LASTEST NEWS

19 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพม.นครสวรรค์ - ผลย้ายครู 2567 สพม.นครสวรรค์ 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 2 (รอบที่ 1) สพป.นราธิวาส เขต 1 - ผลย้ายครู 2567 สพป.นราธิวาส เขต 1 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพป.น่าน เขต 1 - ผลย้ายครู 2567 สพป.น่าน เขต 1 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพม.นครพนม - ผลย้ายครู 2567 สพม.นครพนม 19 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพป.ราชบุรี เขต 2 - ผลย้ายครู 2567 สพป.ราชบุรี เขต 2 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 2) สพป.ขอนแก่น เขต 3 - ผลย้ายครู 2567 สพป.ขอนแก่น เขต 3 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพป.เชียงใหม่ เขต 2 - ผลย้ายครู 2567 สพป.เชียงใหม่ เขต 2 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพป.นครสวรรค์ เขต 1 - ผลย้ายครู 2567 สพป.นครสวรรค์ เขต 1

"ชินภัทร" เผยรับได้ถูกสอบวินัยร้ายแรงปมทุจริตครูผู้ช่วย

  • 21 พ.ค. 2556 เวลา 21:28 น.
  • 7,384
"ชินภัทร" เผยรับได้ถูกสอบวินัยร้ายแรงปมทุจริตครูผู้ช่วย

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

"ชินภัทร" ไม่รอดแน่! ส่อโดนย้ายพ้นเลขาฯ สพฐ.ไม่เกินสัปดาห์หน้า เผย ศธ.นำเรื่องย้ายเข้าที่ประชุม ครม.แล้ววันอังคารที่ 21 พ.ค. แต่ถูกถอดออก "เสริมศักดิ์" แจงหากสอบแล้วผิดจริง ถึงขั้นปลดออก ไล่ออก แม้เกษียณก็มีผลย้อนหลังไม่ได้รับสิทธิ์หลังเกษียณ แจงเลขาฯ สพฐ.เคยรับทราบรายงานผลการตรวจพบโพยเฉลยคำตอบแล้ว แต่ยังนิ่งเฉย ถือว่าผิดวินัยร้ายแรง เพราะเป็นผู้บริหารสูงสุดในองค์กร 
 
    นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) แถลงความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงกับนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เกิดการทุจริตสอบครูผู้ช่วยกรณีมีความจำเป็น หรือเหตุพิเศษ ว12 ที่ผ่านมา จนเกิดความเสียหายในวงกว้าง รวมถึงการตรวจสอบข้าราชการระดับสูงที่เกี่ยวข้องด้วย ว่า ขณะนี้ได้ตั้งนายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ให้เป็นประธานคณะกรรมการสอบวินัยฯ เพื่อสอบสวนตามมติคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ที่มีนางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัด ศธ. เป็นประธาน ซึ่งได้ชี้มูลที่ชัดเจนว่านายชินภัทรเป็นผู้บริหารรับผิดชอบสูงสุดของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มีความผิดตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 มาตรา 82 (2) ฐานไม่ปฏิบัติตามกฎหมายระเบียบ คำสั่ง นโยบายของทางราชการ และเกี่ยวโยงกับมาตรา 85 (7) ฐานละเว้นการปฏิบัติงานทำให้เกิดผลเสียหายร้ายแรงต่อหน่วยงานราชการ

    รมช.ศธ.อธิบายถึงสาเหตุที่ต้องตั้งกรรมการสอบผู้บริหาร สพฐ.ว่า ทั้งนี้ คณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงได้นำกรณีประเด็นการรายงานทุจริตของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) อุดรธานี เขต 3 และ สพป.ยโสธร เขต 1 ที่พบทุจริตในวันสอบจริง โดยเฉพาะโพยเฉลยคำตอบ ซึ่งเขตพื้นที่ฯ ได้ทำเป็นรายงานการจับทุจริตส่งมาที่ส่วนกลางแล้ว แต่ส่วนกลางโดยเฉพาะผู้บังคับบัญชาสูงสุดกลับเพิกเฉยการตรวจสอบดังกล่าว ทั้งๆ ที่เรื่องการรั่วไหลของเฉลยคำตอบเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งหากรู้ก่อนยังสามารถสั่งยกเลิกการสอบได้ จนเกิดความเสียหายในวงกว้างในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม กรณีการจะโยกย้ายนายชินภัทรออกจากตำแหน่งปัจจุบันหรือไม่นั้น ก็คงต้องดูเหตุการณ์ก่อน หากการสอบวินัยมีการขัดขวาง หรือไม่เอื้ออำนวยเพื่อให้การสอบเป็นไปด้วยความเรียบร้อยหรือเป็นธรรม ก็คงจะพิจารณาต่อไป และต้องใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรีในการสั่งการ แต่เบื้องต้นคงต้องดำเนินการสอบวินัยร้ายแรงไปก่อนถึงจะพิจารณาเรื่องนี้ต่อไป
 
    “ถึงแม้จะมีการสอบวินัยร้ายแรง แต่เมื่อยังไม่มีคำสั่งให้ย้ายออก คุณชินภัทรยังสามารถปฏิบัติงานเดิมได้อยู่ แต่จริงๆ แล้วการตั้งสอบวินัยร้ายแรง ส่วนใหญ่บุคคลที่ถูกสอบนั้นจะต้องย้ายออกจากตำแหน่ง แต่เข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก และมีผลกระทบมาก ฉะนั้นก็ขอดูผลกรรมการสอบวินัยร้ายแรงก่อนว่าการตรวจสอบได้ถูกขัดขวางหรือไม่ จากนั้นก็ค่อยมานั่งคุยกันต่อไป เบื้องต้นผมไม่ได้กำหนดระยะเวลาว่าต้องตรวจสอบภายในเวลาเท่าไหร่ แต่ได้กำชับให้ดำเนินการให้เร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม ผลการสืบสวนก็มีข้อสรุปชัดเจนว่า เลขาธิการ กพฐ.มีความผิดชัดเจน การละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ถึงการไม่สั่งตรวจสอบทุจริตตามที่ได้รับรายงาน ส่วนข้าราชการระดับสูงที่เกี่ยวข้องอีก 3 ราย ที่เป็นผู้รับคำสั่ง จะต้องมีการสอบสวนหาข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป” นายเสริมศักดิ์กล่าว


 
    นายเสริมศักดิ์กล่าวอีกว่า หากพบว่ามีความผิดจริง การลงโทษทางวินัยร้ายแรงจะมี 3 ระดับ คือ ให้ออก ปลดออก และไล่ออก ทั้งนี้ แม้ผู้ถูกสอบจะเกษียณอายุราชการไปแล้ว แต่ก็ต้องมีผลย้อนหลังโดยสิทธิต่างๆ ที่ได้รับหลังจากการเกษียณก็จะเสียไป
 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ศธ. ได้ลงนามในคำสั่ง ศธ.323/2556 ว่าด้วยเรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ที่มีนายอภิชาติเป็นประธาน ไปเมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยคณะกรรมการฯ ประกอบไปด้วยข้าราชการภายใน ศธ.ทั้งสิ้นรวม 7 คน    
 
    นายพงศ์เทพกล่าวว่า การตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงกับนายชินภัทรนั้น ไม่ใช่เพราะว่านายชินภัทรกระทำการทุจริตอะไร แต่ตั้งเพราะนายชินภัทรไม่ปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนราชการตามที่มีการชี้มูลและเสนอของคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่มีปลัด ศธ.เป็นประธาน สำหรับข้าราชการระดับสูง สพฐ.อีก 3 คน จริงๆ ก็มีการเสนอขึ้นมา แต่เมื่อดูข้อเท็จจริงต่างๆ แล้วก็เสนอว่าให้กลับไปสอบสวนเพิ่มเติมต่อไปก่อน  
 
    ด้านแหล่งข่าวระดับสูง ศธ.กล่าวว่า ข้าราชการระดับสูงของ สพฐ.อีก 3 คนที่มีรายชื่อเกี่ยวข้องการทุจริตนี้ จริงๆ แล้วก็ยังไม่ถือว่ารอดจากการตรวจสอบครั้งนี้ แต่ที่ไม่โดนตั้งสอบวินัยร้ายแรงไปด้วย เป็นเพราะบุคคลเหล่านี้มีตำแหน่งเป็นผู้บริหารระดับกลางเท่านั้น จึงรอดข้อหาการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ไม่เหมือนกรณีนายชินภัทรที่เป็นผู้บริหารระดับสูงสุด โดนตั้งสอบวินัยร้ายแรงดังกล่าว ทั้งนี้ ทราบว่าจริงๆ แล้วการโยกย้ายนายชินภัทรพ้นตำแหน่งเลขาธิการ สพฐ. มีการเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเรื่องนี้ถึงตกไป ทั้งๆ ที่มีการทำเรื่องเสนอไว้แล้ว เบื้องต้นอาจเป็นเพราะรอผลการสืบสวนข้าราชการระดับสูงที่เหลือ และน่าจะยกกลับไปเสนอที่ประชุม ครม.ในสัปดาห์หน้าต่อไป
 
     “ใน 3 รายชื่อบิ๊ก สพฐ.ที่ไปเกี่ยวข้องนั้น มีแน่ๆ 1 คน ที่เป็นข้าราชการตำแหน่ง ผอ.สำนัก ต้องได้รับโทษ เพราะมีหลักฐานความผิดโกงสอบครูผู้ช่วยชัดเจน แต่จะเป็นโทษทางอาญา ขณะที่ 2 คนที่เหลือยังต้องสอบสวนต่อไป เพราะมีความเกี่ยวข้องโดยตำแหน่ง” แหล่งข่าวกล่าว.
 

"ชินภัทร" เผยรับได้ถูกสอบวินัยร้ายแรงปมทุจริตครูผู้ช่วย



"ชินภัทร"รับได้โดนตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงจากปัญหาการสอบครูผู้ช่วยมีทุจริต เผยเป็นโอกาสดีจะได้ชี้แจงข้อมูลให้ชัดเจน

 วันนี้(21พ.ค.) ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)  กล่าวถึงกรณีที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรงกรณีปัญหาการสอบครูผู้ช่วยที่มีการทุจริตว่า คงต้องขอดูคำสั่งก่อน และคิดว่าจะเป็นโอกาสอีกครั้งหนึ่งในการที่จะให้ข้อมูลที่ชัดเจนว่ากรณีที่ดำเนินการสอบวินัยนั้นมีประเด็นคำถามอะไรที่เป็นข้อปัญหาจะได้ชี้แจงให้ชัดเจน โดยผลสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่ให้สอบวินัยร้ายแรงนั้นตนก็ยอมรับได้ ทั้งนี้ส่วนตัวไม่กังวล และเห็นว่าในการรับราชการถือเป็นเรื่องปกติ เพราะการปฏิบัติหน้าที่คงต้องมีระบบหรือแนวทางในการดำเนินการเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น เพื่อไม่ให้ปัญหาเกิดซ้ำ ดังนั้นหากเป็นระบบที่จะมาดูความบกพร่องที่เกิดขึ้นก็อาจจะเป็นข้อมูลที่ดีก็ได้ เพราะว่าระบบงานที่มีความกว้างขวางของสพฐ.และมีบุคลากรจำนวนมาก บางครั้งต้องพยายามหาข้อบกพร่องเพื่อวางแนวทางการทำงานในอนาคตให้ดีขึ้น เนื่องจากหากไม่สามารถวางระบบงานที่ดีแล้วจะกลายเป็นปัญหาได้ เพราะหน่วยงานขนาดใหญ่อย่างสพฐ.เป็นระบบพิเศษที่เน้นการกระจายอำนาจ
 
ผู้สื่อข่าวถามว่าผลสอบสวนออกมาให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรงถือเป็นผลสรุปที่แรงไปหรือไม่เพราะกรณีนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทุจริต เลขาธิการกพฐ. กล่าวว่า ไม่ขอมีความเห็นในส่วนนี้ เพราะควรจะให้บุคคลภายนอกและสังคมมีความเห็นมากกว่า เพราะหากพูดไปทางใดทางหนึ่งจะตีโจทย์ได้ว่าปกป้องตนเอง และส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้สังคมสามารถใช้ดุลพินิจได้ว่าเรื่องนี้เป็นกรณีที่รุนแรงเกินไปหรือไม่ ส่วนเรื่องที่หากจะถูกย้ายไปอยู่ที่อื่นนั้น ตนคิดว่าเหตุผลความจำเป็นน่าจะมาจากการที่เป็นอุปสรรคต่อการสอบสวน และอีกเหตุผลหนึ่งที่จะพิจารณาว่าจะโยกย้ายหรือไม่เป็นเรื่องของความต่อเนื่องในงาน เพราะว่างานที่กำลังขับเคลื่อนในองค์กรขนาดใหญ่ที่มีภารกิจความรับผิดชอบที่กว้างขวางและเป็นนโยบายที่สำคัญหลายเรื่องอาจจะได้รับผลกระทบ เพราะการที่จะให้ผู้ใดมาทำหน้าที่รักษาราชการแทนก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะกว่าจะเรียนรู้ระบบงานของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในแต่ละเรื่องคงไม่ใช่จะเรียนรู้กันได้ในระยะเวลาสั้นๆ จึงเกรงในเรื่องนี้ด้วย
 

ขอบคุณข้อมูลจาก --> เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 21 พฤษภาคม 2556


"เสริมศักดิ์" แจงสอบวินัย "ชินภัทร"



"เสริมศักดิ์" แจงตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงเลขาธิการกพฐ.ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งใคร ย้ำต้องเร่งผลสอบสวนให้ออกมาโดยเร็ว
 
วันนี้(21พ.ค.)นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ขณะนี้นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ ได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน  ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย กฏ ระเบียบของทางราชการ มติของคณะรัฐมนตรี นโยบายของรัฐบาล และไม่ปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ทางราชการอย่างร้ายแรง โดยมีนายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เป็นประธาน ทั้งนี้การตั้งคณะกรรมการฯ ดังกล่าวไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งใคร และจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ยิ่งช่วงนี้มีข่าวว่าการสอบครูผู้ช่วยรอบใหม่มีการรับเงินกันอีกแล้วก็ยิ่งทำให้ตนไม่สบายใจ จึงอยากให้ผลการสอบสวนออกมาเป็นที่ประจักษ์โดยเร็ว และยืนยันว่าเรื่องนี้จะไม่มีมวยล้มต้มคนดูแน่นอน
 
"แม้ส่วนใหญ่เมื่อมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยฯ จะต้องโยกย้ายผู้ที่ถูกสอบไปยังที่อื่น แต่ในครั้งนี้คงต้องฟังจากคณะกรรมการสอบสวนวินัยฯ ก่อนว่าในการสอบสวนทางผู้ถูกสอบมีการกระทำที่ขัดขวาง หรือไม่เอื้ออำนวยหรือไม่ จากนั้นจะได้มีการพิจารณาโยกย้ายต่อไป เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกสอบด้วย อย่างไรก็ตามหากต้องมีการโยกย้ายผู้ถูกสอบไปยังหน่วยงานอื่น จะต้องเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี แต่ไม่จำเป็นต้องเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.)" นายเสริมศักดิ์ กล่าวและว่า การสอบสวนวินัยฯ ในครั้งนี้จะต้องให้ได้ผลการสอบสวนโดยเร็ว ซึ่งหากพบว่ามีความผิดจริงการลงโทษทางวินัยร้ายแรงจะมี 3 ระดับคือ ให้ออก ปลดออก และไล่ออก ทั้งนี้แม้ผู้ถูกสอบจะเกษียณอายุราชการไปแล้ว แต่ก็ต้องมีผลย้อนหลังโดยสิทธิต่างๆ ที่ได้รับหลังจากการเกษียณฯ ก็จะเสียไป
 
ต่อข้อถามว่า เหตุใดจึงมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยฯ เพียงเลขาธิการ กพฐ. คนเดียว ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยฯ 4 คน นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ที่มีนางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ชี้มูลชัดเจนแล้วว่าในฐานะที่เลขาธิการ กพฐ. เป็นผู้บริหารสูงสุดของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) แต่กลับไม่มีการตรวจสอบทั้งๆ ที่มีมูลมาก่อนหน้านี้แล้วว่ามีเฉลยข้อสอบ และข้อสอบรั่ว แต่กลับปล่อยปละละเลยให้มีการสอบ และบรรจุแต่งตั้ง ซึ่งกรณีนี้หากมีการตรวจสอบ และมีการยกเลิกการสอบ ก็จะทำให้เกิดความเสียหายไม่มากขนาดนี้ ส่วนผู้เกี่ยวข้องอีก 3 ราย ที่เป็นผู้รับคำสั่งจะต้องมีการสอบสวนหาข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป
 

 
  • 21 พ.ค. 2556 เวลา 21:28 น.
  • 7,384

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

ความคิดเห็นเกี่ยวกับ : "ชินภัทร" เผยรับได้ถูกสอบวินัยร้ายแรงปมทุจริตครูผู้ช่วย

เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^