'กมล'มั่นใจทำให้โอเน็ตกระเตื้องได้
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
'กมล'มั่นใจทำให้โอเน็ตกระเตื้องได้
สพฐ.ชูพัฒนาโอเน็ต ยกระดับคุณภาพการศึกษาเด็กไทย "กมล"ลั่นบีบทั้งครู และผู้บริหารโรงเรียน ต้องรับผิดชอบผลผลิตของตัวเอง
วันนี้ (15 ก.ย.) ดร.กมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงการยกระดับคุณภาพการศึกษาเด็กไทย ว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ได้กำหนดจุดเน้น 3 เรื่องหลัก คือ การพัฒนาเด็ก พัฒนาครู และพัฒนาการบริหาร โดยเฉพาะในส่วนของการพัฒนาเด็กนั้น จะความสำคัญกับเรื่องของการสอบแบบทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือ โอเน็ต เป็นประเด็นหลักโดย สพฐ.ได้ร่วมกับสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ(สทศ.) วิเคราะห์รูปแบบข้อสอบโอเน็ตว่า ที่ผ่านมาเน้นอะไร แบบไหน เพื่อให้โรงเรียนปรับแนวทางการจัดการเรียนการสอนให้รองรับรูปแบบข้อสอบ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้ โดยเป้าหมายคือ การทดสอบโอเน็ตปีการศึกษา 2557 ในราวเดือน ก.พ.2558
“ผมจะให้เริ่มเลย ถึงแม้จะมีเวลาเหลืออีกไม่กี่เดือนก็จะสอบโอเน็ตแล้ว แต่เชื่อว่าโอเน็ตจะต้องขยับขึ้น โดยผมต้องบีบทั้งครู ผู้บริหารโรงเรียนว่าต้องรับผิดชอบผลผลิตของตัวเอง ขณะเดียวกันผมก็ต้องรับผิดชอบด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ที่ผมค่อนข้างมั่นใจไม่ใช่เป็นการท้าทาย แต่เพราะเรามีความตั้งใจ โดยได้เตรียมการและเน้นย้ำมาเสมอว่า เขตพื้นที่การศึกษาและโรงเรียนจะต้องจัดการเรียนการสอนอย่างเข้มข้นให้เด็กกลุ่มที่เรียนอ่อน เนื่องจากเรามีข้อมูลอยู่แล้วว่าเด็กพื้นที่ไหนอ่อนอะไร ก็ต้องไปอบรมพัฒนาครูในวิชาเหล่านั้น และการสอนเด็กก็ต้องเน้นในวิชาที่เขาอ่อนจริงๆ” เลขาธิการ กพฐ.กล่าวและว่า นอกจากนี้ยังมีโครงการการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม จากโรงเรียนวังไกลกังวล ที่เข้าไปช่วยเติมเต็มให้แก่โรงเรียนขนาดเล็กทั่วประเทศที่มีปัญหาขาดครู หรือ ครูสอนไม่ตรงวิชาเอก ซึ่งมีตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่จังหวัดสุพรรณบุรีที่สามารถยกระดับคะแนนโอเน็ตได้ทั้งจังหวัด ดังนั้นจึงเชื่อได้ว่าสิ่งที่เราทำนี้จะช่วยให้โอเน็ตเด็กไทยเพิ่มขึ้นได้ หรืออย่างน้อยมีแนวโน้มว่าจะขยับขึ้นก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว
ดร.กมลกล่าวด้วยว่า ต่อไปการประเมินผลจะดูจากผลผลิตจริง ๆ เช่น เด็กเรียนดีขึ้นหรือไม่ คะแนนดีขึ้นหรือไม่ หรือมีการเรียนต่อเพิ่มขึ้นหรือไม่ โดย สพฐ.จะมีมาตรการสนับสนุนเพื่อเป็นกำลังใจให้แก่ครู ผู้บริหารและสถานศึกษาในการร่วมพัฒนาการศึกษา โดยอาจจะจัดงบประมาณเสริมไปให้ หรือจัดให้ไปอบรมหรือศึกษาดูงานในต่างประเทศเพื่อกลับมาปรับใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้ดียิ่งขึ้น เป็นต้น
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 15 กันยายน 2557