"รับตรงกลาง"สอบ9วิชาสามัญ
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
"รับตรงกลาง"สอบ9วิชาสามัญ
มศว ทปอ.มีมติกำหนดเพิ่มการสอบวิชาสามัญในระบบรับตรงกลางเป็น 9 วิชา จากเดิมที่บังคับเพียง 7 วิชา โดยเพิ่มวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ทั่วไป พร้อมให้อิสระสาขาวิชาหรือแต่ละมหาวิทยาลัยเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกเด็กได้อีกด้วย
วันที่ 26 ตุลาคม ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) รศ.ดร.ประดิษฐ์ วรรณรัตน์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ รักษาการประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เปิดเผยหลังประชุมร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ว่า ขณะนี้ที่ประชุมเห็นชอบเรื่องการรับตรงกลางร่วมกันคือ การออกข้อสอบรับตรงเป็นข้อสอบกลาง และยังมีการเพิ่มวิชาสอบ จากการสอบ 7 วิชาสามัญ ก็เพิ่มมาเป็น 9 วิชา โดยอีกสองวิชาที่เพิ่มขึ้นคือวิชาคณิตศาสตร์ 2 และวิทยาศาสตร์ทั่วไป เพื่อให้ครอบคลุมผู้เรียนในสายศิลป์-คำนวณ โดยจะกำหนดให้กติกาดังกล่าวใช้ร่วมในมหาวิทยาลัย 27 แห่งที่เป็นสมาชิกของ ทปอ. และเริ่มมีผลบังคับใช้ในปีการศึกษา 2559
รศ.ดร.ประดิษฐ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในการสอบรับตรงกลาง ผู้สอบไม่จำเป็นจะต้องสอบทุกรายวิชา เพียงแต่เลือกสอบเฉพาะวิชาที่จำเป็นต่อคณะหรือสาขาที่ต้องการเลือกเท่านั้น และสาขาในแต่ละมหาวิทยาลัยจะเป็นผู้ที่กำหนดเกณฑ์ในแต่ละวิชาที่จำเป็นต่อสาขา เพื่อใช้ในการคัดผู้เรียน นอกจากนี้ บางสาขาวิชายังอาจไม่ได้ใช้เฉพาะคะแนนข้อสอบกลาง 9 วิชา เป็นเกณฑ์การพิจารณาเท่านั้น แต่มหาวิทยาลัยต่างๆ ยังสามารถใช้คะแนนการทดสอบความถนัดทั่วไป หรือ GAT และคะแนนการทดสอบความถนัดทางวิชาวิชีพ/วิชาการ หรือ PAT และคะแนนการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต มาเป็นองค์ประกอบในการคัดเลือกนักเรียนเข้าศึกษาต่อได้เช่นเดิม
เนื่องจากที่ผ่านมา ทปอ.ได้ขยับเวลาการทดสอบต่างๆ ให้ใกล้กัน โดยเลื่อนการสอบ GAT/PAT ครั้งที่ 1 ไปเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายน และการจัดสอบรับตรงกลางจะสอบในเดือนมกราคม และการสอบ GAT/PAT ไปสอบเดือนมีนาคม ซึ่งนักเรียนสามารถนำคะแนนทั้งหมดไปใช้ได้ทั้งการรับตรงผ่านระบบเคลียริงเฮาส์ของสมาคมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (สอท.)
"ซึ่งเด็กจะต้องเลือกว่าจะเรียนในคณะที่สอบรับตรงได้หรือไม่ หากไม่ก็จะต้องสละสิทธิ์ ไม่ให้เกิดปัญหาไปกันที่คนอื่น จากนั้นก็จะเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในระบบกลางการรับนิสิตนักศึกษา หรือแอดมิชชั่น ต่อไป ส่วนระบบโควตาและโครงการพิเศษต่างๆ ผู้มีความสามารถทางด้านกีฬา ดนตรี ยังคงมีอยู่ ซึ่งตนเชื่อว่าระบบรับตรงกลางนี้จะสามารถแก้ปัญหาการวิ่งสอบของนักเรียนได้ และยังเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการสอบให้แก่ผู้ปกครองด้วย เพราะนักเรียนจะสอบเพียงครั้งเดียว แต่สามารถนำคะแนนไปยื่นเข้าศึกษาได้ทุกมหาวิทยาลัยร่วม"
ด้าน นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ อธิการบดี มศว กล่าวว่า มศว จะนำร่องรับตรงกลางร่วมกันตั้งแต่ปีการศึกษา 2558 โดยเมื่อเด็กสอบผ่านข้อเขียนมาแล้ว ในขั้นตอนการสอบสัมภาษณ์ มศว จะมีข้อสอบย่อย เพื่อใช้ทดสอบความสามารถในการปฏิบัติของเด็ก เพราะการสอบสัมภาษณ์ไม่ใช่เพียงการนั่งสัมภาษณ์เพียงอย่างเดียว เพื่อให้รู้ว่าเด็กมีความสามารถที่จะเรียนต่อในสาขาที่เลือกเรียนจริงๆ เช่น การวาดภาพ การแสดง เป็นต้น.
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 27 ตุลาคม 2557