KRUWANDEE

แถลงการณ์สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท.) เรื่อง คัดค้านและต่อต้านกฎหมายการศึกษาฉบับผ่านคณะกรรมการกฤษฎี

• 03 เม.ย. 2564 เวลา 15:18 น.
• 11,822

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก^- ก⁺

         คณะรัฐมนตรีของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ส่ง (ร่าง) พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.... ให้คณะกรรมการกฤษฎีกา ที่มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธานฯ เพื่อกลั่นกรองกฎหมายการศึกษาฉบับนี้ ก่อนที่จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี นำเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในกลางเดือน พฤษภาคม ๒๕๖๔
         นายมีชัย ฤชุพันธุ์ และคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ร่วมกันพิจารณากลั่นกรองกฎหมายฉบับนี้ จำนวน ๑๐๓ มาตรา เสร็จสิ้นไปเมื่อ วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๔ ที่ผ่านมา พบว่ามีสาระบัญญัติของกฎหมายการศึกษาแห่งชาติฉบับ ประยุทธ์-มีชัย ที่มีเจตนาพิเศษอย่างน้อย ๓ ประการ คือ
         ๑. ยกเลิกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู (Licenseagency) ซึ่งเป็นใบอนุญาตให้สามารถประกอบวิชาชีพนั้น ๆ ตามสาขาที่เรียนมา โดยผู้ที่จะได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ จะต้องมีคุณสมบัติตามที่องค์กรฯ ออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพกำหนดไว้ ผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพจะไม่สามารถประกอบวิชาชีพนั้น ๆ ได้ ถ้าฝ่าฝืนจะมีโทษตามที่องค์กรวิชาชีพแต่ละองค์กร ฯ กำหนดไว้ เช่น ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมออกโดย แพทยสภาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมออกโดย สภาวิศวกร ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษาออกโดยคุรุสภา
         นายมีชัยและคณะได้เปลี่ยนแปลงแก้ไข "ใบอนุญาต" (Licenseagency) โดยให้ใช้ "ใบรับรอง"(Certificate) แทนใบอนุญาตประกอบวิชาวิชาชีพครู จึงทำให้วิชาชีพครู ไม่เป็นวิชาชีพชั้นสูงอีกต่อไป เพราะคุรุสภาในฐานะองค์กรวิชาชีพผู้ออกใบอนุญาต จึงไม่มีปรากฎอยู่ในกฎหมายฉบับนี้ จึงเชื่อได้ว่าประยุทธ์-มีชัย มีเจตนาพิเศษที่ต้องการทำลายวิชาชีพครู ผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษาและเจตนาล้มล้างสภาวิชาชีพของครูอย่างชัดแจ้ง
         ๒. กฎหมายการศึกษา ฉบับประยุทธ์-มีชัย ได้ลดเกียรติเหยียดหยามศักดิ์ศรีของครู ผู้นำทางจิตวิญญาณทางสังคม มีเจตนาเล็งเห็นผล ที่จะลดตำแหน่งเงินเดือนและวิทยฐานะของครู ผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษาทุกตำแหน่งทุกประเภท จงใจแก้ไขเปลี่ยนแปลงตำแหน่ง "ผู้อำนวยการ" เป็น "หัวหน้าสถานศึกษา" ที่ขาดตรรกะ ที่นักกฎหมายพึงมี มีเหตุผลการเปลี่ยนแปลงชื่อตำแหน่งนี้ จึงไม่เพียงพอที่จะรับฟังได้
         ๓. กฎหมายการศึกษาฉบับประยุทธ์-มีชัย มีหัวใจเป็น "เผด็จการซ่อนรูป" ผลไม้พิษที่เกิดจากการปฏิวัติ-รัฐประหาร ของผู้นำรัฐบาลปัจจุบัน กระทรวงศึกษาธิการจึงเป็นกระทรวงเดียว ที่ยังถูกฝังอยู่ภายใต้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ ๑๙/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๐ เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการและคำสั่งฉบับนี้ ยังมีผลมาถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะการจัดการโครงสร้างการบริหารกระทรวงศึกษาธิการที่เกิดวิกฤติ จนนำไปสู่ความขัดแย้ง "ศึกษาธิการ - ผอ.สพป. - ผอ.สพม." เป็นปมปัญหาที่ยากแก่การแก้ไข เกินที่จะเยียวยา อันมีผลกระทบไปถึงคุณภาพการจัดการศึกษาของนักเรียนโดยตรงและส่งผลกระทบกับขวัญและกำลังใจของครู ผู้บริหารและบุคลากรทุกระดับ
         สาระบัญญัติของกฎหมายฉบับประยุทธ์-มีชัย มีบทบัญญัติไว้ในมาตรา ๔ และมาตรา ๙๙ ที่เชื่อว่าจะสถาปนาอำนาจเผด็จการตามคำสั่งหัวหน้า คสข. ที่ ๑๙/๒๕๖๐ นี้ทั้งฉบับเข้าไปบรรจุไว้ เพื่อสืบทอดอำนาจต่อไปและยังมีนัยจุดมุ่งหมายรัฐจะไม่จัดการศึกษา อีกด้วย

         สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท.) และองค์กรเครือข่ายฯ ๔ ภูมิภาค ได้ระดมความเห็นของผู้ประกอบวิชาชีพครู และบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษา และประชาชนทั่วประเทศ ที่เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน ประชาชนและการศึกษาของชาติเสนอต่อรัฐบาล และคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว แต่กลับเพิกเฉย ไม่ให้ความสำคัญต่อข้อเสนอดังกล่าวเลย ทั้งๆที่มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๒ และวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ ให้นำร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ ฉบับรัฐบาล ไปรับฟังความคิดเห็นขององค์กรครู และภาคประชาชน เพื่อประกอบการพิจารณาแก้ไขต่อไป
         ดังนั้น สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย(ส.ค.ท.) ขอประกาศเจตนารมณ์ในการปกป้องเด็กไทยให้ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ โดยใช้พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติเป็นเครื่องมือสำคัญในการปฏิรูปการเรียนรู้ปฏิรูปการศึกษา บนหลักการที่ว่า "การศึกษาสร้างคน คนสร้างชาติ"และคัดค้าน ต่อต้านกฎหมายการศึกษาแห่งชาติ ฉบับนี้ ให้ถึงที่สุด ในทุกวิถีทาง เพื่อยืนหยัดปฏิรูปการศึกษา พัฒนาวิชาชีพครูและดูแลคุ้มครองสิทธิเด็ก ให้ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ เราจะก้าวเดินตามมติของสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย ( ส.ค.ท.) เมื่อ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นสัญญาประชาคม ที่องค์กรฯมีต่อผู้ประกอบวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษาทั่วประเทศ คือ การปฏิรูปการศึกษาภายใต้ระบอบประชาธิปไตย การให้โรงเรียนเป็นนิติบุคคล การปกป้องรักษาวิชาชีพครูให้เป็นวิชาชีพชั้นสูง มีเกียรติและศักดิ์ศรีและจะสืบทอดเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ รวมทั้งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
         จึงประกาศแถลงการณ์ฉบับนี้มา เพื่อมวลมิตรได้รับรู้เจตนาซ่อนเร้น เล็งเห็นผล มีเป้าหมายพิเศษของผู้มีอำนาจ ที่จะสร้างกฎหมายเป็นเครื่องมือจองจำวิชาชีพครู ให้ด้อยค่าตกต่ำลงอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน

 

สำนักงานเลขาธิการ ส.ค.ท.
โทร. ๐๘๓-๓๓๒๓๓๘๓


ข้อมูลจาก :: สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย(ส.ค.ท.)

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>