รายงานการพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบ TPR
ชื่อเรื่อง : รายงานการพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบ TPR ของโรงเรียน
เทศบาล ๒ ชำนาญอนุเคราะห์ สังกัดเทศบาลเมืองหนองคาย
ผู้วิจัย : นางวัลลดา ตินอาสา
ปีที่ทำวิจัย : ปีการศึกษา ๒๕๕๙
บทคัดย่อ
จุดมุ่งหมายของการทำวิจัยนี้ ๑) เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบ TPR ของโรงเรียนเทศบาล ๒ ชำนาญอนุเคราะห์ ๒) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบ TPR ของโรงเรียนเทศบาล ๒ ชำนาญอนุเคราะห์ และ ๓) เพื่อประเมินความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูผู้สอน นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อการพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบ TPR ของโรงเรียนเทศบาล ๒ ชำนาญอนุเคราะห์ โดยดำเนินการกับกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ นักเรียนโรงเรียนเทศบาล ๒ ชำนาญอนุเคราะห์ สังกัดเทศบาลเมืองหนองคาย ปีการศึกษา ๒๕๕๙ จำนวน ๒๒๙ คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ แบบบันทึกข้อเสนอแนะประเด็นต่าง ๆ ตามหัวข้อของการพัฒนา เทปบันทึกการประชุม แบบบันทึกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบประเมินความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อความแล้วสรุปเป็นประเด็น หาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าที (t-test)
ผลการวิจัยพบว่า
๑. รายงานการพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบ TPR ของโรงเรียนเทศบาล ๒ ชำนาญอนุเคราะห์ พบว่า มีความตรงและเหมาะสมมาก ได้แก่ ๑) การพัฒนาครู (T) ๒) การขอความร่วมมือกับผู้ปกครอง (P) ๓) การจัดหาสื่อ/แหล่งเรียนรู้ (R)
๒. ผลการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบ TPR ของโรงเรียนเทศบาล ๒ ชำนาญอนุเคราะห์ พบว่า การพัฒนาครู ทำให้ครูมีการปรับเปลี่ยนวิธีการสอน สามารถออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนได้อย่างหลากหลาย โดยเน้นนักเรียนเป็นสำคัญ มีการพัฒนาและใช้สื่อประกอบการเรียนการสอน นำกระบวนการวิจัยในชั้นเรียนมาเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการเรียนการสอน และสามารถนำผลการวิจัยไปใช้ในการแก้ปัญหาและพัฒนาการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การจัดหาสื่อนวัตกรรมและแหล่งเรียนรู้ และขอความร่วมมือกับชุมชนในการจัดการศึกษา ทำให้นักเรียนได้เรียนรู้ตามความสนใจและความถนัดของตนเอง นักเรียนมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ด้วยตนเอง ได้คิด ได้ลงมือปฏิบัติจริง นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ตามเกณฑ์ที่ทางโรงเรียนกำหนดและมีทักษะการคิดวิเคราะห์ที่พัฒนาขึ้นกว่าเดิม
๓. ผลการประเมินความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูผู้สอน นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อการพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบ TPR ของโรงเรียนเทศบาล ๒ ชำนาญอนุเคราะห์ สังกัดเทศบาลเมืองหนองคาย พบว่า คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูผู้สอน นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน มีความพึงพอใจต่อพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบ TPR ของโรงเรียนเทศบาล ๒ ชำนาญอนุเคราะห์ สังกัดเทศบาลเมืองหนองคาย อยู่ในระดับมาก
เทศบาล ๒ ชำนาญอนุเคราะห์ สังกัดเทศบาลเมืองหนองคาย
ผู้วิจัย : นางวัลลดา ตินอาสา
ปีที่ทำวิจัย : ปีการศึกษา ๒๕๕๙
บทคัดย่อ
จุดมุ่งหมายของการทำวิจัยนี้ ๑) เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบ TPR ของโรงเรียนเทศบาล ๒ ชำนาญอนุเคราะห์ ๒) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบ TPR ของโรงเรียนเทศบาล ๒ ชำนาญอนุเคราะห์ และ ๓) เพื่อประเมินความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูผู้สอน นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อการพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบ TPR ของโรงเรียนเทศบาล ๒ ชำนาญอนุเคราะห์ โดยดำเนินการกับกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ นักเรียนโรงเรียนเทศบาล ๒ ชำนาญอนุเคราะห์ สังกัดเทศบาลเมืองหนองคาย ปีการศึกษา ๒๕๕๙ จำนวน ๒๒๙ คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ แบบบันทึกข้อเสนอแนะประเด็นต่าง ๆ ตามหัวข้อของการพัฒนา เทปบันทึกการประชุม แบบบันทึกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบประเมินความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อความแล้วสรุปเป็นประเด็น หาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าที (t-test)
ผลการวิจัยพบว่า
๑. รายงานการพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบ TPR ของโรงเรียนเทศบาล ๒ ชำนาญอนุเคราะห์ พบว่า มีความตรงและเหมาะสมมาก ได้แก่ ๑) การพัฒนาครู (T) ๒) การขอความร่วมมือกับผู้ปกครอง (P) ๓) การจัดหาสื่อ/แหล่งเรียนรู้ (R)
๒. ผลการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบ TPR ของโรงเรียนเทศบาล ๒ ชำนาญอนุเคราะห์ พบว่า การพัฒนาครู ทำให้ครูมีการปรับเปลี่ยนวิธีการสอน สามารถออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนได้อย่างหลากหลาย โดยเน้นนักเรียนเป็นสำคัญ มีการพัฒนาและใช้สื่อประกอบการเรียนการสอน นำกระบวนการวิจัยในชั้นเรียนมาเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการเรียนการสอน และสามารถนำผลการวิจัยไปใช้ในการแก้ปัญหาและพัฒนาการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การจัดหาสื่อนวัตกรรมและแหล่งเรียนรู้ และขอความร่วมมือกับชุมชนในการจัดการศึกษา ทำให้นักเรียนได้เรียนรู้ตามความสนใจและความถนัดของตนเอง นักเรียนมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ด้วยตนเอง ได้คิด ได้ลงมือปฏิบัติจริง นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ตามเกณฑ์ที่ทางโรงเรียนกำหนดและมีทักษะการคิดวิเคราะห์ที่พัฒนาขึ้นกว่าเดิม
๓. ผลการประเมินความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูผู้สอน นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อการพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบ TPR ของโรงเรียนเทศบาล ๒ ชำนาญอนุเคราะห์ สังกัดเทศบาลเมืองหนองคาย พบว่า คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูผู้สอน นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน มีความพึงพอใจต่อพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบ TPR ของโรงเรียนเทศบาล ๒ ชำนาญอนุเคราะห์ สังกัดเทศบาลเมืองหนองคาย อยู่ในระดับมาก