สมศ.เดินหน้าประเมินโรงเรียนทุกสังกัด
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
สมศ.เดินหน้าประเมินโรงเรียนทุกสังกัด
“ชาญณรงค์” ย้ำยังประเมินทุกโรงเรียนเหมือนเดิม แจงสุ่มตรวจเป็นเพียงคำถามของ รองนายกรัฐมนตรี เผยเตรียมระดมกึ๋นบอร์ด สมศ.ชงปัญหา-ข้อเสนอแนะการใช้กฎหมาย ก่อนเสนอปรับปรุงในรัฐบาลชุดนี้
วันนี้ (28 พ.ย.) ศ.ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) เปิดเผยว่า สมศ. ยังคงเดินหน้าจัดการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ (ปีงบประมาณ 2559-2563) เหมือนเดิม โดยยืนยันว่าโรงเรียนทุกแห่ง และทุกสังกัดต้องเข้ารับการประเมินฯเหมือนในทุกรอบที่ผ่านมา ส่วนกรณีที่มีจะมีการแก้ไขพระราชกฤษฎีกาสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(องค์การมหาชน)พ.ศ. 2543 โดยจะให้ สมศ. ยกเลิกการประเมินฯโรงเรียนทุกแห่ง และใช้วิธีสุ่มตรวจบางโรงเรียนแทนนั้น เป็นเพียงแนวคิดของ ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ได้ถามในการประชุมร่วมกันระหว่างฝ่ายประเมิน และฝ่ายผู้รับประเมินว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ ดังนั้น จึงยังไม่ใช่ข้อยุติ นอกจากนี้ใน พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 ก็ได้มีการกำหนดเรื่องมาตรฐานและการประกันคุณภาพการศึกษาไว้อยู่แล้วทาง สมศ.ก็ต้องปฏิบัติตาม
“ในที่ประชุมได้หารือเรื่องกฎหมายของ สมศ. เพราะได้ใช้มาเป็นเวลา 14 ปีแล้ว ที่ประชุมจึงเห็นว่าควรจะต้องมีการพัฒนา หรือ ปรับปรุงกฎหมายในส่วนใดบ้างหรือไม่ ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี ได้มอบให้ สมศ. ไปพิจารณาว่ากฎหมายที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมีปัญหา อุปสรรค ในจุดใดหรือไม่ และจะมีข้อเสนอในการพัฒนาปรับปรุงอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะได้มีการปรับปรุงแก้ไขต่อไป ทั้งนี้ ผมจะนำประเด็นดังกล่าวเข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร สมศ. เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ก่อนสรุปเสนอรองนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาต่อไป โดยรองนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้เสนอกลับมาโดยเร็วที่สุด เพื่อที่จะปรับปรุงให้แล้วเสร็จภายในรัฐบาลชุดนี้” ศ.ดร.ชาญณรงค์ กล่าวและว่า ในการประชุมยังได้มีการหารือถึงประเด็นบางเรื่องที่อาจต้องเพิ่มเติมเข้าไปในกฎหมายด้วย เช่น การนำผลประเมินภายนอกมาผูกติดกับการสนับสนุนงบประมาณ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก แต่ยังคงต้องหารือกันต่อไปว่า จะเพิ่มเติมในกฎหมายหรือไม่
ด้าน ศ.ดร.ยงยุทธ กล่าวว่า จะมีด้านหนึ่งที่มีความต้องการให้ตรวจสอบทุกสถาบัน ซึ่งตนคิดว่าในอนาคตไม่น่าเป็นไปได้ เพราะปัจจุบันมีสถานศึกษาจำนวนมาก จึงต้องมีการปรับวิธีการตรวจสอบคุณภาพสถานศึกษาด้วยการสุ่มตรวจ โดยใช้หลักวิชา แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะปล่อยให้สถานศึกษาไม่ได้รับการประเมิน เพื่อให้การสุ่มตรวจสามารถวัด และรับรองคุณภาพได้.
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2557