LASTEST NEWS

28 มี.ค. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพป.สระบุรี เขต 1 - ผลย้ายครู 2567 สพป.สระบุรี เขต 1 28 มี.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 28 มี.ค. 2567สพป.สตูล รับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ปี พ.ศ.2567 จำนวน 20 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 5-11 เม.ย.2567 28 มี.ค. 2567สพป.สระแก้ว เขต 1 รับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ปี พ.ศ.2567 จำนวน 14 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 5-11 เม.ย.2567 28 มี.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 28 มี.ค. 2567สพม.เชียงราย รับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ปี พ.ศ.2567 จำนวน 14 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 5-11 เม.ย.2567 28 มี.ค. 2567สพป.กาญจนบุรี เขต 3 รับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ปี พ.ศ.2567 จำนวน 12 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 5-11 เม.ย.2567 28 มี.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 28 มี.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 28 มี.ค. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพป.ระยอง เขต 1 - ผลย้ายครู 2567 สพป.ระยอง เขต 1

การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ด้วยบทเรียนสำเร็จรูป โดยใช้เทคนิค

usericon

การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ด้วยบทเรียนสำเร็จรูป โดยใช้เทคนิค
ชื่อเรื่อง            การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ด้วยบทเรียนสำเร็จรูป โดยใช้เทคนิค TAI
เรื่องการใส่ใจกับบทบาททางเพศ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ผู้วิจัย            ว่าที่ร้อยตรีถิระพงศ์ จันทบุตร
ปีการศึกษา         ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556
สถานศึกษา        โรงเรียนผักไหมวิทยานุxxxล สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28

บทคัดย่อ

    การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูป โดยใช้เทคนิค TAI เรื่องการใส่ใจกับบทบาททางเพศ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป โดยใช้เทคนิค TAI เรื่องการใส่ใจกับบทบาททางเพศ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนสำเร็จรูป โดยใช้เทคนิค TAI เรื่องการใส่ใจกับบทบาททางเพศ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูป โดยใช้เทคนิค TAI เรื่องการใส่ใจกับบทบาททางเพศ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูป โดยใช้เทคนิค TAI เรื่องการใส่ใจกับบทบาททางเพศ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/2 จำนวน 34 คน ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556 โรงเรียนผักไหมวิทยานุxxxล สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28 ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม รูปแบบการวิจัยเป็นรูปแบบการวิจัยแบบทำการทดสอบก่อนและหลังการทดลอง (One Group Pretest - Posttest Design) ระยะเวลาในการทดลอง คือ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ เครื่องมือที่ใช้ในการจัดการเรียนรู้ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยบทเรียนสำเร็จรูป โดยใช้เทคนิค TAI เรื่องการใส่ใจกับบทบาททางเพศ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 รายวิชาสุขศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา 2) บทเรียนสำเร็จรูป โดยใช้เทคนิค TAI เรื่องการใส่ใจกับบทบาททางเพศ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น และเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 1) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการใส่ใจกับบทบาททางเพศ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เป็นแบบทดสอบชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ ที่มีความยาก ระหว่าง 0.25 ถึง 0.78 ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.32 ถึง 0.87 และค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.85 2) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อบทเรียนสำเร็จรูป โดยใช้เทคนิค TAI เรื่องการใส่ใจกับบทบาททางเพศ เป็นชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.23 ถึง 0.88
มีค่าความเชื่อมั่น ทั้งฉบับเท่ากับ 0.87 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมุติฐานโดยใช้ t-test (Dependent Samples)

    ผลการวิจัยปรากฏดังนี้
        1. บทเรียนสำเร็จรูป โดยใช้เทคนิค TAI เรื่องการใส่ใจกับบทบาททางเพศ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพ 84.23/83.52 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
        2. บทเรียนสำเร็จรูป โดยใช้เทคนิค TAI เรื่องการใส่ใจกับบทบาททางเพศ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.56 แสดงว่านักเรียน
มีความก้าวหน้าในการเรียนร้อยละ 56
        3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูป โดยใช้เทคนิค TAI เรื่องการใส่ใจกับบทบาททางเพศ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
        4. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูป โดยใช้เทคนิค TAI เรื่องการใส่ใจกับบทบาททางเพศ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.45, S.D. = 0.63) ข้อที่มีความพึงพอใจมากที่สุด 3 ลำดับแรก คือ ข้อ 3 บทเรียนทำให้เกิดทักษะทางสังคม อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.73, S.D. = 0.63) ข้อ 15 นักเรียนสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.64, S.D. = 0.49) และข้อ 2 บทเรียนทำให้นักเรียนเข้าใจยิ่งขึ้น ตามลำดับ อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.55, S.D. = 0.51) และข้อที่มีความพึงพอใจน้อยที่สุด คือ ข้อ 8 บทเรียนเหมาะสมกับเวลา อยู่ในระดับมาก ( = 4.05, S.D. = 0.79)
        สรุปผลการวิจัยครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าบทเรียนสำเร็จรูป โดยใช้เทคนิค TAI เรื่องการใส่ใจกับบทบาททางเพศ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เป็นสื่อในการจัดการเรียนรู้ที่สามารถพัฒนาการจัดการเรียนรู้ โดยเน้นนักเรียนเป็นสำคัญและเป็นประโยชน์กับนักเรียน ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ทำให้การจัดการเรียนรู้มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล สามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียน ดังนั้นควรส่งเสริมและสนับสนุนให้ครูสาระการเรียนรู้อื่น ๆ หรือระดับชั้นอื่น ๆ นำบทเรียนสำเร็จรูปโดยใช้เทคนิคแบบ STAD ไปเป็นนวัตกรรมในการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาความรู้ ทักษะ เจตคติ และสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ตามเจตนารมณ์ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ต่อไป
Keng1710 12 ก.ย. 2557 เวลา 09:47 น. 0 907
ร่วมแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^