แบบนี้ก็มี ครูเกษียณอายุราชการช้าไปอีก 4 ปี เพราะความผิดพลาดตอนแจ้งเกิด
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
ครูโรงเรียนดังที่ราชบุรี เจอเรื่องพิลึกในชีวิต เกษียณอายุราชการช้า เหตุเกิดหลังแม่เสียชีวิต จากความผิดพลาดในการแจ้งเกิด โดย ก.ค.ศ.เคยมีมติให้ยึดถือปีเกิดเดิม ที่ลงประวัติทำให้กว่าเดิม 4 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 62 ได้รับการเปิดเผยเรื่องราวของครูที่ต้องเกษียณอายุราชการช้ากว่าอายุจริง จากนายสราวุฒิ ลิ้มติ้ว อายุ 59 ปี (ตามวันเดือนปีเกิดจริง) ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนราชโบริกานุเคราะห์ อ.เมืองราชบุรี ชาวบ้าน หมู่ 5 ต.โคกหม้อ อ.เมืองราชบุรี ว่าตนเกิดที่ ต.อ่างทอง อ.เมืองราชบุรี เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2503 โดยทางบ้านไปแจ้งเกิดกับทางสำนักงานทะเบียนราษฎร์ในหมู่บ้าน เพราะสมัยที่ตนเกิดยังเป็นหมอตำแย่ที่ทำคลอด เมื่อคลอดแล้วทางพ่อของตนได้ไปแจ้งเกิดกับสารวัตรกำนัน แต่ไม่รู้อย่างไรสารวัตรกำนันได้ทำเอกสารใบเกิดของตนเองหาย และไม่ได้มีการส่งเรื่องเกิดของตนไปที่อำเภอ
คุณครูเกษียณอายุช้า กล่าวว่า จนหลังจากนั้น 1 ปีถัดมาแม่ของตนได้เสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว แล้วจากนั้น 3 ปีต่อมาหลังจากที่ตนเองเกิด ทางอำเภอได้มีการให้ทุกบ้านมาตรวจสอบรายชื่อทะเบียนสำมะโนครัว เพื่อจัดทำประวัติให้ถูกต้อง และแจ้งว่าใครไม่มีรายชื่อในทะเบียนสำมะโนครัว หรือตกหล่นก็ให้มาแจ้งรายชื่อได้ที่อำเภอ เพื่อทางอำเภอจะได้ออกใบสำมะโนครัวให้ถูกต้อง เมื่อพ่อของตนตรวจสอบรายชื่อของคนในครอบครัวแล้ว พบว่าไม่มีรายชื่อของตน จึงไปแจ้งชื่อของตนเองกับทางอำเภอในปี 2506 จนวันเดือนปีของตนกลายเป็น วันที่ 20 พฤศจิกายน 2506
นายสราวุฒิ กล่าวต่อว่า เมื่อพ่อของตนตรวจสอบอีกทีพบว่า ปี พ.ศ.ผิด แต่ก็คิดว่าคงไม่มีผลอะไรเลย ไม่ได้ไปแจ้งหรือแก้ไขให้ถูกต้อง กระทั่งตนได้รับราชการครู และเมื่อเดือน มกราคม ปี 2550 ตนมาตรวจเอกสารของตนเองแล้วพบว่า แม่ของตนเสียชีวิตเมื่อปี 2504 แต่ตนเองเกิดเมื่อปี 2506 ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ตนจะเกิดหลังแม่เสียชีวิตได้อย่างไร ตนจึงตรวจสอบและทราบความจริงว่า แท้จริงแล้วตนเองเกิดเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2503 เห็นว่ามันไม่ถูกต้อง ตนได้รวมรวบเอกสารและหลักฐานที่บ่งบอกว่า ตนเองเกิดวันที่ 20 พฤศจิกายน 2503 ไปขอยื่นเรื่องทำเรื่องขอแก้ไขวันเดือนปีเกิดให้ถูกต้องกับอำเภอได้ดำเนินเรื่องให้และแก้ไขให้เรียบร้อยแล้ว ใช้เวลาเดินเรื่องกว่า 8 ปี
คุณครูเกษียณอายุช้า กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นประมาณต้นปี 2558 ตนได้ทำเรื่องถึงสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 8 (สพม.8) เรื่องขอความประสงค์ขอแก้ไข ปี พ.ศ.เกิด ให้ถูกต้องในแฟ้มประวัติ (ก.ฟ.7) ที่ระบุว่าตนเกิด "พ.ศ.2506" เพื่อแก้ไขเป็น "พ.ศ.2503" โดยยื่นไปพร้อมเอกสารและหลักฐานที่บ่งบอกว่าตนเอง เกิดปี พ.ศ.2503 เหมือนที่ตนยื่นเรื่องแก้ไขกับทางอำเภอ กระทั่งเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2559 ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 8 (สพม.8) ได้มีหนังสือตอบกลับมาว่า
"สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ขอเรียกว่า ก.ค.ศ.พิจารณาแล้ว มีมติให้ยึดถือ วันที่ 20 พฤศจิกายน 2506 ตามที่ลงไว้ในทะเบียนประวัติข้าราชการ(ก.ค.ศ.16 หรือ ก.พ.7 เดิม) เป็นวันเดือนปีเกิด ของนายสราวุฒิ ลิ้มติ้ว ตามเดิมต่อไป"
ตนเองก็ยอมรับมติในคำตัดสินของคณะกรรมการ ก.ค.ศ. และทำให้ตนเองต้องไปเกษียณอายุราชการในปี พ.ศ.2567 ซึ่งช้ากว่าอายุความเป็นจริงถึง 4 ปี ตนเองอยากเกษียณให้ตรงกับอายุจริง มีผู้แนะนำให้ไปยื่นเรื่องอุทธรณ์ แต่ตนเองเห็นว่าคงไม่มีผลจึงไม่ได้ไปยื่นเรื่องอุทธรณ์ เพราะได้มีการชี้แจงไปกับทางคณะกรรมการ ก.ค.ศ.แล้วหลายครั้ง แต่ตนก็แปลกใจว่าทำไมทางคณะกรรมการ ก.ค.ศ. ถึงแก้ไขให้ตนไม่ได้ ทั้งๆที่ทางอำเภอสามารถแก้ไขได้ หากมีการขยายอายุเกษียณราชการเป็นจาก 60 ปี เป็นอายุ 63 ปี ตนเองก็จะได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นไปอีก ตนก็ต้องไปเกษียณอายุราชการในปี พ.ศ.2570 ตอนนั้นตนจะมีอายุ 67 ปี
“ขณะนี้ คิดได้อย่างเดียวถ้าไม่ไหวจริงๆ ตนคงต้องยอมลาออกเองก่อนที่จะได้เกษียณอายุราชการ ถ้าตนยอมลาออกจะต้องเสียประโยชน์ในเรื่องที่เป็นสมาชิก กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ก็ต้องทำใจ ฝากถึงคณะกรรมการ ก.ค.ศ. ว่าตนเองอยากเกษียณอายุราชการตามความเป็นจริง เพราะหลักฐานในมรณบัตรของแม่เสียชีวิตในปี พ.ศ.2504 แต่ตนเองเกิดปี พ.ศ.2506 ตนเองจะเกิดหลังแม่เสียชีวิตแล้วได้อย่างไร ขอให้คณะกรรมการ ก.ค.ศ.พิจารณาใหม่ให้ตนเองได้เกษียณอายุราชการถูกต้องตามอายุจริง” นายสราวุฒิ กล่าว.
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 31 ตุลาคม 2562 เวลา 23:14 น.