สพฐ.ไม่ยุบแต่ย้าย! นร.2,686 แห่ง ไปโรงเรียนหลัก
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
ไม่ยุบแต่ย้าย สพฐ.สรุปตัวเลข 182 เขตพื้นที่ฯ ส่งแผนบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก พบโรงเรียนมีนักเรียต่ำกว่า 60 คน 5,949 แห่ง "ย้าย" เรียนร่วมโรงเรียนหลัก2,686 แห่ง และ 118 แห่งกลายเป็นโรงเรียนร้างแต่ยังไม่สั่งยุบทิ้งทันที ต้องรอหารือกรรมการเขตฯ/กรรมการเครือข่ายการศึกษาทางเลือกฯ พร้อมเสนอ บิ๊ก ศธ . พิจารณาหาแนวทางพัฒนาอย่างยั่งยืน
วันที่ 31 พ.ค.56 นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมจัดทำข้อมูลแผนการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ทั่วประเทศ ที่มีนักเรียนต่ำกว่า 60 คนว่า ขณะนี้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ทั้ง 182 เขตพื้นที่ฯ ได้ส่งข้อมูล และแผนบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กมายัง สพฐ. แล้ว โดยพบว่ามีโรงเรียน 5,949 แห่ง ที่มีนักเรียนต่ำกว่า 60 คน ซึ่งแต่ละเขตพื้นที่ฯ มีการบริหารจัดการโรงเรียนที่หลากหลาย แบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ
1.กลุ่มโรงเรียนที่มีการเคลื่อนย้ายนักเรียนและใช้การบริหารแบบเป็นเครือข่าย โดยเคลื่อนย้ายนักเรียนจากโรงเรียนเครือข่ายมาเรียนโรงเรียนหลัก เพื่อให้จำนวนนักเรียนต่อห้อง และอัตราส่วนนักเรียนต่อครูอยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะทำให้เกิดประสิทธิภาพได้ 2,686 แห่ง
2.กลุ่มโรงเรียนที่ยังไม่มีการเคลื่อนย้ายนักเรียน ยังคงมีการจัดการเรียนการสอนในที่ตั้ง 2,891 แห่ง ซึ่งกลุ่มนี้ทางเขตพื้นที่ฯ จะต้องกำกับดูแลในเรื่องคุณภาพ โดยจะต้องทำประชาคม และวางแผนในการบริหารจัดการร่วมกับชุมชนให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น
3.กลุ่มโรงเรียนที่มีลักษณะพิเศษ เช่น อยู่บนพื้นที่สูง บนเกาะ พื้นที่ห่างไกล ชายแดน ซึ่งนักเรียนไม่สามารถเคลื่อนย้ายไปเรียนที่ไหนได้ 372 แห่ง
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ในการรายงานข้อมูลยังพบว่าในจำนวนโรงเรียน 5,949 แห่ง มีโรงเรียน 118 แห่ง ที่ไม่มีนักเรียน แต่โรงเรียนเหล่านี้จะยังไม่มีการยุบ หรือเลิกในทันที เพราะตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการจัดตั้ง รวม เลิก สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2550 จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
โดยเขตพื้นที่ฯ จะต้องมีการติดตาม และดูว่าจะสามารถใช้โรงเรียนที่ไม่มีนักเรียนจัดการศึกษาในรูปแบบการศึกษานอกระบบ หรือภารกิจอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาได้หรือไม่ นอกจากนี้จะต้องรับฟังความคิดเห็นจากภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องในคณะกรรมการเครือข่ายการศึกษาทางเลือกโรงเรียนขนาดเล็ก และโรงเรียนของชุมชน ว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร เพราะเราจะต้องยึดหลักไม่บริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กโดยใช้ระบบราชการฝ่ายเดียว แต่จะต้องเน้นการมีส่วนร่วม
"หลังจากนี้ สพฐ. จะจัดทำระบบสารสนเทศที่มีความชัดเจน โดยจะวางจุดที่ตั้งของโรงเรียนเหล่านี้ไว้ในแผนที่ ซึ่งจะกระจายอยู่ตามเขตพื้นที่ต่างๆ และจะมีฐานข้อมูลที่เป็นข้อมูลพื้นฐานของโรงเรียนด้วย ไม่ว่าจะเป็น ชื่อโรงเรียน สังกัดเขตพื้นที่ฯใด จำนวนนักเรียน ครู อาคารเรียน ทรัพยากรต่างๆ และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับชุมชน"
นายชินภัทร กล่าวและว่า ทั้งนี้ข้อมูลแผนการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กทั้ง 182 เขตพื้นที่ฯ จะมีการนำเสนอต่อนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ และนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ รวมทั้งจะนำข้อมูลดังกล่าว และข้อเสนอของสมาคมสภาการศึกษาทางเลือกไทย และชมรมเครือข่ายโรงเรียนชุมชน (โรงเรียนขนาดเล็ก) อาทิ ให้โรงเรียนขนาดเล็กสามารถปรับหลักสูตรให้สอดคล้องกับบริบทของชุมชน และบูรณาการหลักสูตรแกนกลาง และให้โรงเรียนขนาดเล็กมีระบบประกันคุณภาพภายในที่เป็นของตนเอง ไปพิจารณาในการประชุมคณะกรรมการเครือข่ายการศึกษาทางเลือกฯ ซึ่งจะจัดประชุมในเร็วๆ นี้ เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการแก้ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก --> เว็บไซต์หนังสือพิมพ์สยามรัฐ วันที่ 31 พฤษภาคม 2556