สกอ.ของบ1.7แสนล.พัฒนามหา'ลัยโลก ชี้ต้องใช้เงินผูกพันก้อนใหญ่ปลดแอกจากนักการเมืองเพื่อบรรลุเป้า
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
สกอ.ของบ1.7แสนล.พัฒนามหา'ลัยโลก ชี้ต้องใช้เงินผูกพันก้อนใหญ่ปลดแอกจากนักการเมืองเพื่อบรรลุเป้า
สกอ.เตรียมของบ 1.7 แสนล้านบาทเพื่อดันมหา'ลัยไทยสู่มหา'ลัย โลก "กำจร" ชี้ที่ผ่านมาไม่ประสบความสำเร็จบรรลุเป้าพัฒนา เพราะนโยบายไปผูกติดขึ้นกับนักการเมือง ทำให้การพัฒนาสะดุดไม่ต่อเนื่อง
นายกำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยไทยสู่มหาวิทยาลัยโลก เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงแนวทางดำเนินโครงการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยไทยสู่มหาวิทยาลัยโลก เพื่อสามารถสร้างกำลังคน เพิ่มขีดความสามารถที่จะแข่งขันกับนานาประเทศ และการแข่งขันทางเศรษฐกิจได้ โดยแนวทางนั้นจะเปิดให้มหาวิทยาลัยที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการส่งข้อมูลและนำเสนอโครงการต่างๆ ว่าสถาบันของตนมีความสามารถด้านไหน และมีศักยภาพในการสร้างนวัตกรรมและงานวิจัยอย่างไรบ้าง เพื่อคัดเลือกและได้รับการจัดสรรงบเพื่อนำไปสู่การพัฒนาให้เป็นมหาวิทยาลัยโลกต่อไป
รองเลขาธิการ กกอ.กล่าวต่อว่า สำหรับงบประมาณที่ใช้ดำเนินการโครงการสู่มหาวิทยาลัยโลกนี้ ในเบื้องต้นตั้งไว้ที่ประมาณ 1.7 แสนล้านบาท เป็นงบผูกพันดำเนินการภายในระยะเวลา 5 ปี โดยแบ่งเป็นงบสำหรับมหาวิทยาลัยแชมเปียนที่ผ่านการคัดเลือก ซึ่งจะได้รับปีละ 5,000 ล้านบาท 5 ปี รวมเป็น 25,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 1.35 แสนล้านบาท จะใช้สำหรับพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล รวมถึงการพัฒนาบุคลากรและคณาจารย์ในภาพรวมด้วย อย่างไรก็ตาม งบดังกล่าวนี้แม้จะมีการพิจารณาจากนายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และสำนักงบประมาณแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้มีการอนุมัติ ดังนั้นจึงต้องรอเสนอโครงการดังกล่าวต่อรัฐบาลชุดใหม่เพื่อพิจารณาอีกครั้ง เพราะเป็นการลงทุนในระยะยาว
นายกำจรกล่าวอีกว่า เหตุผลที่ กกอ.ต้องของบก้อนใหญ่และผูกพันระยะยาว เนื่องจากปัญหาใหญ่ที่ทำให้การพัฒนามหาวิทยาลัยไม่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาเป็นมหาวิทยาลัยระดับแนวหน้าในสากลได้ก็คือ นโยบายการพัฒนาถูกผูกติดอยู่กับนักการเมือง และเป็นเพียงนโยบายระดับกระทรวง ซึ่งผิดกับประเทศอื่นๆ ที่จัดทำเรื่องนี้เป็นแผนระดับชาติ ซึ่งไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาลก็จะต้องเดินหน้าในเรื่องนี้ต่อไป ไม่เหมือนกับประเทศไทยที่เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลนโยบายก็เปลี่ยนนโยบาย
"ผมจึงไม่อยากให้ทุกเรื่องผูกติดกับการเมือง และทำควรทำเรื่องนี้ให้เป็นแผนระดับชาติ รวมถึงทำเข้าความเข้าใจกับประชาชนด้วยว่า เรื่องนี้สามารถช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศได้ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม เพราะขณะนี้ยังมีหลายคนไม่เข้าใจว่าทำไมต้องดันให้มหาวิทยาลัยก้าวสู่มหาวิทยาลัยโลก" นายกำจรกล่าว.
ที่มาของข่าว : เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2557