การปฏิรูปโรงเรียนด้วยวิธีการยุบควบรวมโรงเรียนเล็กนั้นจะใช่หรือ?
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
การปฏิรูปโรงเรียนเพื่อเตรียมตัวและพร้อมเผชิญหน้ากับอนาคต คำถาม! การปฏิรูปโรงเรียนด้วยวิธีการยุบควบรวมโรงเรียนเล็กนั้นจะใช่หรือ? เนื่องด้วยนับจากนี้ไป โลกของเราจะเป็นยุคแห่งข้อมูล (Data Era) ที่เข้ามาแทนยุคน้ำมัน (Oil Era) หรือยุคแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมยุคที่ 4 ซึ่งเป็นยุคทวีคูณหรือยุคดิจิตอล ภายในปี 2563 สมาร์ทโฟนจะมีราคาถูกมาก จนคนในโลกจะสามารถซื้อเป็นของตนเองได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 หรือประมาณ 5,000 ล้านคน ซึ่งคนทั้งโลกมี 7,000 ล้าน ทุกคนจะสามารถใช้สมาร์ทโฟนของตนเองเรียนรู้ทุกสิ่งที่เด็ก ๆในโรงเรียนของประเทศที่เจริญแล้วเรียนได้ หมายความว่าทุกคนจะเข้าถึงการศึกษาระดับโลกได้ทันทีพร้อม ๆกันได้ทั่วโลก และซอฟแวร์นี้ได้เปิดใช้แล้วในประเทศอินโดนีเซีย และจะมีภาคภาษาอาหรับ ภาษาสวาฮิลี และภาษาจีน ในฤดูร้อนนี้ App ภาษาอังกฤษก็จะเปิดให้ใช้ฟรีเพื่อให้เด็ก ๆ ในอัฟริกาได้เรียนพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วภายใน 6 เดือนจะเห็นได้ว่าในอนาคตอันใกล้นี้ เด็กไทยทุกคนไม่ว่าจะอยู่โรงเรียนเล็ก ๆ ห่างไกลหรือโรงเรียนใหญ่ ๆ ในเมือง ก็จะเข้าถึงการศึกษาระดับโลกและเรียนรู้ทุกสิ่งได้ไม่แตกต่างกันอีกต่อไป ประกอบกับการพัฒนาประเทศตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติตั้งแต่ฉบับแรกเป็นต้นมา ที่ได้เอานายทุนนักธุรกิจและโรงงานอุตสาหกรรมพัฒนาเจริญก้าวหน้ารุ่งเรืองมาอย่างต่อเนื่อง มั่นคง และแข็งแรงมาก นักธุรกิจและนายทุนต่างก็รวยมหาศาล
แต่ครอบครัวชนบททั่วไทย แตกแยก ล่มสลาย พ่อไปทาง แม่ไปทาง ลูกเล็ก ๆ ถูกทิ้งให้อยู่บ้านกับปู่ ย่า ตา ยาย ผู้แก่เฒ่า ต่างเต็มไปด้วยความอ้างว้าง ว้าเหว่ เดียวดาย ชั่วชีวิตเต็มไปด้วยปัญหาความขาดแคลน ขาดความอบอุ่น หนี้สินของปวงชนล้นพ้นตัว ครอบครัวชนบททั่วประเทศวันนี้เหลือแต่คนแก่กับเด็กเล็กลูกหลานซึ่งกำลังเรียนอยู่ในหมู่บ้านเป็น ความอบอุ่นผูกพันสุดท้ายของครอบครัวที่ยังพอเหลืออยู่บ้างระหว่างผู้แก่เฒ่ากับหลานเหลน และกำลังจะถูกทำลายลงด้วยการยุบและควบรวมโรงเรียน
ด้วยเหตุผลดังกล่าว เราจึงเห็นว่าไม่ควรยุบหรือควบรวมโรงเรียนเพราะนอกจากจะไม่มีผลดีต่อคุณภาพการศึกษาอย่างมีนัยสำคัญแล้ว ยังจะทำให้เด็ก ๆ ลูกหลานไทยในวัยเยาว์ ต้องออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อเดินทางไปโรงเรียนที่อยู่หมู่บ้านอื่นถึง 200 วันต่อปี และต้องไป ๆ มา ๆ อีกหลายปีจนกว่าจะจบการศึกษานับว่าโหดร้าย เด็กต้องเสี่ยงภัยต่อร่างกาย จิตใจและชีวิตทุกวัน ไม่รู้ใครจะตกเป็นเหยื่อของปากเหยี่ยวปากกาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เราจึงต้องปกป้องด้วยการป้องกันไว้ก่อนดีที่สุด
ดังนั้นโรงเรียนเล็กหรือใหญ่ที่มีอยู่ในปัจจุบัน จึงควรคงไว้และยกฐานะขึ้นเป็นนิติบุคคลอย่างสมบูรณ์ทุกโรงเรียนเพราะเอาเด็กเป็นสำคัญสูงสุด เพื่อให้โรงเรียนเข้มแข็ง คล่องตัว ทันต่อโลก ทันสมัย ทันเหตุการณ์ และทันต่อสถานการณ์สากลสืบไป ไม่ใช่ยุบไม่ใช่ควบรวมแบบโบร่ำโบราณที่ผ่านมาปัญหาประเทศไทยคือประชาชนส่วนใหญ่ยังยากจนเพราะคนจนไม่ได้รับความเป็นธรรม คนจนจึงยากจน รัฐบาลได้หยิบยื่นความเป็นธรรมให้คนจนให้ทั้งเงินให้ทั้งโอกาส แต่คนจนก็ยังยากจน
คนจนก็ยังด้อยโอกาสเหมือนเดิม ยิ่งรัฐบาลเอาผักเอาปลาเอาไข่ธงฟ้าอาหารราคาถูกไปให้ คนจนก็ยิ่งยากจนคนจนก็ยิ่งด้อยโอกาส ความจริงที่เจ็บปวดคือคนจนไม่ได้รับ ความเป็นธรรมทางปัญญาต่างหากแต่ผู้มีอำนาจไม่เข้าใจ คนรวยหาครูเก่งสอนลูกได้ คนจนได้ครูไม่เก่งสอนลูกตน ทำอย่างไรจากนี้ไปประชาชนชาวไทย จะยากดีมีจนทุกคนต้องได้ครูเก่งจริงๆและดีจริงๆ ให้ลูกของตนเหมือนกัน ถ้าวันนั้นมีอีกไม่นานสังคมแห่งความเป็นธรรมจะงดงามและเบ่งบานเต็มแผ่นดิน วิธีการจะให้คนจนได้รับความเป็นธรรมทางปัญญา รัฐต้องให้วิชาชีพครูเป็นวิชาชีพควบคุม รัฐต้องให้วิชาชีพครูเป็นวิชาชีพชั้นสูง การผลิตครูต้องเป็นระบบปิด ต้องมีสถาบันผลิตครูเป็นการเฉพาะ
--------------------------------
กองเลขาธิการสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท.)
๒๐ เมษายน ๒๕๖๔
--------------------------------
ติดตามการขับเคลื่อนองค์กรวิชาชีพครูและสังคมได้ที่
--------------------------------
กดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม
--------------------------------
เพจสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย(ส.ค.ท.)