ปิดคดี"ศศิธารา" ฟันธงปลดออก เพียงสถานเดียว
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
ปิดคดี"ศศิธารา" ฟันธงปลดออก เพียงสถานเดียว
ศธ.เร่งปิดคดี “ศศิธารา” ฟันปลดออกจากราชการ ไม่ต้องรอข้อมูลเพิ่มเติม ส่วน "ชินภัทร" ยังรอดชั่วคราว เหตุองค์ประชุมกรรมการสอบความผิดกรณีสอบครูผู้ช่วย ว.12 ไม่ครบ แต่คาดต้องสรุปภายในเดือน มี.ค.
นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยถึงกรณีการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงนางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ เลขาธิการสภาการศึกษา อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กรณีเอกสารการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์อาชีวศึกษา โครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 (เอสพี2) : ไทยเข้มแข็ง 2555 สูญหายและส่อว่าจะเกิดความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์ ซึ่งที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือนสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (อ.ก.พ.สกศ.) ทำหน้าที่ อ.ก.พ.กระทรวง ที่มีนายจาตุรนต์เป็นประธาน ได้ขอให้คณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงที่ตนเป็นประธานสอบสวนเพิ่มเติมให้แล้วเสร็จภายใน 15 วันนั้น ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ ทางคณะกรรมการฯ จะสรุปผลในประเด็นที่ต้องต้องสอบเพิ่มเติมได้ก่อนครบกำหนด และจากนั้นเป็นหน้าที่ของ อ.ก.พ.กระทรวงที่จะต้องนำไปพิจารณาตัดสิน ซึ่งผลสอบที่จะเสนอ รวมทั้งผลการสอบที่เสนอให้ลงโทษปลดออกมีความสมบูรณ์อยู่แล้ว ส่วนอีกประเด็นได้ให้มหาวิทยาลัยช่วยคำนวณส่วนต่างระหว่างการจัดซื้อจัดจ้างที่ปรากฏบนทีโออาร์ที่ประกาศ กับรายละเอียดบนทีโอาร์แนบท้ายสัญญาซึ่งใช้ในการตรวจรับนั้น มีความแตกต่างหรือไม่ เป็นมูลค่าเท่าใด ผลการตรวจสอบพบว่ามีความแตกต่าง หรือทำให้ราชการเสียหายเป็นจำนวนเงินหลายล้านบาท ในทางราชการแล้วถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
“หลังจากส่งข้อมูลให้ประธาน อ.ก.พ.ฯ แล้ว ถือว่าหน้าที่ของกรรมการสอบฯ จบแล้ว ขึ้นอยู่กับ อ.ก.พ.กระทรวงจะพิจารณาโทษอย่างไร อย่างไรก็ตาม ในฐานะประธานกรรมการสอบฯ ผมมั่นใจว่าข้อมูลที่มีอยู่ในสรุปผลการสอบสวนซึ่งส่งไปตั้งแต่แรกนั้น สามารถพิจารณาโทษได้แล้วโดยไม่ต้องรอข้อมูลสอบเพิ่มเติมอีก” นายอภิชาติกล่าว
นายอภิชาติกล่าวต่อว่า ส่วนความคืบหน้าการดำเนินการของคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงนายชินภัทร ภูมิรัตน อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎระเบียบของทางราชการ มติของคณะรัฐมนตรี นโยบายของรัฐบาล และไม่ปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ทางราชการอย่างร้ายแรง ตามนัยมาตรา 82 (2) ประกอบมาตรา 85 (7) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 จากกรณีปัญหาทุจริตการสอบครูผู้ช่วยกรณีที่มีความจำเป็นหรือเหตุพิเศษ ว่าเดิมทางคณะกรรมการสอบสวนฯ จะสรุปผลสอบในเดือนมกราคม แต่จากการประชุมนัดล่าสุดมีกรรมการ 2 คนจาก 7 คนไม่ได้เข้าร่วม ทำให้ไม่สามารถเซ็นเอกสารที่จะสรุปผลได้ ซึ่งจากการประชุมกรรมการที่เข้าร่วม 5 คน มีความเห็นว่าควรจะตัดรายละเอียดบางเรื่อง เพราะไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับข้อหาที่ตั้งกรรมการสอบสวนอดีตเลขาธิการ กพฐ. ดังนั้นจะนัดประชุมอีกครั้งในวันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้ และคาดว่าจะได้ข้อสรุปในสำนวนนี้ ส่วนการพิจารณาในสำนวนที่ 2 คดีที่ 2 ที่นายชินภัทรถูกตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรงร่วมกับข้าราชการอีก 7 คน ในฐานกระทำผิดระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรักษาความลับของราชการนั้น จะสรุปผลไม่เกินอีก 1 เดือน หรือประมาณเดือนมีนาคม เนื่องจากพยานขอผลัดคำให้การ เพราะเดินทางไปต่างประเทศ.
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557