"อ๋อย"ถอดบทเรียนแท็บเล็ต2ปี สั่งสพฐ.-สกอ.สำรวจความเสียหายช่วงปิดเทอม
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
"อ๋อย"ถอดบทเรียนแท็บเล็ต2ปี สั่งสพฐ.-สกอ.สำรวจความเสียหายช่วงปิดเทอม/โต้ตัวเลขคอมพ์พกพามีปัญหาสูงลิ่วแค่สุ่มเทียบ
"อ๋อย" สั่ง สพฐ.-สกอ.เตรียมสำรวจความเสียหายภาพรวมทุกเครื่องภายในปิดเทอมนี้ พร้อมถอดบทเรียนโครงการแท็บเล็ต 2 ปี เพื่อกำหนดเป็นแนวทางจัดซื้อและใช้แท็บเล็ตปีต่อไป โต้แท็บเล็ตไม่ได้เสีย 30% หรือกว่า 2 แสนเครื่อง เป็นแค่ตัวเลข สตง.สุ่มสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 80 โรงเรียนเท่านั้น แล้วถูกนำไปเทียบบัญญัติไตรยางศ์ยังไม่ใช่ตัวเลขจริงของทั้งประเทศ
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่มีกระแสข่าวว่ามีผลตรวจของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ตรวจสอบโครงการแท็บเล็ตพีซีเพื่อการศึกษา (OTPC) แล้วพบเครื่องแท็บเล็ตนักเรียนชั้น ป.1 ประจำปีการศึกษา 2555 เสียหาย 30% หรือ 2.59 แสนเครื่อง จากทั้งหมดประมาณ 860,000 เครื่อง ทั้งยังพบกรณีศูนย์ซ่อมแท็บเล็ตใน จ.สระบุรี ปิดศูนย์โดยไม่แจ้งให้โรงเรียนทราบล่วงหน้า และนำแท็บเล็ตนักเรียนที่ส่งซ่อมไปด้วยนั้น จากการติดตามรายงานผลตรวจ สตง.ที่ส่งมาให้นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) พบว่าผลตรวจดังกล่าวพบเครื่องแท็บเล็ตเสียหายจริง 30% แต่เป็นข้อมูลที่ไปสำรวจกลุ่มตัวอย่าง จากโรงเรียน 80 แห่ง ใน 12 เขตพื้นที่การศึกษา 11 จังหวัด ซึ่งพบเครื่องเสียหายประมาณ 295 เครื่อง จากประมาณ 990 เครื่อง ขณะที่การสำรวจกลุ่มตัวอย่างดังกล่าวคิดเป็น 0.2% ของโรงเรียนทั้งหมด อย่างไรก็ตาม กรณีข่าวก่อนหน้านี้คงมีการใช้ข้อมูลที่อาจไม่พิจารณาข้อมูลทั้งหมด แล้วไปเทียบบัญญัติไตรยางศ์จนคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
รมว.ศธ.กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาไม่เคยมีการสำรวจข้อมูลแท็บเล็ตเสียหายในภาพรวม ฉะนั้นจะให้ สพฐ.ไปประสานเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศเพื่อทำการสำรวจเครื่องแท็บเล็ตทั้งหมดในช่วงปิดภาคเรียนนี้ ว่ามีความเสียหายภาพรวมเท่าไหร่ และมีสาเหตุจากอะไร ขณะเดียวกันจะให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ไปประสานมหาวิทยาลัยที่มีคณะเกี่ยวกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ช่วยสุ่มตรวจเครื่องแท็บเล็ตเพื่อช่วยดูความเสียหายต่อไป อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการสรุปบทเรียนข้อดี-ข้อเสียการจัดซื้อแท็บเล็ตที่ผ่านมาทั้ง 2 ปี รวมถึงข้อเสนอของ สตง. เพื่อนำมาพิจารณากำหนดแนวทางจัดซื้อและแนวทางการใช้แท็บเล็ตในปีต่อๆ ไป
"ส่วนกรณีแนวคิดคูปอง 3,000 บาท ให้ผู้ปกครองและนักเรียนไปซื้อแท็บเล็ตเองนั้น ยืนยันว่ายังไม่ใช่ข้อสรุปใดๆ และยังมีปัญหาเรื่องความแตกต่าง ความไม่เท่าเทียม” นายจาตุรนต์กล่าว
นายจาตุรนต์ยังชี้แจงถึงศูนย์ซ่อมเครื่องแท็บเล็ตอีกว่า กระทรวงกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ซึ่งเป็นบริษัทคู่สัญญากับบริษัทที่ขายเครื่องแท็บเล็ตในปีงบประมาณ 2555 ได้รายงานสรุปการซ่อมเครื่องแท็บเล็ตระหว่างเดือนสิงหาคม 2555 สิงหาคม 2556 พบเครื่องแท็บเล็ตเสียหายทั้งสิ้น 5,344 เครื่อง คิดเป็น 0.62% จากทั้งหมด 858,886 เครื่อง ซึ่งแยกเป็นความเสียหายที่ฮาร์ดแวร์มากสุด 3,571 เครื่อง รองมาเป็นความเสียหายที่ซอฟต์แวร์ 1,773 เครื่อง อย่างไรก็ดี ตามเงื่อนไขที่ได้ทำสัญญาไว้ในส่วนการซ่อมแซมที่อยู่ในประกัน 2 ปี หากเกินระยะเวลาการส่งซ่อม 5 วัน ทางบริษัทคู่สัญญาต้องส่งเครื่องแท็บเล็ตสำรองให้ผู้ใช้ได้ใช้ทดแทน เมื่อซ่อมเรียบร้อยแล้วจะส่งเอสเอ็มเอสให้โรงเรียนมารับภายใน 3 วัน
ส่วนกรณีศูนย์ซ่อมที่ จ.สระบุรีนั้น พบว่าจังหวัดดังกล่าวมีศูนย์ซ่อม 2 ศูนย์ ทั้งที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าสุขอนันต์ และห้างสรรพสินค้าทวีกิจ แต่ขณะนี้สาขาทวีกิจปิดทำการไปแล้ว แต่ลูกค้าของสาขาทวีกิจสามารถมารับเครื่องที่ส่งซ่อมได้ที่สาขาสุขอนันต์ได้ อย่างไรก็ดี จากการสอบถามบริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด หรือบริษัทคู่สัญญา พบว่าบริษัทยังไม่ได้รับรายงานการปิดศูนย์ซ่อม มีเพียงการย้ายสถานที่ไปอยู่บริเวณใกล้เคียง จำนวน 3 ศูนย์เท่านั้น และบริษัท แอดไวซ์ โฮลดิงส์ กรุ๊ป จำกัด ที่เป็นศูนย์ซ่อมแท็บเล็ตจากบริษัท เสิ่นเจิ้น สโคปฯ ถือว่ายังซ่อมได้ตามเงื่อนไขที่ได้ทำสัญญาไว้กับกระทรวงไอซีที.
ที่มาของข่าว : เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 9 ตุลาคม 2556