KRUWANDEE

ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) วันที่ 14 ก.พ.56 นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบาย 1 คอมพิวเตอร์พกพา(แท็บเล็ต) ต่อ 1 นักเรียน ซึ่งมีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานฯ ว่า ที่ประชุมได้รับทราบบัญชีจัดสรรงบประมาณ และยอดความต้องการแท็บเล็ตของแต่ละหน่วยงานราชการ โดยมียอดรวมแท็บเล็ตปีงบฯ 56 ทั้งสิ้น 1,803,337 เครื่อง ใช้งบฯ รวม 5,092,179,000 บาท ในจำนวนนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มียอดสูงสุด 1,279,134 เครื่อง งบฯ 3,620,107,300 บาท 
 

     เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อว่า ที่ประชุมได้มีมติตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการจัดซื้อแท็บเล็ต ปีงบฯ 56 โดยจะมีผู้แทนจาก ศธ. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และหน่วยงานที่ร่วมจัดซื้อ เพื่อมาดำเนินกิจกรรมที่ยังเหลืออีกหลายขั้นตอน ขณะเดียวกันที่ประชุมยังมีมติให้ สพฐ.ไปตั้งคณะกรรมการยกร่างทีอาร์โอ แท็บเล็ตปี 56 ซึ่งจะมีตัวแทนหน่วยงานราชการที่ร่วมจัดซื้อมาเป็นกรรมการต่อไป
 

     "การอี-ออกชั่นจะเริ่มได้เมื่อไหร่นั้น คงต้องไปไล่ปฏิทินการดำเนินงานใหม่ เพราะมีสิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามา ได้แก่ การยกร่างทีโออาร์ ที่ สพฐ.ถึงแม้จะเป็นประธาน แต่ก็ต้องเชิญหน่วยงานอื่นที่เป็นเจ้าของงบฯ มารับรู้ เพราะทีโออาร์นี้จะเป็นแบบในการทำร่างสัญญาระหว่างหน่วยงานราชการกับบริษัทที่ชนะประมูล ขณะที่ตัวร่างสัญญาอาจต้องเสนอให้สำนักงานอัยการสูงสุด ได้พิจารณาเห็นชอบก่อนด้วย และเสนอคณะกรรมการจัดหาคอมพิวเตอร์ของรัฐ ในส่วนที่วงเงินจัดซื้อเกิน 100 ล้านบาท เบื้องต้นในสัปดาห์หน้าคงจะรู้ว่าจะอี-ออกชั่นได้เมื่อไหร่"นายชินภัทร กล่าว
 

     ด้าน น.อ.สุรพล นะวะมวัฒน์ ที่ปรึกษา รมว.ไอซีที กล่าวว่า สำหรับภาพรวมสเปกแท็บเล็ต ปี 56 ทั้งระดับ ป.1, ม.1 และครู ม.1 เทียบกับทีโออาร์ปีที่ผ่านมานั้น พบว่าสเปกปีนี้สูงขึ้น โดยรายละเอียด อาทิ ป.1 กำหนดราคา 2,720 บาทต่อเครื่อง หน้าจอขนาดไม่น้อยกว่า 7 นิ้ว ความเร็วไม่น้อยกว่า1กิกะไบต์ ความจุไม่น้อยกว่า 8 กิกะไบต์, ม.1 กำหนดราคา 2,920 บาท หน้าจอขนาดไม่น้อยกว่า 8 นิ้ว ความเร็วไม่น้อยกว่า 1 กิกะไบต์ ความจุไม่น้อยกว่า16 กิกะไบต์ ส่วนครูทั้งราคาและสเปกภาพรวมเหมือนกับแท็บเล็ต ม.1 แต่จะเพิ่มพอร์ตเอชดีเอ็มไอ และเอสดีการ์ด ขนาด 8 กิกะไบต์ เป็นต้น
 

     "การจัดซื้อแท็บเล็ตปีนี้เป็นการจัดซื้อวิธีแรก กล่าวคือ แต่ละหน่วยงานมอบอำนาจให้ สพฐ.ทำการจัดซื้อแทน แต่เมื่อได้ผู้ชนะอี-ออกชั่นแล้ว บริษัทที่ชนะจะต้องไปทำสัญญากับหน่วยงานราชการที่เป็นเจ้าของเงินงบฯ ซึ่งไม่เหมือนกับการประมูลทั่วไปที่แยกประมูล หรืออย่างการสร้างสถานีตำรวจที่เซ็นสัญญาครั้งเดียวแล้วแบ่งกันทำ อย่างไรก็ตาม โดยวิธีการนี้คาดว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพุธหน้า น่าจะพิจารณาอนุมัติได้ และเพื่อให้กระบวนการทันก่อนเปิดภาคเรียน 1/2556 ต่อไป"น.อ.สุรพล กล่าว

 

ขอบคุณข้อมูลจาก --> เว็บไซต์หนังสือพิมพ์สยามรัฐ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556