LASTEST NEWS

19 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 2 (รอบที่ 1) สพป.นราธิวาส เขต 1 - ผลย้ายครู 2567 สพป.นราธิวาส เขต 1 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพป.น่าน เขต 1 - ผลย้ายครู 2567 สพป.น่าน เขต 1 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพม.นครพนม - ผลย้ายครู 2567 สพม.นครพนม 19 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพป.ราชบุรี เขต 2 - ผลย้ายครู 2567 สพป.ราชบุรี เขต 2 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 2) สพป.ขอนแก่น เขต 3 - ผลย้ายครู 2567 สพป.ขอนแก่น เขต 3 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพป.เชียงใหม่ เขต 2 - ผลย้ายครู 2567 สพป.เชียงใหม่ เขต 2 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพป.นครสวรรค์ เขต 1 - ผลย้ายครู 2567 สพป.นครสวรรค์ เขต 1 19 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ

เปิดตัว11สถาบันผลิต-พัฒนาครูรัก(ษ์)ถิ่น รุ่น1 เรียนจบบรรจุเป็นครู 328 อัตรา

  • 15 ก.ย. 2562 เวลา 07:09 น.
  • 14,555
เปิดตัว11สถาบันผลิต-พัฒนาครูรัก(ษ์)ถิ่น รุ่น1 เรียนจบบรรจุเป็นครู 328 อัตรา

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

เปิดตัว11สถาบันผลิต-พัฒนาครูรัก(ษ์)ถิ่น รุ่น1
เปิดตัว 11 สถาบันผลิตและพัฒนาครูรัก(ษ์)ถิ่น รุ่น1 ประกาศความพร้อมปีการศึกษา 2563 ผลิตครูปฐมวัยและประถมศึกษา 328 อัตรา ศธ.ย้ำ สพฐ.- เขตพื้นที่-กศจ. จะร่วมคัดเลือก นร.ม.6 ที่มีคุณสมบัติ พร้อมวางแผนอัตรากำลังครูรองรับเมื่อจบการศึกษา เพื่อแก้ปัญหาครูโยกย้าย ขาดแคลนในโรงเรียนพื้นที่ห่างไกลได้จริง


วันนี้ (13 ก.ย. 62) ที่อาคารอิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น เซ็นเตอร์ เมืองทองธานี กรุงเทพฯ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) และ 11 สถาบันอุดมศึกษา ลงนามร่วมเป็นสถาบันผลิตและพัฒนาครูรัก(ษ์)ถิ่น พร้อมประชุมเชิงปฏิบัติการ "ร่วมมือ ร่วมใจ สร้างครูรุ่นใหม่หัวใจรักถิ่น"

รศ.ดร.ดารณี อุทัยรัตนกิจ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า โครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง กสศ. และ 5 หน่วยงาน ประกอบด้วย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ได้ดำเนินการคัดเลือกและประกาศรายชื่อสถาบันอุดมศึกษาและหลักสูตรที่ผ่านการพิจารณาให้เป็นสถาบันผลิตและพัฒนาครูในโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่นรุ่นที่ 1 จำนวน 11 แห่ง เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา ประกอบไปด้วยหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย 7 แห่ง ได้แก่ มรภ.เชียงราย, มรภ.เชียงใหม่, มรภ.พิบูลสงคราม, มรภ.กาฬสินธุ์, มรภ.หมู่บ้านจอมบึง, มรภ.สุราษฎร์ธานี และ มรภ.กาญจนบุรี หลักสูตรการประถมศึกษา 4 แห่ง ได้แก่ ม.เชียงใหม่ , มรภ.กำแพงเพชร , มรภ.เลย และมรภ.ยะลา ทั้งนี้ในปีการศึกษา 2563 สถาบันอุดมศึกษาทั้ง 11 แห่ง มีความพร้อมรับนักศึกษาทุนครูรัก(ษ์)ถิ่นได้ทั้งสิ้น 328 อัตรา และจะมีโรงเรียนขนาดเล็กในพื้นที่ห่างไกล จำนวน 282 แห่ง ที่อยู่ในรัศมีพื้นที่การบรรจุอัตราครูรัก(ษ์)ถิ่นรุ่นที่ 1 ของทั้ง 11 สถาบัน

"ดิฉันขอยืนยันว่า กระบวนการคัดเลือกมีความเป็นวิชาการโดยแท้จริง โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนจาก 6 องค์กรความร่วมมือได้ลงพื้นที่เพื่อพิจารณาจากสภาพจริง พร้อมทั้งรับฟังแนวทางการดำเนินโครงการของสถาบันอุดมศึกษาที่สมัครร่วมโครงการทุกแห่งจำนวน 22 สถาบัน รวม 28 หลักสูตร โดยพิจารณาคัดเลือกตามเกณฑ์คุณภาพอย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้สถาบันอุดมศึกษาที่มีความพร้อมในการเป็นสถาบันผลิตและพัฒนาครูรัก(ษ์)ถิ่นที่มีคุณภาพ สำหรับโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลจำนวน 282 แห่งในรัศมีของทั้ง 11 สถาบัน ถือเป็นโรงเรียนขนาดเล็กที่ยุบรวมไม่ได้ เป็นจิตวิญญาณของชุมชน กสศ.ได้จัดให้มีทีมวิชาการช่วยพัฒนาทั้งด้านคุณภาพการเรียนการสอน การเตรียมความพร้อมของโรงเรียนทั้งระบบควบคู่กันไปด้วยตั้งแต่ในปีแรกนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับโครงการและรองรับการทำงานของครูรุ่นใหม่ได้ตามเป้าประสงค์ของโครงการนี้ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจเพื่อปฏิรูปการศึกษา โดยโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่นในรุ่นต่อไป กสศ. จะมีการเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ ให้แก่นักเรียนกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่ศึกษาอยู่ในระดับชั้น ม.ปลาย" กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กสศ. กล่าว



รศ.ดร.ดารณี กล่าวอีกว่า สถาบันอุดมศึกษาทั้ง 11 แห่ง ยังได้ลงนามร่วมกับกสศ. ในการเป็นสถาบันผลิตและพัฒนาครูรัก(ษ์)ถิ่นรุ่นที่1 ถือเป็นก้าวสำคัญของการผลิตและพัฒนาครูรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพ ที่มีจิตวิญญาณของครูนักพัฒนา และมีความสามารถในการจัดการเรียนการสอนและการพัฒนาผู้เรียนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนและโยกย้ายครูในโรงเรียนพื้นที่ห่างไกลด้วย ในอนาคตประสบการณ์จากการทำงานเรื่องนี้จะนำไปสู่การจัดตั้งสถาบันต้นแบบในการผลิตและพัฒนาครู และผู้ดูแลเด็กปฐมวัยซึ่งเป็นภารกิจตามมาตรา 5 ของกสศ. ทั้งนี้ กสศ.และ11 สถาบัน จะร่วมกันยกระดับหลักสูตรการผลิตครูใน 4 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1.การพัฒนารูปแบบและวิธีการจัดการศึกษาที่เหมาะสมกับโรงเรียนขนาดเล็กในถิ่นทุรกันดารในประเทศไทย 2.การจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาจิตสำนึกความเป็นครูและทักษะการทำงานโดยใช้ชุมชนเป็นฐานสำหรับนักศึกษาครูผู้รับทุน 3.รูปแบบการให้คำปรึกษา ช่วยเหลือดูแล ระบบหอพัก และกิจกรรมเสริมสร้างความเป็นครูสำหรับนักศึกษาครูผู้รับทุนตลอด 4 ปี 4.กระบวนการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู และระบบนิเทศทางการศึกษาทางไกลสำหรับนักศึกษาครูผู้รับทุน

"ตลอดช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย.นี้ อาจารย์จาก 11 สถาบัน ร่วมกับโรงเรียนและชุมชนจะคัดเลือกและคัดกรองนักเรียนในพื้นที่ที่มีฐานะครอบครัวอยู่ในเกณฑ์ยากจนตามที่ กสศ.กำหนด ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่าที่มีศักยภาพในการเรียนรู้และอยากเป็นครู มีภูมิลำเนา อยู่เขตตำบลที่ตั้งของโรงเรียนพื้นที่ห่างไกล 282 แห่งในรัศมีที่ใกล้กับ 11 สถาบันที่มีการเรียนการสอนถึงชั้น ม.6 และมีเกรดเฉลี่ยสะสม 5 ภาคเรียนไม่ต่ำกว่า 2.5 เพื่อช่วยเตรียมความพร้อมสอบคัดเลือกทุนครูรัก(ษ์)ถิ่น ทั้งนี้ สามารถดูรายละเอียดของโครงการเพิ่มเติมได้ที่ www.eef.or.th หรือโทร 02 079 5475" รศ.ดร.ดารณี กล่าว

ด้านนายสุทิน แก้วพนา ผู้ช่วยปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า กระบวนการค้นหาคัดกรองนักเรียนมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการผลิตครู ถ้าเราไม่ได้เด็กในพื้นที่เป้าหมายจริงๆ ถึงแม้การผลิตครูจะมีคุณภาพแต่ในระยะยาว ครูเหล่านี้ก็จะไม่ได้อยู่กับโรงเรียน ทั้งนี้พื้นที่กลุ่มเป้าหมายของ 11 สถาบัน ครอบคลุมนักเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการในโรงเรียนพื้นที่ห่างไกล ทุรกันดาร ที่ผ่านมาโรงเรียนเหล่านี้ จะมีปัญหาเรื่องการบรรจุครู พอครบ 4 ปี ครูที่ไม่ใช่คนในพื้นที่ก็ขอย้ายกลับภูมิลำเนา เป็นปัญหาการพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่ขาดความต่อเนื่อง ทำให้โรงเรียนห่างไกลด้อยโอกาสกลายเป็นโรงเรียนฝึกหักครู เด็กด้อยโอกาสในพื้นที่ห่างไกลได้ครูที่ไม่พร้อมเต็มที่มาสอนตลอด ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด ต้องร่วมกันวางแผน ตั้งแต่กระบวนการคัดเลือกคนที่จะเข้ามารับทุน การวางแผนอัตรากำลังครูในโรงเรียนพื้นที่เป้าหมายเพื่อรองรับการบรรจุแต่งตั้งครูรัก(ษ์)ถิ่นทั้ง 328 อัตราในรุ่นที่ 1 เรื่องนี้ต้องวางแผนล่วงหน้ากัน 4 ปี ทำงานไปพร้อมกันตั้งแต่ต้น ทำให้เราคัดกรองเด็กที่เป็นคนในพื้นที่จริง มีศักยภาพ คุณสมบัติเหมาะสม ในการเป็นครูและกลับไปพัฒนาถิ่นเกิดของตัวเองได้อย่างแท้จริง 

รศ.ดร.ชาตรี มณีโกศล รองอธิการบดี มรภ.เชียงใหม่ 1 ใน11 สถาบันผลิตและพัฒนาครูในโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น กล่าวว่า การออกแบบการเรียนสอนเพื่อรองรับโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น จะผสมผสานให้ผู้เรียนมีประสบการณ์ตรง ผ่านการเรียนหลากหลายรูปแบบ เช่น การใช้งานวิจัย การใช้โครงงาน การใช้สถานประกอบการเป็นฐานการเรียนรู้ โดยการเรียนการสอนตามแนวทางนี้จะทำให้นักศึกษามีโอกาสได้เรียนทั้งทฤษฏี งานวิจัยที่มีการปรับปรุงให้เท่าทันกับสถานการณ์ปัจจุบันและการปฏิบัติที่สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ ซึ่งเราจะสอนครูให้มี 3 เรื่องหลักๆ คือ หนึ่งสอนด้านวิชาการความรู้ที่จะต้องนำไปประกอบอาชีพครู สองสอนด้านความเป็นคน ให้อยู่ได้ด้วยตัวเองอย่างรักวัฒนธรรรม สิ่งแวดล้อม เรียนรู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง มีความรู้ด้านการเกษตรผสมผสานเพื่อถ่ายทอดไปสู่ท้องถิ่น เรียนรู้ด้านวัฒนธรรมการแสดงอย่างใดอย่างหนึ่งที่สะท้อนถึงท้องถิ่นของตัวผู้เรียนเอง และสามต้องสอนให้ทุกคนมีคุณลักษณะความเป็นครู ให้ออกไปเป็นครูที่มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเด็กนักเรียน.

ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันศุกร์ที่ 13 กันยายน 2562 เวลา 14.14 น.
  • 15 ก.ย. 2562 เวลา 07:09 น.
  • 14,555

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

^