิ้นเดียว แต่ให้หลายชิ้น ทำให้นักเรียนต้องทำการบ้านมาก ไม่มีเวลาทำกิจกรรมและอ่านหนังสือ ฉะนั้นคำสั่งดังกล่าวจะช่วยให้นักเรียนมีเวลาไปทำกิจกรรมอย่างอื่น แต่ทั้งนี้ ในทางปฏิบัติต้องชัดเจนด้วยว่า เมื่อลดการบ้านแล้ว ทักษะองค์ความรู้ของเด็กก็ต้องไม่ถูกลดด้วย ไม่เช่นนั้นครูอาจมองว่าการลดการบ้าน ลดชิ้นงาน อาจรวมไปถึงลดทักษะความรู้นักเรียนด้วย 
 
    “สพฐ.จะต้องทำความเข้าใจกับครูว่า การลดการบ้านคือการลดจำนวนชิ้นงาน แต่ทักษะความรู้ต้องเพิ่มขึ้น โดยครูในแต่ละสาขาวิชาต้องมาพูดคุยทำความเข้าใจ และบูรณาการความรู้ในแต่ละวิชาร่วมกัน ซึ่งหากทำได้จะเป็นการช่วยให้เด็กได้คิดวิเคราะห์แบบบูรณาการได้ อย่างไรก็ตาม การบ้านถือเป็นการฝึกปฏิบัติให้เด็กได้คิด วิเคราะห์ มีเหตุมีผล และเข้าใจในแต่ละวิชามากขึ้น ดังนั้น สพฐ.ต้องดูให้ละเอียดรอบคอบด้วยว่าการลดการบ้านจะไม่ส่งผลต่อการลดทักษะเด็ก เพราะหากครูไม่เข้าใจ ต่างคนยังต่างให้การบ้าน ลดเพียงจำนวนชิ้นงาน และทักษะความรู้เด็กลดไปด้วย การลดการบ้านจะกลายเป็นการทำร้ายเด็กทางอ้อม” ศ.ดร.ศิริชัยกล่าว
 
    นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมองภาพรวม อย่าพูดเป็นจุดๆ เพราะนักเรียนแต่ละวัย แต่ละระดับชั้นไม่เหมือนกัน เช่น นักเรียนระดับประถมศึกษาไม่ควรจะต้องมีการเรียนอะไรมาก และไม่ควรมีการบ้านเยอะ แต่ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่จะต้องทุ่มเทเพื่อการสอบเข้าเรียนต่อ จะมีความแตกต่างจากระดับอื่น เป็นต้น ดังนั้นจะมาลดการบ้านเหมือนกันทั้งหมดไม่ได้ นอกจากนี้ คำว่าการบ้านควรจะต้องมากำหนดว่าเป็นการบ้านอะไร เพราะการบ้านบางอย่างทำให้เด็กไม่รู้สึกว่าเป็นการบ้าน อย่างครูให้นักเรียนอ่านหนังสือสัปดาห์ละสองเล่ม แบบนี้จะถือว่าเป็นการบ้านหรือไม่ ดังนั้นตนอยากให้มีการแยกแยะเรื่องนี้ให้ชัดเจน.
 
 
 
  • 31 ม.ค. 2556 เวลา 07:22 น.
  • 3,030

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

ความคิดเห็นเกี่ยวกับ : ลดการบ้าน"สพฐ.สั่ง-ครูทำ" หลายฝ่ายยกมือเห็นด้วย แต่ยังติงต้องชัดเจนภาคปฏิบัติ รู้นัย"การบ้านคืออะไร"

เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^