เชิญกฤษฎีกาติวเข้มวิธีสั่งปลดทุจริตสอบครู
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
เชิญกฤษฎีกาติวเข้มวิธีสั่งปลดทุจริตสอบครู
อ.ก.ค.ศ.วิสามัญฯ ย้ำมติ ก.ค.ศ.สั่งปลดทุจริตสอบครูผู้ช่วย ว12 จำนวน 344 รายถูกต้องแล้ว เชิญ ผอ.สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาติวเข้ม ผอ.รร.ขั้นตอนถูกต้องตามกฎหมายให้ออกจากราชการ พร้อมสั่งสอบทุจริตครูผู้ช่วยเพิ่มอีก 204 ราย
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการ ศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่า ที่ประชุมได้รับทราบรายงานความคืบหน้าจากสำนักงาน ก.ค.ศ. ถึงผลการหารือกับ อ.ก.ค.ศ.วิสามัญเกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา กรณีที่ให้ไปพิจารณามติ ก.ค.ศ.ที่ให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา แจ้งให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ดำเนินการกับผู้เข้าสอบจำนวน 344 คน ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ แจ้งว่าเข้าข่ายกระทำการทุจริตในการสอบครูผู้ช่วยกรณีที่มีความจำเป็นหรือเหตุพิเศษ ว12 โดยรายใดที่ได้รับการบรรจุแต่งตั้งเข้ารับราชการไปแล้วให้ออกจากราชการ เพราะถือว่าเป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดีสำหรับการเป็นผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ว่าเป็นมติที่ถูกต้องชัดเจนหรือไม่ ถ้าไม่ชัดเจนจะมีแนวปฏิบัติอย่างไร รวมทั้งกรณีกลุ่มอดีตครูผู้ช่วยมาร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม หลังถูกให้ออกจากราชการโดยไม่มีโอกาสได้ชี้แจง ว่าได้ดำเนินการถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมายหรือไม่
รมว.ศธ.กล่าวอีกว่า อ.ก.ค.ศ.วิสามัญฯ มีความเห็นว่า มติ ก.ค.ศ.ดังกล่าวเป็นมติที่ถูกต้องแล้ว ส่วนการปฏิบัติที่ไม่เหมือนกันของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ แต่ละแห่ง อ.ก.ค.ศ.วิสามัญฯ ได้จัดทำข้อเสนอเพื่อเป็นแนวปฏิบัติ อาทิ กรณีที่มีการร้องทุกข์ว่าไม่ได้เปิดโอกาสให้ชี้แจง ก็ให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ กลับไปทบทวนและดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายให้สำนักงาน ก.ค.ศ.จัดประชุม อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ และผู้อำนวยการโรงเรียนที่เกี่ยวข้อง เพื่อชี้แจงขั้นตอนและแนวปฏิบัติ โดยเชิญผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย อาทิ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา มาให้ความรู้ถึงขั้นตอนและกระบวนการสอบสวนทางวินัย และการออกคำสั่งทางปกครอง จากนั้นให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ดำเนินการตามมติ ก.ค.ศ.ต่อไป
ด้านนางรัตนา ศรีเหรัญ เลขาธิการ ก.ค.ศ. กล่าวว่า ขั้นตอนต่อไปสำนักงาน ก.ค.ศ.จะเชิญผู้อำนวยการโรงเรียนที่เกี่ยวข้องมารับฟังคำชี้แจงถึงขั้นตอนและแนวปฏิบัติจากนายอัชพร จารุจินดา เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งเป็นประธาน อ.ก.ค.ศ.วิสามัญฯ ว่าแต่ละแนวทางจะต้องดำเนินการที่ถูกต้องเป็นอย่างไร ทั้งในกรณีที่มีคำสั่งให้ออกจากราชการโดยไม่ได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ก็ให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง, กรณีที่มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว แต่พยานหลักฐานไม่ชัดเจนเพียงพอ จะต้องทำอย่างไร และกรณีที่ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ ซึ่งควรมีการตั้งคณะกรรมการสอบ เพื่อให้เกิดความเข้าใจและเป็นแนวปฏิบัติที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ที่ประชุม ก.ค.ศ.ยังได้พิจารณากรณีสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) วิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติม พบว่ามีผู้ที่เข้าข่ายการทุจริตอีกจำนวน 204 คน ซึ่งภายหลังการพิจารณา ก.ค.ศ.มีมติเห็นสมควรมอบข้อมูลนี้ให้กับศูนย์ประสานงานการสอบสวนการทุจริตการสอบบรรจุครูผู้ช่วย เพื่อดำเนินสอบสวนต่อไป.
ที่มาของข่าว : เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 30 สิงหาคม 2556