แห่ผลิตครูล้นตลาดคาดเตะฝุ่นปีละ2แสน
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
“ภาวิช” ห่วงมหา’ลัยผลิตบัณฑิตครูเหลือล้นปีละ 4-5 หมื่นคน ไม่สอดคล้องอัตราการรับสมัครเข้าทำงานที่มีตำแหน่งแค่หลักพัน ชี้บัณฑิตครูจะต้องตกงานเตะฝุ่นไม่ต่ำกว่า 2 แสนคนต่อปี ขณะที่สาขาพยาบาลกำลังขาดหนัก จี้ สกอ.คุมกำเนิดผลิตบัณฑิตตามสาขาที่ประเทศต้องการ
ศ.(พิเศษ) ภาวิช ทองโรจน์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ในฐานะที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า สิ่งหนึ่งที่กระทบกระเทือนคุณภาพการจัดการศึกษาของสถาบันอุดมศึกษา คือ การที่สถาบันอุดมศึกษาต่างคนต่างรับนักศึกษาใหม่โดยไม่คำนึงถึงการแผนการผลิตกำลังคนเพื่อพัฒนาประเทศ ทำให้กำลังคนแต่ละสาขาเกิดภาวะล้นและขาดแคลนไปพร้อมๆ กัน ซึ่งเป็นปัญหาอย่างมาก โดยอย่างปัญหาที่ชัดเจน คือ การผลิตกำลังคนสาขาครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ ที่ปัจจุบันมียอดผลิตบัณฑิตครูจบ 4-5 หมื่นคนต่อปี นอกจากนี้ยังพบว่าในปีการศึกษา 2555 สาขาครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์มียอดรับนักศึกษาเกือบ 1 แสนคน เปรียบเทียบกับยอดการบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย ปีล่าสุดเปิดบรรจุ 1,500 กว่าอัตราทั่วประเทศ กับยอดสมัครสอบ 1.9 แสนคน ดังนั้นแสดงว่าปัจจุบันเรามีคนที่มีวุฒิครูไม่ต่ำกว่า 2 แสนคน
ทั้งนี้ หากคำนวณยอดนักศึกษาประมาณ 4-5 หมื่นของแต่ละชั้นปี ในระยะเวลาหลักสูตรการเรียนสาขาผลิตครู 5 ปี รวมถึงยอดรับนักศึกษาครูในปีการศึกษานี้ด้วยนั้น สามารถคาดการณ์ได้ว่าในอนาคตเราจะมีคนที่มีวุฒิครูไม่ต่ำกว่า 5 แสนคน ซึ่งต่อให้นำยอดรับสมัครครู รร.เอกชนมารวมด้วยนั้นก็ไม่น่าจะรับกลุ่มคนเหล่านี้เข้าปฏิบัติการสอนได้ทั้งหมด และเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ก็เพราะเราไม่มีการส่งสัญญาณจากส่วนกลาง ไม่มีการควบคุมว่าจะผลิตกำลังคนแต่ละปีอย่างไร ไม่เหมือนออสเตรเลีย ที่รัฐบาลจะคอยประกาศควบคุมการรับนักศึกษาแต่ละสาขา
“ในสายสังคมทั้งหลายมีสาขาครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์น่าเป็นห่วงที่สุด เพราะเป็นสาขาที่ผลิตกำลังคนล้นแน่นอนแล้ว ขณะที่สาขาอื่นๆ ในสายนี้ เช่น สาขาบริหารธุรกิจ ยังไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ แม้ปัจจุบันจะมีการผลิตมากก็ตาม ไม่เหมือนสาขาผลิตครูที่เรียนจบมาแล้วยังไงก็ต้องเป็นครู ในต่างจังหวัดพบว่าคนที่จบด้านการผลิตครูต้องไปประกอบอาชีพอื่น ทั้งร้องเพลงตามคาเฟ่ ขายตรง ซึ่งหมายความว่าการเรียนครูหาความเข้มข้นไม่ได้ เพราะเรียนครูไม่ตั้งใจเรียน เรียนไปก็ไม่หวังเป็นครู” ศ.(พิเศษ) ภาวิช กล่าว
ส่วนสายวิทยาศาสตร์ที่ขาดแคลนนั้น พบสาขาพยาบาลศาสตร์น่ากังวลที่สุด แม้ว่าจะผลิตเยอะแล้ว แต่ก็ทำท่าจะไม่พอ และส่วนสาขาแพทยศาสตร์ก็มีความต้องการมากขึ้น จากนโยบายด้านสาธารณสุขที่กระจายการบริการสู่ระดับตำบล ที่ผ่านมาสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ทำเรื่องนี้น้อยไป ทั้งที่ต้องเป็นหน่วยงานหลัก ซึ่งตนจะเสนอนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ ให้พิจารณาเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวต่อไป.
ขอบคุณข้อมูลจาก --> เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 11 ธันวาคม 2555