การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนสื่อความ
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อสร้างแบบฝึกทักษะการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนสื่อความ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และมีค่าดัชนีประสิทธิผลตั้งแต่ 0.50 ขึ้นไป 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนสื่อความ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนสื่อความ
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนคอนสารวิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 30 ซึ่งกำลังเรียนอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 33 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้ประกอบการจัดการเรียนการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนสื่อความ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 17 แผน ใช้เวลาสอนแผนละ 1 ชั่วโมง รวมเวลาเรียนทั้งหมด 17 ชั่วโมง 2) แบบฝึกทักษะการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนสื่อความ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 4 ชุด ประกอบด้วย ชุดที่ 1 เรื่อง การอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนจากข่าว ชุดที่ 2 เรื่อง การอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนจากนิทาน พื้นบ้าน ชุดที่ 3 เรื่อง การอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนจากบทความ ชุดที่ 4 เรื่องการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนจากบทร้อยกรอง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น มีลักษณะเป็นแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ ใช้ทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนสื่อความ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น จำนวน 10 ข้อ มีลักษณะเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t–test)
ผลการศึกษา พบว่า
1. แบบฝึกทักษะการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนสื่อความ สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เท่ากับ 87.92/92.88 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 และมีค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.7680 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนรู้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 76.80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนสื่อความ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนสื่อความ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 อยู่ในระดับ
พึงพอใจมาก มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.27 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.65
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อสร้างแบบฝึกทักษะการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนสื่อความ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และมีค่าดัชนีประสิทธิผลตั้งแต่ 0.50 ขึ้นไป 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนสื่อความ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนสื่อความ
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนคอนสารวิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 30 ซึ่งกำลังเรียนอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 33 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้ประกอบการจัดการเรียนการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนสื่อความ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 17 แผน ใช้เวลาสอนแผนละ 1 ชั่วโมง รวมเวลาเรียนทั้งหมด 17 ชั่วโมง 2) แบบฝึกทักษะการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนสื่อความ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 4 ชุด ประกอบด้วย ชุดที่ 1 เรื่อง การอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนจากข่าว ชุดที่ 2 เรื่อง การอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนจากนิทาน พื้นบ้าน ชุดที่ 3 เรื่อง การอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนจากบทความ ชุดที่ 4 เรื่องการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนจากบทร้อยกรอง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น มีลักษณะเป็นแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ ใช้ทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนสื่อความ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น จำนวน 10 ข้อ มีลักษณะเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t–test)
ผลการศึกษา พบว่า
1. แบบฝึกทักษะการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนสื่อความ สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เท่ากับ 87.92/92.88 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 และมีค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.7680 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนรู้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 76.80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนสื่อความ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนสื่อความ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 อยู่ในระดับ
พึงพอใจมาก มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.27 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.65