LASTEST NEWS

20 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 20 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 19 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพม.นครสวรรค์ - ผลย้ายครู 2567 สพม.นครสวรรค์ 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 2 (รอบที่ 1) สพป.นราธิวาส เขต 1 - ผลย้ายครู 2567 สพป.นราธิวาส เขต 1 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพป.น่าน เขต 1 - ผลย้ายครู 2567 สพป.น่าน เขต 1 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพม.นครพนม - ผลย้ายครู 2567 สพม.นครพนม 19 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพป.ราชบุรี เขต 2 - ผลย้ายครู 2567 สพป.ราชบุรี เขต 2 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 2) สพป.ขอนแก่น เขต 3 - ผลย้ายครู 2567 สพป.ขอนแก่น เขต 3

ด่วนที่สุด ราชกิจจานุเบกษา โอนอำนาจ บริหารงานบุคคล จาก กศจ. กลับไปเป็นของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่

  • 09 พ.ย. 2565 เวลา 13:44 น.
  • 2,631
ด่วนที่สุด ราชกิจจานุเบกษา โอนอำนาจ บริหารงานบุคคล จาก กศจ. กลับไปเป็นของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

ด่วนที่สุด ราชกิจจานุเบกษา โอนอำนาจ บริหารงานบุคคล จาก กศจ. กลับไปเป็นของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่

เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๙/๒๕๖๐ เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ ๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๖๕ ดังนี้
 
พระราชบัญญัติ
แก้ไขเพิ่มเติมคาสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๙/๒๕๖๐
เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ
ลงวันที่ ๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐
พ.ศ. ๒๕๖๕
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ
พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
ให้ไว้ ณ วันที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๕
เป็นปีที่ ๗ ในรัชกาลปัจจุบัน

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมคาสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๙/๒๕๖๐
เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ ๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคาแนะนาและยินยอมของรัฐสภา
ดังต่อไปนี้

มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมคาสั่งหัวหน้า
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๙/๒๕๖๐ เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ
ลงวันที่ ๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๖๕”
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เป็นต้นไป
หน้า ๑๔
เล่ม ๑๓๙ ตอนที่ ๖๙ ก ราชกิจจานุเบกษา ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
มาตรา ๓ ให้ยกเลิกความใน (๑) ของข้อ ๘ แห่งคาสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ที่ ๑๙/๒๕๖๐ เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ ๓ เมษายน
พุทธศักราช ๒๕๖๐ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(๑) อานาจหน้าที่ตามที่กฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ และกฎหมายว่าด้วยระเบียบ
บริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ กาหนดให้เป็นอานาจหน้าที่ของคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา”
มาตรา ๔ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคสองของ (๕) ของข้อ ๘ แห่งคาสั่งหัวหน้า
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๙/๒๕๖๐ เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ
ลงวันที่ ๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐
“ในการเสนอความเห็นตามวรรคหนึ่ง ไม่รวมถึงอานาจหน้าที่ซึ่งกฎหมายว่าด้วยระเบียบ
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากาหนดไว้ให้เป็นอานาจหน้าที่ของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่
การศึกษาประถมศึกษา และ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา”
มาตรา ๕ ให้ยกเลิกความใน (๖) ของข้อ ๑๑ แห่งคาสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ที่ ๑๙/๒๕๖๐ เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ ๓ เมษายน
พุทธศักราช ๒๕๖๐ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(๖) ดาเนินงานเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ซึ่งอยู่ในอานาจหน้าที่ของ กศจ. และ อกศจ.”
มาตรา ๖ ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของข้อ ๑๒ แห่งคาสั่งหัวหน้าคณะรักษา
ความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๙/๒๕๖๐ เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ
ลงวันที่ ๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ ๑๒ ให้มีศึกษาธิการจังหวัด เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ พนักงานราชการ
และลูกจ้างในสานักงานศึกษาธิการจังหวัด อยู่ภายใต้การกากับดูแลของศึกษาธิการภาค มีอานาจหน้าที่
รับผิดชอบการดาเนินงานของสานักงานศึกษาธิการจังหวัด และให้มีรองศึกษาธิการจังหวัด
เพื่อช่วยเหลืองานศึกษาธิการจังหวัด จานวนไม่เกินสามคน”
มาตรา ๗ ให้ยกเลิกความในข้อ ๑๓ แห่งคาสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ที่ ๑๙/๒๕๖๐ เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ ๓ เมษายน
พุทธศักราช ๒๕๖๐ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน


“ข้อ ๑๓ การบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในเขตพื้นที่
การศึกษาตามมาตรา ๕๓ (๓) และ (๔) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากร
ทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากร
ทางการศึกษา (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ ให้ผู้อานวยการสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาและผู้อานวยการ
สถานศึกษา แล้วแต่กรณี โดยความเห็นชอบของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา เป็นผู้มีอานาจสั่งบรรจุ
และแต่งตั้ง ซึ่งการดาเนินการดังกล่าวต้องเป็นไปตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี โดยยึดถือ
ระบบคุณธรรม ความโปร่งใส และความเสมอภาคระหว่างบุคคล และเพื่อประโยชน์ในการพัฒนา
การศึกษาเป็นสาคัญ
ในการดาเนินการบรรจุและแต่งตั้งตามวรรคหนึ่ง หากผู้มีอานาจสั่งบรรจุและแต่งตั้ง
หรืออนุมัติ อาศัยหรือยอมให้ผู้อื่นอาศัยอานาจและหน้าที่ราชการของตน ไม่ว่าจะโดยทางตรง
หรือทางอ้อม เพื่อหาประโยชน์ให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น หรือมีการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการ
โดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้ ถือเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ
เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง”
มาตรา ๘ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคสี่ของข้อ ๑๔ แห่งคาสั่งหัวหน้าคณะรักษา
ความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๙/๒๕๖๐ เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ
ลงวันที่ ๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐
“บทบัญญัติในข้อนี้ไม่ใช้บังคับถึงการบริหารงานบุคคล ซึ่งกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครู
และบุคลากรทางการศึกษากาหนดไว้ให้เป็นอานาจของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
และ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา”
มาตรา ๙ ให้มีคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประจาเขตพื้นที่
การศึกษาประถมศึกษา เรียกโดยย่อว่า “อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา” และ
คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประจาเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา
เรียกโดยย่อว่า “อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา” สาหรับแต่ละเขตพื้นที่การศึกษา
แล้วแต่กรณี ตามพระราชบัญญัตินี้
จานวน องค์ประกอบ หลักเกณฑ์ และวิธีการได้มา คุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม
วาระการดารงตาแหน่ง การพ้นจากตาแหน่ง และการประชุม ของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษา และ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการ
ที่ ก.ค.ศ. กาหนด ซึ่งองค์ประกอบของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และ อ.ก.ค.ศ.


เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ในแต่ละเขตพื้นที่การศึกษา ต้องกาหนดให้มีผู้แทน กศจ. อย่างน้อย
หนึ่งคน และนายอาเภอหรือผู้แทน อย่างน้อยหนึ่งคน สาหรับกรุงเทพมหานคร ให้มีผู้อานวยการเขต
หรือผู้แทน อย่างน้อยหนึ่งคน ร่วมเป็นองค์ประกอบด้วย
บรรดาอานาจหน้าที่ของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่
การศึกษามัธยมศึกษาในส่วนที่เกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลให้เป็นไปตามที่กฎหมายว่าด้วยระเบียบ
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากาหนดไว้
ให้ ก.ค.ศ. ดาเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่ง อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
และ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ตามพระราชบัญญัตินี้ให้เสร็จสิ้นภายในเก้าสิบวันนับแต่
วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
มาตรา ๑๐ บทบัญญัติแห่งกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือคาสั่งอื่นใด อ้างถึง กศจ.
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคลซึ่งกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครูและบุคลากร
ทางการศึกษากาหนดไว้ให้เป็นอานาจของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และ อ.ก.ค.ศ.
เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ให้ถือว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือคาสั่งนั้นอ้างถึง
อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา
ตามพระราชบัญญัตินี้ แล้วแต่กรณี
มาตรา ๑๑ การดาเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งของ กศจ. ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ
การบริหารงานบุคคลซึ่งกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากาหนดไว้ให้
เป็นอานาจของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา
มัธยมศึกษาที่ค้างการดาเนินการอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ดาเนินการต่อไปตามคาสั่ง
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๙/๒๕๖๐ เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของ
กระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ ๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ จนกว่าจะมี อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่
การศึกษาประถมศึกษา และ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๑๒ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี


หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ได้ออกคาสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๙/๒๕๖๐ เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาค
ของกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ ๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ กาหนดมาตรการและกลไกเพื่อแก้ไข
ปัญหาการจัดการการศึกษาของประเทศในส่วนภูมิภาคที่มีความซับซ้อนและสั่งสมมาเป็นเวลานาน ซึ่งมาตรการ
และกลไกดังกล่าวมีลักษณะรวมศูนย์อานาจไว้ที่ กศจ. ทั้งอานาจตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ
อานาจตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการและกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครู
และบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งไม่สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลกระทบ
ต่ออานาจในการจัดการบุคลากรตามที่กฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
กาหนดไว้ให้เป็นอานาจของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา
มัธยมศึกษา ผู้บังคับบัญชาโดยตรงในระดับเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา
ไม่มีอานาจในการบังคับบัญชาเพื่อให้คุณและโทษต่อบุคลากร คุณภาพการปฏิบัติงานและการจัดการศึกษา
ให้แก่เด็กและเยาวชนของชาติถูกลดทอนลง ขาดการมีส่วนร่วมของบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับปัญหา
เกิดการสิ้นเปลืองงบประมาณ และเกิดความล่าช้าในการปฏิบัติงาน ทั้งยังขัดต่อหลักการกระจายอานาจ
การบริหารงานบุคคลสู่เขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา ซึ่งก่อให้เกิดความขัดแย้งทางความคิดอย่างรุนแรง
และขาดการยอมรับซึ่งกันและกันในองค์กร สมควรแก้ไขคาสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติดังกล่าว
เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายทางการศึกษาและการปฏิบัติงานของบุคลากรทุกฝ่ายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
และประสิทธิผลตามเป้าหมาย จึงจาเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้

ดูรายละเอียด 
  • 09 พ.ย. 2565 เวลา 13:44 น.
  • 2,631

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

^