KRUWANDEE

"เสริมศักดิ์" ยื่นเอกสารผลสอบทุจริตการสอบครูผู้ช่วยให้ดีเอสไอแล้ว เผยทำกันเป็นขบวนการ อาจมีข้าราชการใน ศธ.ร่วมรู้เห็น แฉกลโกงมีติวเตอร์เฉลยคำตอบก่อนเข้าสอบจริง 1 วัน ส่งสัญญาณมือถือเข้าไปในห้องสอบ และเรียกเก็บค่าโกงหัวละ 5 แสน เล็งยกเลิกการสอบทั้งหมดแล้วให้จัดสอบใหม่ เบื้องต้นรอผลสอบจากดีเอสไอใน 15 วัน   
 

    กรณีความไม่ชอบมาพากลการสอบคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วยกรณีที่มีความจำเป็น หรือเหตุพิเศษ ว.12 จำนวน 2,000 อัตรา ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากมีชื่อผู้สอบหลายคนที่สอบติด 2-3 เขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งส่อเค้าว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จึงได้ลงนามตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมอบให้นายพิษณุ ตุลสุข ผู้ตรวจราชการ ศธ. เป็นประธานตรวจสอบดังกล่าว
 

    ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 12.30 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ เดินทางเข้าพบนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เพื่อนำข้อมูลเอกสารหลักฐานการตรวจสอบทุจริตสอบบรรจุข้าราชการครูทั่วประเทศ เพื่อให้ทางดีเอสไอดำเนินการสืบสวนหาผู้กระทำผิด โดยนายเสริมศักดิ์กล่าวว่า ทางคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่มีนายพิษณุเป็นประธาน ได้รายงานผลการตรวจสอบพบว่า การสอบบรรจุครูผู้ช่วยกรณีดังกล่าวมีความไม่ชอบมาพากลใน 3 เรื่อง ได้แก่ การนำข้อสอบและคำเฉลยออกมาจำหน่ายล่วงหน้า การใช้เครื่องมือสื่อสารทุจริตในขณะสอบ และมีการให้บุคคลอื่นเข้ามาสอบแทนในสถานที่สอบ 2-3 แห่ง
 

    รมช.ศธ.กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ จากการตรวจสอบยังพบว่าการทุจริตดังกล่าวมีลักษณะเป็นขบวนการ คล้ายการทุจริตสอบบรรจุข้าราชการตำรวจ และยังเชื่อว่ามีข้าราชการของทาง ศธ.เข้าไปมีส่วนร่วมในการทุจริตครั้งนี้ด้วย อย่างไรก็ดี ตนเห็นว่าดีเอสไอมีความชำนาญด้านการสืบสวนสอบสวน จึงนำข้อมูลเอกสารหลักฐานมามอบให้กับทางดีเอสไอ เพื่อขยายผลจับกุมผู้กระทำความผิด โดยจะรอผลสรุปจากทางดีเอสไอก่อนดำเนินการต่อไป
 

    นายเสริมศักดิ์กล่าวต่อว่า เมื่อการสอบดังกล่าวมีการทุจริตในวงกว้าง ดังนั้นอาจพิจารณาให้มีการจัดสอบครูผู้ช่วยกรณีดังกล่าวใหม่ และยกเลิกการจัดสอบที่ผ่านมา ถึงแม้จะมีผู้สอบผ่านบางรายได้รับเรียกบรรจุแล้วก็ตาม โดยเบื้องต้น ศธ.จะนำผลการสอบของดีเอสไอมาพิจารณาเพื่อประกอบการตัดสินใจอีกครั้ง ทั้งนี้ จากข้อมูลที่ตรวจสอบโดย ศธ.และข้อมูลที่ร้องเรียน พบว่ามีการเรียกเก็บเงินผู้เข้าสอบรวม 500,000 บาทต่อราย มีการติวเตอร์ด้วยการนำกระดาษคำตอบมาเฉลยให้ทราบล่วงหน้าก่อนวันสอบจริง 1 วัน มีการส่งสัญญาณมือถือระบบสั่น อย่างสั่น 1 ครั้ง ตอบข้อ ก. สั่น 2 ครั้ง ตอบข้อ ข. โดยทั้งหมดนี้เป็นขบวนการโกงสอบที่คาดว่าน่าจะมีข้าราชการภายในรู้เห็นด้วย 
 

    "สำหรับกรณีผู้สอบที่ได้รับเรียกบรรจุอาจฟ้องร้องได้ภายหลังเพราะถูกถอดถอนนั้น เรื่องนี้คงต้องไปดูกัน แต่สำหรับผมที่ได้รับข้อมูลว่ามีการโกงกันเกือบทุกเขต จะไม่ยอมปล่อยการสอบดังกล่าวแน่” นายเสริมศักดิ์กล่าว
 

    ด้านนายธาริตกล่าวว่า การทุจริตสอบครูเป็นเรื่องสำคัญและเป็นเรื่องนโยบายของรัฐบาล เบื้องต้นจึงได้รับเรื่องไว้และมอบหมายให้นายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทุจริต กรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญโดยตรง ให้ดำเนินการตรวจสอบตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และจะรายงานผลให้นายเสริมศักดิ์ทราบภายใน 15 วัน เพื่อพิจารณาต่อไป
 

    สำหรับเกณฑ์การคัดเลือกครูผู้ช่วยปี 2556 ที่จะจัดขึ้นในเดือน เม.ย. นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้ตนจะเสนอแนวทางการดำเนินการจัดสอบครูผู้ช่วย 2 ทางเลือกให้นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศธ. ได้พิจารณาตัดสิน ได้แก่ 1.ให้ส่วนกลางดำเนินการจัดทำข้อสอบและประมวลผลการสอบ โดยจะให้เขตพื้นที่การศึกษาไปดำเนินการในการบริหารการสอบ และ 2.กระจายให้เขตพื้นที่ฯ เป็นผู้ดำเนินการจัดสอบทั้งหมด อย่างไรก็ดี ทั้ง 2 ทางเลือกนั้นจะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป
 

    นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอด้วยว่า การออกข้อสอบควรจะให้สถาบันอุดมศึกษาเป็นผู้ดำเนินการ เพราะมีความชัดเจนที่มากกว่า อีกทั้งผู้ออกข้อสอบจะได้เป็นผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง และไม่มีส่วนได้-ส่วนเสียกับการสอบครูผู้ช่วย.

 

ขอบคุณข้อมูลจาก --> เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556