“บิ๊กอุ้ม” แจงระบบย้ายครู TRS ไหลลื่น ไร้ปัญหาการใช้งาน เชื่อโปร่งใสทุกขั้นตอน
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
รมว.ศึกษาธิการ ประชุมผู้บริหาร ศธ. เผยระบบย้ายครู TRS ไหลลื่น ไร้ปัญหาการใช้งาน เชื่อการย้ายครูโปร่งใสทุกขั้นตอน ย้ำครูอย่าหลงเชื่อพวกวิ่งเต้นเรียกรับเงิน
เมื่อวันที่ 23 ม.ค. พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงขององค์กรหลักกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ที่ประชุมได้รายงานความสำเร็จเกี่ยวกับการความก้าวหน้าการขับเคลื่อนเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาตามแนวทางโครงการประเมินนักเรียนระดับนานาชาติ หรือ พิซา ซึ่งที่ผ่านมาสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้อบรมสร้างและพัฒนาข้อสอบวัดความฉลาดรู้ด้านการอ่าน วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ในระดับเขตพื้นที่ จำนวน 245 เขตพื้นที่ 78 ห้องเรียน มีกลุ่มเป้าหมายจำนวนทั้งสิ้น 445,624 คน ลงทะเบียนแล้วจำนวน 112,654 คน อบรมแล้วเสร็จ จำนวน 78,788 คน การปรับปรุงชุดพัฒนาความฉลาดรู้ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 โดยจะมีการสร้างความตระหนักรู้ให้แก่ผู้บริหาร ครู และผู้ปกครองในการให้ความสำคัญของการสอบพิซา พร้อมเสริมสร้างสมรรถนะและช่วยเหลือโรงเรียนที่ถูกสุ่มเป็นการภายใน พร้อมตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์และระบบอินเทอร์เน็ต ก่อนที่จะมีการจัดสอบพิซาในปี 2025 ต่อไป
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้สภาการศึกษา (สกศ.) ยังได้รายงานการขับเคลื่อนนโยบายการยกระดับคุณภาพผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนด้านความเป็นอยู่ที่ดีของผู้เรียน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วย โดย สกศ. เสนอแนวทางการจัดการศึกษาที่เน้นความเป็นอยู่ที่ดี เช่น ครูช่วยสร้างแรงบันดาลใจ สร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นบวก และเป็นมิตรต่อผู้เรียน และการปรับปรุงหลักสูตรสร้างการเรียนรู้เชิงรุก ส่งเสริมทักษะเชิงพฤติกรรม รายงานการติดตามเด็กนอกระบบการศึกษาเชิงระบบ (THAILAND Zero Dropout) นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้รายงานผลการดำเนินงานการติดตามเด็กนอกระบบการศึกษาเชิงระบบ จำนวนเด็กนอกระบบการศึกษา 1,025,514 คน ติดตามแล้ว 650,833 คน คิดเป็นร้อยละ 63.46 ยังไม่ได้ติดตาม 374,681 คน คิดเป็นร้อยละ 36.54 โดยในจำนวนนี้ มีเด็กการศึกษาภาคบังคับ ช่วงอายุ 6-15 ปี ตกหล่นจำนวน 442,962 คน ติดตามแล้ว 211,872 คน คิดเป็นร้อยละ 47.83 ยังไม่ได้ติดตาม 231,090 คน คิดเป็นร้อยละ 52.17 ทั้งนี้ในการติดตามเรื่องดังกล่าวพบ เขตพื้นที่การศึกษาในจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีการติดตาเด็กกลับมาเรียนได้สูงสุด ซึ่งต้องชื่นชมเลขาธิการ กพฐ. ที่สามารถแก้ปัญหานี้ได้เป็นอย่างดี
“ในการประชุมดังกล่าว ได้รายงานการจัดทำระบบการลงทะเบียนของผู้ใช้งานระบบย้ายข้าราชการครู Teacher Rotation System (TRS) โดยตั้งแต่เปิดระบบการลงทะเบียนเมื่อวันที่ 16 ม.ค. จนถึงขณะนี้มีครูเข้าระบบการใช้งานแล้ว 15,997 ราย ซึ่งขั้นตอนของระบบดำเนินการไปด้วยดี ยังไม่พบปัญหาหรืออุปสรรคการร้องเรียนในการเข้าใช้งานระบบนี้แต่อย่างใด โดยข้าราชการครูที่ได้รับอนุมัติย้าย จะเข้าปฏิบัติหน้าที่ ณ สถานศึกษาแห่งใหม่ที่รับย้ายภายในวันที่ 15 พ.ค. อย่างไรก็ตาม ผมขอฝากไปถึงครูทุกคนที่กำลังทำเรื่องขอย้าย ขออย่าได้ไปหลงเชื่อบุคคลที่แอบอ้างวิ่งเต้นเพื่อเรียกรับเงินจากการย้าย เพราะยุคนี้ไม่มีแล้ว เนื่องจากทุกขั้นตอนของการย้ายมีความโปร่งใส่ และตรวจสอบได้หมดว่าใครย้ายได้หรือย้ายไม่ได้จากสาเหตุใด” พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวและว่า นอกจากนี้ คุรุสภายังได้รายงานการสั่งพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของครูที่กระทำความผิด เช่น ครู รร.อนุบาลบ้านทุ่งคา จ.ภูเก็ต กรณีล่วงละเมิดทางเพศนักเรียน ป.2 ซึ่ง สพฐ. มีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ และ ผอ.รร.บ้านชาดศรีสมบูรณ์ จ.ขอนแก่น ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เป็นต้น ซึ่งตนย้ำให้ทุกหน่วยงานดำเนินการตามนโยบายและบทบาทหน้าที่โดยเร็ว หากพบว่าครูและข้าราชการกระทำผิด โดยเฉพาะคดียาเสพติด ล่วงละเมิด เมื่อมีข้อมูลหลักฐาน หรือผลการสอบสวนสืบสวนที่ชี้ถึงการกระทำผิด ให้ดำเนินการตรวจสอบโดยเร็ว เพื่อสะท้อนให้สังคมเห็นว่า ศธ. ให้ความสำคัญ และจริงจังกับการแก้ไขปัญหา และเป็นการป้องปรามผู้ที่คิดจะกระทำความผิดด้วย
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์เลดินิวส์ วันที่ 23 มกราคม 2568