"เปิดด้านมืด" สอบส่วนกลาง ทำนร.เครียด
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
"เปิดด้านมืด" สอบส่วนกลาง ทำนร.เครียด
ผู้แทนยูเนสโกเปิดด้านมืดระบบสอบส่วนกลาง พบทำเด็กเครียดมากขึ้นจากการต้องเตรียมตัว แห่เรียนกวดวิชาเพื่อให้สอบผ่าน โรงเรียนและครูเลือกรับและรักเด็กเก่ง
ผู้แทนยูเนสโกเปิดด้านมืดระบบสอบส่วนกลาง พบทำเด็กเครียดมากขึ้นจากการต้องเตรียมตัว แห่เรียนกวดวิชาเพื่อให้สอบผ่าน โรงเรียนและครูเลือกรับและรักเด็กเก่ง
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานประชุมนานาชาติ 2013 “NIETS International Symposium” จัดโดยสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ดร.ฉาง กว่าง ชอย ผู้แทนยูเนสโก กรุงเทพฯ กล่าวในการบรรยายพิเศษ เรื่อง “การประเมินผลและมาตรฐานการจัดอันดับของการเรียนรู้ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” ว่า จากการทำวิจัยของยูเนสโกที่เคยได้สำรวจเรื่องการทดสอบจากส่วนกลางมีผลอะไรบ้าง พบว่าทำให้นักเรียนเครียดจากการต้องเตรียมตัวมากขึ้น มีการเรียนพิเศษนอกห้องเรียนเพิ่ม ขณะที่โรงเรียนและครูจะมุ่งเน้นให้เด็กทำข้อสอบผ่านเท่านั้น ไม่เน้นเรื่องการพัฒนาการเรียนการสอนแต่อย่างใด ทั้งยังพบว่าโรงเรียนจะเลือกรับแต่เด็กเรียนเก่งเท่านั้น ครูก็มุ่งดูแลแต่เด็กเก่ง ฉะนั้นคงต้องดูว่าการสอบจากส่วนกลางมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร
ศ.ดร.มาร์ก แอล เดวิสัน อาจารย์ด้านจิตวิทยาการศึกษา จากมหาวิทยาลัยมินนิโซตา กล่าวบรรยายพิเศษ เรื่อง “นโยบายและการปฏิบัติด้านการจัดการทดสอบและการประเมินกลุ่มใหญ่” ว่า สหรัฐอเมริกามุ่งเน้นการพัฒนาทักษะด้านคณิตศาสตร์ การอ่าน และวิทยาศาสตร์ เป็นหลัก โดยปัจจุบันมีระบบการจัดสอบ 2 รูปแบบคือ ให้แต่ละรัฐจัดสอบเองโดยมีรัฐบาลเป็นผู้กำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำในการผ่านการประเมิน ซึ่งปัจจุบันเกณฑ์ดังกล่าวอยู่ในระดับ 100 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่อีกระบบหนึ่งซึ่งเป็นนโยบายของนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดี เน้นการจัดการทดสอบโดยมีรัฐบาลเป็นผู้กำหนดหลักสูตรและข้อสอบให้เป็นชุดเดียวกันทั้งประเทศ ซึ่งในอนาคตคาดว่าจะมีการพัฒนาการทดสอบของสหรัฐให้เปลี่ยนมาเป็นแบบทดสอบเดียว แต่จะต้องสามารถเปรียบเทียบผลลัพธ์ของทุกรัฐ และนักเรียนแต่ละคนสามารถเปรียบเทียบได้ว่ามีความสามารถในการเรียนรู้อย่างไรบ้าง
“รูปแบบที่สหรัฐกำลังใช้อยู่เป็นรูปแบบเดียวกันกับที่รัฐบาลไทยดำเนินการอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม การพัฒนาระบบการทดสอบประเมินผลจำเป็นต้องมีการเก็บข้อมูลการดำเนินการที่ผ่านมาในทุกระยะ เพื่อจะสามารถเปรียบเทียบผลการดำเนินงานในแต่ละรูปแบบได้ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสร้างเครือข่ายการทำบททดสอบในเชิงมืออาชีพ ทั้งในระดับรัฐหรือชุมชน และระดับรัฐบาลเอง แลกเปลี่ยนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น พร้อมกับช่วยกันดูทิศทางการเปลี่ยนแปลงของการทำข้อสอบ หรือการออกข้อสอบในระดับชาติ” ดร.มาร์กกล่าว.
ที่มาของข่าว : เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 5 กันยายน 2556