สกอ.จับมือทปอ.ตั้งกระทรวง ผนวกพ.ร.บ.อุดมศึกษาเข้าไปด้วยคาด1-2เดือนเสนอร่างกม.ให้สนช.พิจารณา
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
สกอ.จับมือทปอ.ตั้งกระทรวง ผนวกพ.ร.บ.อุดมศึกษาเข้าไปด้วยคาด1-2เดือนเสนอร่างกม.ให้สนช.พิจารณา
สกอ.จับมือ ทปอ.ขอแยกกระทรวง โดยผนวก พ.ร.บ.การอุดมศึกษาที่อยู่ระหว่างยกร่างเข้าไว้ด้วยกัน คาดอีก 1-2 เดือนเสนอ กม.แยกตั้งให้ สนช.พิจารณาได้ วางแพลนคร่าวๆ ให้มหาวิทยาลัยลุยงานวิจัยร่วมกับ สกว.และ วช.เท่านั้น
รศ.นพ.กำจร ตติยกวี เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาฯ กกอ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) จากนโยบายของ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ที่มอบหมายให้ทาง สกอ.พิจารณาถึงข้อดีและข้อเสียในการพิจารณาการจัดตั้งกระทรวงใหม่นั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ได้ศึกษาข้อมูลจาก ทปอ. และศึกษาจากองค์กรภายในแล้ว พบว่าทาง ทปอ.มีความต้องการความคล่องตัวในการดำเนินงานและความเข้าใจในการสื่อสาร เนื่องจากที่ผ่านมา สกอ.ได้ทำงานร่วมกับ ศธ. ก็สามารถดำเนินการได้ส่วนหนึ่ง แต่ก็พบว่ามีปัญหาในเรื่องการสื่อสารกับคนใน ศธ.ที่ไม่เข้าใจการดำเนินงานของการอุดมศึกษา ซึ่งถ้าหากสามารถแยกเป็นกระทรวงอุดมศึกษาได้ ก็จะทำให้การดำเนินงานผลักดันคุณภาพในการจัดการศึกษาได้มากขึ้น ขณะเดียวกัน ในเรื่องการพิจารณา พ.ร.บ.อุดมศึกษา จะมีการเข้าไปช่วยดูแลในเรื่องธรรมาภิบาล ซึ่งที่ประชุมมีความเห็นว่าอาจจะผนวก พ.ร.บ.อุดมศึกษาไว้กับกฎหมายการแยกกระทรวง โดยมอบหมายให้ทาง ทปอ.ศึกษาว่าจะยกร่างอย่างไรให้ครบถ้วน ทั้งในเรื่องการจัดการศึกษาที่จะทำให้เกิดประโยชน์ต่อผู้เรียน และยังสามารถควบคุมดูแลสถาบันอุดมศึกษาให้อยู่ในการควบคุมได้ในบางส่วน
เลขาฯ กกอ.กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ทาง สกอ.จะดำเนินการแจ้งความเห็นดังกล่าวไปยัง กกอ. และคาดว่าภายใน 1-2 เดือน จะสามารถเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาต่อไป ทั้งนี้สำหรับชื่อกระทรวงอาจจะเป็นกระทรวงอุดมศึกษาและการวิจัยหรือไม่นั้น ต้องศึกษารายละเอียดอีกครั้ง
ด้าน รศ.ดร.ประดิษฐ์ วรรณรัตน์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า ในฐานะรักษาการประธาน ทปอ. กล่าวว่า ทปอ.จะเร่งยกร่าง กฎหมายการจัดตั้งกระทรวงอุดมศึกษา ส่วนชื่อของกระทรวงใหม่ที่จะเสนอยังไม่ได้ข้อสรุป ว่าจะใช้ชื่อว่ากระทรวงอุดมศึกษา หรือกระทรวงอุดมศึกษาและการวิจัย แต่ที่แน่ๆ กระทรวงนี้จะต้องดูเรื่องการวิจัยด้วย เพราะการวิจัยกับอุดมศึกษาต้องควบคู่กันไป โดยอาจจะรวมสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ไว้ด้วย เพราะเป็นหน่วยงานที่สนับสนุนและให้ทุนนักวิจัย สอดคล้องกับปรัชญาการอุดมศึกษาที่มีหน้าที่ในการสร้างนักวิจัย และนักวิจัยกว่า 90% ของประเทศไทยก็อยู่ในสถาบันอุดมศึกษา แต่ยังไม่อยากให้ขยายวงกว้างไปถึงสำนักวิจัยต่างๆ ที่อยู่ในหน่วยงานอื่นๆ อาทิ หน่วยงานที่ทำวิจัยด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี เพราะจะทำให้แตกแขนงกว้างเกินไป และไม่เป็นไปตามเป้าหมายของอุดมศึกษา.
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 27 ตุลาคม 2557