ความหวัง "บุคลากร 38ค(2)" - ครูชายขอบในชายคา ศธ.รอวันแก้ปัญหา สู่วิชาชีพ
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
ความหวัง'บุคลากร 38ค(2)' ครูชายขอบในชายคา ศธ.รอวันแก้ปัญหา สู่วิชาชีพ : โดย...ชยานนท์ ปราณีต
บทพิสูจน์ของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ที่จะแก้ไขปัญหาให้ บุคลากร 38 ค (2) ให้บุคลากรได้ประกอบวิชาชีพได้เสมอเหมือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาอื่นๆ ตามสิ่งที่เคยเรียกร้องได้หรือไม่
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ประกาศเลือกตั้งกรรมการผู้แทนครูและบุคลากรทางการศึกษาใน ก.ค.ศ.ที่หมดวาระลงและจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2557 ที่จะถึงนี้ ได้ก่อให้เกิดปฏิกิริยาความคาดหวังต่อ เส้นทางชีวิตและความก้าวหน้า" ของข้าราชการกลุ่มที่เรียกว่า "บุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค (2)" หรือกลุ่มข้าราชการซึ่งปฏิบัติหน้าที่ทั้งในสายวิชาการและสายทั่วไปในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและมัธยมศึกษา (สพป./สพม.) 225 เขตทั่วประเทศ รวมจำนวนกว่า 14,000 คน
นายบุญช่วย พันธ์งาม นักประชาสัมพันธ์ชำนาญการพิเศษ สพป.สระบุรี เขต 1 กล่าว่า ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา นับแต่การยุบรวมโครงสร้างหน่วยงานราชการทางการศึกษาตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมา กลุ่มข้าราชการ "บุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค (2)" นับเป็นกลุ่มที่ได้รับการพัฒนา เยียวยาและได้รับการเอาใจใส่จาก "คณะกรรมการ" หรือ "บอร์ดพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา" ทั้งจาก ก.ค.ศ. และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) น้อยที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับข้าราชการครู ผู้บริหารโรงเรียน ผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและศึกษานิเทศก์ แม้ว่า "ศักดิ์และสิทธิ์" ของ "บุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค (2)" จะปรากฏประจักษ์ชัดในพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ฉบับเดียวกันก็ตาม
สภาพ "ย้ายหนี-ซีตัน- ขวัญหาย-ไร้อนาคต" จึงเป็น "สภาพจริง" ที่ไม่ได้ปั้นแต่งของชาว "38 ค (2)" กับความเป็นจริงของหน่วยงานการศึกษาที่มีชื่อว่า "สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา" ในมิติ "1 หน่วยงาน : 1 กฎหมาย : 2 กติกาพัฒนาบุคลากร"
แม้ว่า ล่าสุด ก.ค.ศ.จะมีการขับเคลื่อน "กรอบอัตรากำลัง" ซึ่งทิ้งช่วงห่างหายอึมครึมไปนานร่วม 3 ปี แต่กระนั้นก็ยังไม่มีหลักประกันใดๆ ถึงอนาคต ความมั่นคงและความก้าวหน้าของเหล่าบรรดา "คนชายขอบในชายคา ศธ." เหล่านี้ว่าจะมีโอกาส "เรียกขวัญมั่นใจ" กลับคืนมาได้มากน้อยเพียงใด เพราะปมปูมวิบากกรรมตามเงื่อนไข "คมคำซ้ำซาก" ยังมีหลอกหลอนหลายฉบับ
นายดุสิต อารยกูล ผู้อำนวยการกลุ่มอำนวยการ สพป.สุพรรณบุรี เขต 3 กล่าวว่า หากมีปรากฏการณ์โฟกัสกรุ๊ปประชุมกลุ่มย่อยของเหล่าบรรดาแกนนำผู้อาวุโสจากกลุ่มงานต่างๆ ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ที่ร้าน "ถึงพริกถึงขิง" ศูนย์การค้าเซียร์รังสิต ปทุมธานี เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2557 ได้แก่ นายกิจจา จงประเสริฐ ผอ.กลุ่มส่งเสริมสถานศึกษาเอกชน สพป.ลพบุรี เขต 1, นายภูเบศ พลชัย ผอ.กลุ่มอำนวยการ สพป.ชลบุรี เขต 2, นายชาญ คำภิระแปง ผอ.กลุ่มนโยบายและแผน สพป.เชียงใหม่ เขต 2, นายนนท์ แสงจันทร์ ผอ.กลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา สพป.ระยอง เขต 1, นายวิชัย ปานอุทัย ผอ.หน่วยตรวจสอบภายใน สพป.เชียงใหม่ เขต 5, นายอำพล แสนมหานิล ผอ.กลุ่มบริหารงานบุคคล สพป.เชียงใหม่ เขต 1 และตน
นอกจากนั้นยังมีบุคลากรระดับ "คีย์แมน" แกนนำการเคลื่อนไหวในช่วงจากสายงานต่างๆ อีกหลายคนที่มาร่วมอ่านประวัติศาสตร์ วิเคราะห์ปัจจุบัน เพื่อพัฒนาการสู่อนาคต เช่น นายบุญช่วย พันธ์งาม นักประชาสัมพันธ์ สพป.สระบุรี เขต 1 ประธานชมรมนักประชาสัมพันธ์ สพท.ทั่วประเทศ, นายดุสิต อารยกูล ผอ.กลุ่มอำนวยการ สพป.สุพรรณบุรี เขต 3, นายยุทธนา เอกาพันธ์ ผอ.กลุ่มบริหารการเงินฯ สพป.ขอนแก่น เขต 1, นายอุดม ต้องเซ่งกี่ ผอ.กลุ่มนโยบายและแผน สพป.ปัตตานี เขต 2, นายสุชาติ เหล่ากอ ผอ.กลุ่มนโยบายและแผน สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 1 ฯลฯ ซึ่งการเสวนาพูดคุยถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดเห็นแนวทางเพื่อการแก้ไขปัญหาและพัฒนาความก้าวหน้าในวิชาชีพ ล้วนแล้วแต่มาตกผลึกอยู่ที่วิสัยทัศน์ บทบาทและอำนาจหน้าที่ของ ก.ค.ศ. ผนวกกับนโยบายด้านการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาของ "จาตุรนต์ ฉายแสง" รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะ "ประธาน ก.ค.ศ." ว่าจะ "ฝนตกทั่วฟ้า" หรือไม่ต่อการเยียวยา ดูแล เจาะลึกถึงปัญหา วิเคราะห์กระทั่ง "1 ทศวรรษบุคลากร 38 ค (2) กับประสิทธิภาพบริหารจัดการ สพท.สู่คุณภาพการศึกษาไทย"
กระแสการเลือกตั้งผู้แทนครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งคาบเกี่ยวกับการพัฒนาการศึกษาไทยในประเด็น ในสัดส่วนของบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค (2) จึงถือเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญที่สมาชิกบุคลากรทางการศึกษา 38 ค (2) ต้องตระหนักและเหลียวมองย้อนอดีตเพื่ออ่านอนาคต พร้อมใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2557
หากใช้สิทธิ์อหิงสาไม่ออกไปลงคะแนนมีหวังบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค (2) ได้ย่ำรอยเท้ากับประวัติศาสตร์หน้าเดิม คือ "อนาคตและความก้าวหน้าที่อึมครึม"...แน่นอน
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก