LASTEST NEWS

02 พ.ค. 2567สพฐ. ห่วงใยแนะแนวทางการป้องกัน ดูแล ครูและนักเรียน ในสภาพอากาศร้อนจัด 02 พ.ค. 2567สพป.เชียงใหม่ เขต 6 ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย รอบทั่วไป ปี พ.ศ.2567 จำนวน 13 อัตรา ตั้งแต่ 8-14 พ.ค.2567 02 พ.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศรับสมัครสอบแข่งขันฯ ครูผู้ช่วย รอบทั่วไป ปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 02 พ.ค. 2567สพป.เชียงใหม่ เขต 5 ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย รอบทั่วไป ปี พ.ศ.2567 จำนวน 42 อัตรา ตั้งแต่ 8-14 พ.ค.2567 02 พ.ค. 2567สพม.เพชรบุรี ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย รอบทั่วไป ปี พ.ศ.2567 จำนวน 12 อัตรา ตั้งแต่ 8-14 พ.ค.2567 02 พ.ค. 2567สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย รอบทั่วไป ปี พ.ศ.2567 จำนวน 6 อัตรา ตั้งแต่ 8-14 พ.ค.2567 02 พ.ค. 2567สพม.กาญจนบุรี ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย รอบทั่วไป ปี พ.ศ.2567 จำนวน 20 อัตรา ตั้งแต่ 8-14 พ.ค.2567 02 พ.ค. 2567สพป.กาญจนบุรี เขต 4 ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย รอบทั่วไป ปี พ.ศ.2567 จำนวน 21 อัตรา ตั้งแต่ 8-14 พ.ค.2567 02 พ.ค. 2567สพป.กาญจนบุรี เขต 3 ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย รอบทั่วไป ปี พ.ศ.2567 จำนวน 50 อัตรา ตั้งแต่ 8-14 พ.ค.2567 02 พ.ค. 2567สพป.กาญจนบุรี เขต 2 ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย รอบทั่วไป ปี พ.ศ.2567 จำนวน 17 อัตรา ตั้งแต่ 8-14 พ.ค.2567

ลองคิดกันใหม่จัดงบฯศธ. - ก่อหวอด

  • 12 มิ.ย. 2557 เวลา 01:25 น.
  • 1,233
ลองคิดกันใหม่จัดงบฯศธ. - ก่อหวอด

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

ลองคิดกันใหม่จัดงบฯศธ. - ก่อหวอด
 
ประเทศไทยใช้งบประมาณด้านการศึกษาสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) คว้าตำแหน่งหน่วยงานที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศมาตลอด ในปีงบประมาณ 2557 ที่กำลังจะผ่านพ้นไป ศธ.ได้รับอนุมัติงบประมาณมากถึง 460,411.6 ล้านบาท และวางแผนเสนอของบประมาณรายจ่าย ปี 2558 จากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในวงเงิน 703,276.4 ล้านบาท แน่นอนว่าวงเงินที่เสนอขอไปจะถูกปรับลดลง แต่จะไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา โดยสำนักงบประมาณได้ประเมินไว้คร่าว ๆ ว่า งบฯ ด้านการศึกษาของไทยปีนี้ จะไม่ต่ำกว่า 500,000 ล้านบาท
 
เงินก้อนโตที่ทุ่มเทลงไปดูเหมือนเป็นการลงทุนสูง สวนทางกับคุณภาพการศึกษาของประเทศที่ตกต่ำอย่างต่อเนื่อง ผลการทดสอบทางการศึกษาของเด็กไทยในภาพรวมมักจะครองตำแหน่ง “บ๊วย” หรือ “เกือบรั้งท้าย” ทั้งในเวทีอาเซียน และเวทีนานาชาติ
 
เมื่อเจาะลึกลงในภาพรวม พบว่า วงเงินก้อนโตที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นทุกปีนั้น เม็ดเงินส่วนใหญ่กว่า 54 % เป็นงบฯ บุคลากร ที่ต้องจ่ายเงินเดือน ค่าจ้างประจำ ให้แก่ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา รองลงมา 32% เป็นเงินอุดหนุนรายหัวการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน สถานศึกษาสามารถนำไปใช้สิ่งที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตัวเด็กได้ ไม่ว่าจะเป็นการจ้างครูสอน หรือ ทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยมีเงินที่ตกถึงมือเด็ก คือ ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าเครื่องแบบนักเรียน ส่วนที่เหลือ 7% เป็นงบฯ ดำเนินงาน 5% เป็นงบฯ ลงทุน และอีกไม่ถึง 2% เป็นงบฯ รายจ่ายอื่น ๆ
 
ลึกลงไปอีก งบฯ ของ ศธ. ที่เพิ่มขึ้นในทุก ๆ ปี เป็นการเพิ่มในส่วนของเงินเดือนครู แต่งบฯ อุดหนุน ที่ถือเป็นเงินพัฒนาเด็กกลับถูกแช่แข็งไม่ขยับมานาน จนหลายคนเคยพูดว่า เมื่อเม็ดเงินส่วนใหญ่ไปกองอยู่ที่การจ่ายค่าตอบ แทนให้แก่บุคลากร หนทางในแก้ไขปัญหาก็ควรลดคนทำงานลง แต่ในทางปฏิบัติไม่สามารถทำได้ เพราะครู คือหัวใจสำคัญของระบบการศึกษาที่มีคุณภาพ และทุกวันนี้บรรดาหน่วยงานใน ศธ.ต่างก็ประกาศว่า ทั้งกระทรวงยังขาดครูผู้สอน รวมกว่า 30,000 อัตรา เมื่อลดบุคลากรลงไม่ได้ ก็ต้องทำให้คนที่มีอยู่ทำหน้าที่ได้อย่างเต็มศักยภาพ และคุ้มค่ากับเม็ดเงิน
 
ที่สำคัญการจัดสรรงบฯ แบบแยกหมวดบุคลากร กับ เงินอุดหนุนออกจากกัน และให้เงินอุดหนุนสถานศึกษาตามรายหัวของนักเรียนในโรงเรียนอย่างปัจจุบันนี้ ยังส่งผลให้เกิดช่องว่างทางการศึกษาระหว่าง เด็กในเมืองกับชนบทมากขึ้น แม้ที่ผ่านมาจะมีการเพิ่มเงินให้แก่โรงเรียนขนาดเล็กบ้างแล้วก็ตาม
 
ถึงเวลาแล้วที่ต้องลุกขึ้นมารื้อระบบการจัดสรรงบประมาณด้านการศึกษาของไทยกันใหม่ โดยนำงบฯ เงินเดือนบุคลากร มารวมกับเงินอุดหนุนรายหัว แล้วบวกด้วยตัวแปรต่าง ๆ อาทิ พื้นที่ตั้ง ขนาดโรงเรียน หรือ รายได้ประชากรในพื้นที่ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่เด็กด้อยโอกาส โรงเรียนชนบทห่างไกลได้รับเงินอุดหนุนมากขึ้น และนำหลักการกระจายอำนาจมาใช้อย่างเต็มรูปแบบ คือ มอบเงินงบฯสำหรับสถานศึกษา
 
นั้น ๆ ทั้งก้อน ให้สถานศึกษาไปบริหารจัดการเองว่า จะนำไปจ่ายเป็นเงินเดือนเท่าไหร่ จะจ้างครูเพิ่มหรือไม่ จะมีกลยุทธ์ใดดึงดูดให้ครูสร้างคุณภาพผู้เรียน จะมีการจัดกิจกรรมอะไรให้แก่เด็ก จะขยับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนได้ถึงระดับใด โดยมีการทำข้อตกลงที่ชัดเจน หากได้ผลงานตามเป้าหมายที่วางไว้ แล้วมีเงินเหลือ ก็ถือว่าเป็นเงินของสถานศึกษา ที่สามารถนำไปใช้ต่อได้ แต่ถ้าไม่พอก็ต้องรับผิดชอบในผลงานที่เกิดขึ้นเช่นกัน
 
สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน คือ ส่วนกลางต้องมีงบฯ พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้ได้รับการพัฒนาอย่างทั่วถึงทั้งแผ่นดินด้วย
 
ท่ามกลางวิกฤติมีโอกาสเสมอ ในยุค คสช.อะไรที่ทำได้ยากในสภาวะปกติ หากเป็นเรื่องที่ดีแล้วก็เชื่อว่าจะผลักดันได้ไม่ยาก ถ้าคนในวงการศึกษากล้าลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเอง.
 
เข็มทิศ
 
 
  • 12 มิ.ย. 2557 เวลา 01:25 น.
  • 1,233

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

ความคิดเห็นเกี่ยวกับ : ลองคิดกันใหม่จัดงบฯศธ. - ก่อหวอด

เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^