LASTEST NEWS

20 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 20 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 19 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพม.นครสวรรค์ - ผลย้ายครู 2567 สพม.นครสวรรค์ 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 2 (รอบที่ 1) สพป.นราธิวาส เขต 1 - ผลย้ายครู 2567 สพป.นราธิวาส เขต 1 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพป.น่าน เขต 1 - ผลย้ายครู 2567 สพป.น่าน เขต 1 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพม.นครพนม - ผลย้ายครู 2567 สพม.นครพนม 19 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพป.ราชบุรี เขต 2 - ผลย้ายครู 2567 สพป.ราชบุรี เขต 2 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 2) สพป.ขอนแก่น เขต 3 - ผลย้ายครู 2567 สพป.ขอนแก่น เขต 3

มติครม.ประจำวันที่ 10 มิถุนายน 2556

  • 11 มิ.ย. 2556 เวลา 23:16 น.
  • 9,199
มติครม.ประจำวันที่ 10 มิถุนายน 2556

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติยกเว้นภาษีเงินได้ให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุความรุนแรงทางการเมือง และความไม่สงบใน จว.ชายแดนใต้ มอบ “วราเทพ” ประสานจำนำข้าว
 
นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมครม. มีมติเห็นชอบตามที่ กระทรวงการคลัง ขออนุมัติหลักการร่าง พ.ร.ก.มาตรการยกเว้นภาษีเงินได้ ให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง โดยมีสาระสำคัญ คือ กำหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ซึ่งได้รับผลกระทบหรือความเสียหายอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความรุนแรงหรือความขัดแย้งทางการเมือง รวมถึงเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ สำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่ปีภาษี พ.ศ.2555 เป็นต้นไป หรือสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2555
ครม.ไฟเขียวร่างกฎหมายขนส่งทางอากาศฉบับใหม่
 
ที่ประชุมครม.สัญจร จังหวัดกำแพงเพชร เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ ผ่านมา ได้เห็นชอบร่างพ.ร.บ.การรับขนทางอากาศระหว่างประเทศฉบับใหม่ โดยกำหนดรายละเอียดของข้อกฎหมายให้รัดกุมขึ้น ซึ่งนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม ได้รายงานที่ประชุมว่า เหตุผลที่ต้องเสนอร่างกฎหมายเข้ามาใหม่ เพราะข้อกฎหมายฉบับเดิมได้กำหนดแนวทางการควบคุมที่เกี่ยวข้องกับการเดินอากาศแบบอนุโลม ดังนั้นจึงจำเป็นต้องแก้ไข และหลังจากผ่านการเห็นชอบจากครม.แล้ว กระทรวงคมนาคมจะเร่งเสนอให้รัฐสภาพิจารณาต่อไป
 
สำหรับสาระสำคัญของร่างกฎหมายดังกล่าว ได้กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการรับขนคนโดยสารและสัมภาระ โดยเฉพาะการให้ผู้บริการขนส่งต้องแสดงความรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น เช่น คนโดยสารถึงแก่ความตายหรือได้รับบาดเจ็บสัมภาระลงทะเบียนถูกทำลาย สูญหายหรือเสียหาย กรณีการล่าช้า ขณะเดียวกันยังกำหนดเรื่องการรับขนของ และยังแนวทางการฟ้องเรียกค่าเสียหายด้วย
 
นอกจากนี้ยังได้เห็นชอบบันทึกความเข้าใจระหว่างประเทศไทย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เกี่ยวกับการเจรจาการบิน โดยกำหนดอัตราการให้บริการขนส่งผู้โดยสารระหว่างกันใน 3 เส้นทาง คือ เส้นทางเวียงจันทน์-กรุงเทพฯ และเส้นทางกรุงเทพฯ-เวียงจันทน์ กำหนดให้บริการได้ถึงฝ่ายละ 3,500 ที่นั่งต่อสัปดาห์ ,เส้นทางหลวงพระบาง-กรุงเทพฯ และเส้นทางกรุงเทพฯ-หลวงพระบาง ยังคงได้ฝ่ายละ 1,000 ที่นั่งต่อสัปดาห์ ส่วนจะเพิ่มความจุอีกหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมของสนามบินหลวงพระบาง และเส้นทางอื่นๆ ได้อีกฝ่ายละ 1,200 ที่นั่งต่อสัปดาห์ ขณะที่การขนส่งเฉพาะสินค้าทั้งสองฝ่ายจะได้รับอนุญาตให้บริการตามสิทธิรับขนการจราจรเสรีภาพได้อย่างเต็มที่ ตามเส้นทางบินที่ได้ตกลงกันไว้
 
ครม.ตั้ง “วราเทพ” รวบรวมข้อมูลจำนำข้าว
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ได้มอบหมายให้นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่ในการประสานและรวบรวมข้อมูลทั้งหมดของโครงการรับจำนำข้าวเพื่อชี้แจงต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป
ทั้งนี้ ครม.ให้อำนาจนายวราเทพสามารถเรียกข้อมูลไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสต๊อกข้าว การระบายข้าว ข้าวคงค้าง และทุกๆข้อมูลจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
ส่วนกรณีตัวเลขการขาดทุนจากการดำเนินนโยบายรับจำนำข้าวที่ยังไม่มีความชัดเจนนั้น นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า จากการที่ถูกโจมตีว่าขาดทุนถึง 2.6 แสนล้านบาทนั้น ทางกระทรวงพาณิชย์จะรอข้อมูลจากคณะกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำผลผลิตการเกษตรของกระทรวงการคลังที่จะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ซึ่งตัวเลขที่ทาง กขช.จะสรุปนั้น จะเป็นตัวเลขอย่างเป็นทางการและจะทราบว่ามีการขาดทุนเท่าไหร่ ซึ่งจะมีการชี้แจงให้กับประชาชนรับทราบต่อไป
 
ครม.ตั้งคกก.ปรับปรุงระเบียบรองรับp4p
ผลการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.) ว่า ที่ประชุมได้หารือเรื่องของกระทรวงสาธารณะสุข กรณีเรื่อง p4p ที่เพิ่งได้ข้อสรุปเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า จะไม่มีระบบการร่วมจ่าย และทุกฝ่ายยังเห็นพ้องกันว่า p4p มีระบบที่ช่วยให้มีประสิทธิภาพคุณภาพในการบริการต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อประชาชนอย่างมีระบบ ช่วยลดความเหลือมล้ำบุคลากรทางการแพทย์
 
ทั้งนี้การที่จะดึงแพทย์ให้อยู่ในชนบทนั้น มาตรการที่จำเป็นคือมาตรการทางการเงิน ส่วนกระทรวงสาธารณสุขจะยกเลิกการเก็บเงิน 30 บาทหลักประกันสุขภาพ (โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค) หรือไม่นั้น จะต้องนำเรื่องนี้ไปศึกษาต่อไป ทั้งนี้ได้มีการย้ำเรื่องการจัดซื้อโดยจะมีการแยกออกจากกันระหว่างผู้อำนวยการสาธารณะสุข กับหน่วยงานผู้จัดซื้อ นอกจากนี้ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข ยังได้ย้ำว่าจะไม่มีการแปรรูปองค์การเภสัชกรรม
 
นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ประชุมยังเห็นว่า p4p มีบริบทการทำงานที่แตกต่างกัน และอยากเห็นกติกากลางที่กำหนดขึ้นมา ทั้งนี้จะมีการตั้งคณะทำงาน 1 ชุดเพื่อทำหน้าที่ปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆที่เป็นปัญหาหรืออุปสรรค์ในแต่ละพื้นที่ และคณะทำงานจะมีการคิดมาตรการชดเชยเยียวยาสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย ซึ่งการดำเนินงานของคณะทำงานชุดนี้จะได้ข้อสรุปภายใน 60 วัน และมีการเตรียมความพร้อม 2 เดือน ก่อนจะนำ p4p ที่ได้รับการปรับปรุงไปใช้ในวันที่ 1 ต.ค.56″ 
 
ครม.เทงบกว่า7หมื่นล้านพัฒนาภาคเหนือตอนล่าง2
ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมให้ความเห็นชอบแผนยุทธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 รวม 199 แผนงาน ในวงเงินงบประมาณ 72,270 ล้านบาท ภายใต้แนวทางการพัฒนา 4 ด้าน ประกอบด้วย การพัฒนากระบวนการผลิตสินค้าเกษตรสำคัญ การเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรและพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสินค้าเกษตร การพัฒนาระบบขนส่งและกระจายสินค้า และศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์และการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยในจำนวนนี้มีโครงการที่มีความพร้อมและสามารถดำเนินการได้ทันที จำนวน 22 โครงการ วงเงิน 512 ล้านบาท ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มอบหมายให้แต่ละจังหวัดที่เป็นเจ้าของโครงการเร่งจัดทำรายละเอียดเพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณประจำปี 2556 ส่งให้สำนักงานคณะกรรมการการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งสำนักงบประมาณเร่งพิจารณาเพื่ออนุมัติงบประมาณต่อไป
 
ครม.อนุมัติ5แสนล.จำนำข้าวครั้งที่ 2
เมื่อเวลา 12.45 น. มหาวิทยาลัยราชภัฎกำแพงเพชร นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบอนุมัติกรอบวงเงินของโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2555/56 ครั้งที่ 2 ของกระทรวงพาณิชย์ ในกรณีมีความจำเป็นให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สำรองจ่ายไปก่อนระหว่างรอเงินจากการระบายผลิตผล หรือเงินจากแหล่งอื่น ๆ
 
ทั้งนี้วันที่ 31 ธันวาคม 2556 กระทรวงพาณิชย์ต้องดำเนินการให้มีการใช้เงินในกรอบวงเงินหมุนเวียนของโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2554/55 และ 2555/56 ไม่เกินจำนวน 500,000 ล้านบาท โดยเป็นเงินทุนของ ธ.ก.ส. จำนวน 90,000 ล้านบาท และเงินกู้ที่กระทรวงการคลังจัดหาให้ จำนวน 410,000 ล้านบาท โดยให้กระทรวงการคลังรับภาระชำระคืนต้นเงิน ดอกเบี้ย จากการกู้ยืมเงิน ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และผลขาดทุนที่เกิดขึ้นทั้งหมดของโครงการ ปีการผลิต 2555/56 ทั้งในส่วนที่กระทรวงการคลังจัดหา และส่วนที่ใช้เงินทุนของ ธ.ก.ส.จัดหา ทั้งนี้การขยายกรอบปริมาณและกรอบวงเงินของโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2555/56 ครั้งที่ 2 ต้องไม่เกินกรอบปริมาณและกรอบวงเงินที่ 22 ล้านตัน และ 345,000 ล้านบาท
 
มอบกษ.-พณ.ตรวจสอบเข้มทุกขั้นตอน
นายภักดีหาญส์ กล่าวอีกว่า ครม.ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์วางระบบการกำกับติดตามการดำเนินงานของโครงการรับจำนำข้าวเปลือกในทุกขั้นตอนโดยเฉพาะให้องค์การตลาดเพื่อเกษตรกรและองค์การคลังสินค้าดำเนินการและควบคุมการออกใบประทวนอย่างรัดกุม รวมทั้งให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรตรวจสอบปริมาณและคุณภาพสินค้าให้เป็นไปตามใบประทวนที่ได้รับ
 
รบ.เตรียมผลงานปี 2
นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า คณะกรรมการจัดทำรายงานแสดงผลการดำเนินงานของคณะรัฐมนตรีที่มีนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธานได้แจ้งให้ที่ประชุม ครม.รับทราบว่า จะต้องจัดทำรายงานแสดงผลการดำเนินงานของคณะรัฐมนตรีปีที่ 2 ของรัฐบาล
 
โดยมีการกำหนดประเด็นสำคัญ และเจ้าภาพในการจัดทำรายงานดังกล่าวที่จะครบรอบปีที่ 2ในวันที่ 23 ส.ค.นี้ ซึ่งฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการได้มีการจัดประชุมหน่วยงานราชการเพื่อพิจารณาหาเจ้าภาพในการดำเนินงาน ทำหน้าที่ในการบูรณาการข้อมูล ให้หน่วยงานส่งมายังหน่วยงานที่เป็นเจ้าภาพหลัก ภายในวันที่ 12ก.ค.แต่หากมีการบูรณาการข้อมูลสามารถส่งได้ถึงวันที่ 24 ก.ค.
 
ประเด็นที่จะนำมาจัดทำรายงานประกอบด้วย ประเด็นการสร้างความสมานฉันท์ของคนในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตย กำหนดให้การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ การป้องกันและปราบปรามการทุจริตและการประพฤติมิชอบในภาครัฐอย่างจริงจัง ส่งเสริมให้มีการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการ เร่งรัดการขยายเขตพื้นที่ชลประทาน เร่งนำสันติสุขและนำความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนกลับมาสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เร่งฟื้นฟูและพัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านและนานาชาติ เป็นต้น
 
ครม.ขีดเส้นสิ้นมิ.ย.ส่งขอรับจัดสรรงบฯกลุ่มจว.
เมื่อเวลา 12.45 น.มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า การดำเนินโครงการตามมติครม.อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ในปีงบประมาณ 2555 ที่จังหวัดอุดรธานี เชียงใหม่ ภูเก็ต กาญจนบุรี ชลบุรี และสุรินทร์ รวม 6 ครั้ง และปีงบประมาณ 2556 มีการประชุม 3ครั้ง สุราษฎร์ธานี อุตรดิตถ์ และฉะเชิงเทรา ซึ่งครม.ได้ให้ความเห็นชอบแผนงานและโครงการของพื้นที่กลุ่มจังหวัดและจังหวัดที่มีความพร้อมในการดำเนินการ รวมทั้งสิ้น 302 โครงการ
โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน7411 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณปี 2555 วงเงิน 5653ล้านบาท 224 โครงการ และงบประมาณปี 2556 จำนวน 78 โครงการ วงเงิน 1757 ล้านบาท โดยให้หน่วยงานเจ้าของโครงการจัดทำคำขอรับการจัดสรรงบประมาณประจำปี 2556 ส่งให้สำนักงบประมาณภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อพิจารณาวงเงินที่เหมาะสมให้ต่อไป และยังมีโครงการไม่ขอจัดสรรงบประมาณ 7 โครงการ 320 ล้านบาท ครม.ให้ส่งคำขอรับการจัดสรรงบประมาณจนถึงเดือนมิ.ย.นี้ ถ้าไม่ส่งเข้ามาจะตัดงบประมาณแล้วนำไปใช้โครงการอื่นต่อไป
 
ครม.อนุมัติงบฯ 52 ล้านบาทตั้งศูนย์ที่ดิน
เมื่อเวลา 12.45 น. ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ว่า ครม.เห็นชอบและอนุมัติงบประมาณ 52 ล้านบาท เพื่อจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการที่ดินกลางของคณะกรรมการบูรณาการการบริหารจัดการที่ดินเชิงระบบ(กบช.) ให้อธิบดีกรมที่ดิน เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ
 
ที่ประชุมยังได้แต่งตั้งนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะของประธานกบช. ให้เป็นประธานคณะอนุกรรมการ 3 คณะที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาที่ดินแทนนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ที่ย้ายไปดำรงตำแหน่งรมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นอกจากนี้ที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบแผนงานโครงการศูนย์ข้อมูลที่ดินและแผนที่แห่งชาติ ของกรมที่ดิน ระยะที่ 1 ทั้งนี้ ระยะเวลาการดำเนินการแผนงานต่างๆ อยู่ระหว่างวันที่ 1 ต.ค.2555-30 ก.ย.2556 มีงบประมาณดำเนินงาน ประมาณ 1,302 ล้านบาท
 
 
หรือดาวน์โหลดเอกสารข่าวสรุปผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ได้ที่ ลิงค์ด้านล่าง
 
 
  • 11 มิ.ย. 2556 เวลา 23:16 น.
  • 9,199

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

ความคิดเห็นเกี่ยวกับ : มติครม.ประจำวันที่ 10 มิถุนายน 2556

เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^