LASTEST NEWS

20 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 20 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 19 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพม.นครสวรรค์ - ผลย้ายครู 2567 สพม.นครสวรรค์ 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 2 (รอบที่ 1) สพป.นราธิวาส เขต 1 - ผลย้ายครู 2567 สพป.นราธิวาส เขต 1 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพป.น่าน เขต 1 - ผลย้ายครู 2567 สพป.น่าน เขต 1 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพม.นครพนม - ผลย้ายครู 2567 สพม.นครพนม 19 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพป.ราชบุรี เขต 2 - ผลย้ายครู 2567 สพป.ราชบุรี เขต 2 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 2) สพป.ขอนแก่น เขต 3 - ผลย้ายครู 2567 สพป.ขอนแก่น เขต 3

MOU หนี้สินครู..(ใหม่) ใครได้? ใครเสีย?

  • 07 พ.ค. 2561 เวลา 09:47 น.
  • 3,066
MOU หนี้สินครู..(ใหม่) ใครได้? ใครเสีย?

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

MOU หนี้สินครู..(ใหม่) ใครได้? ใครเสีย?

เงินเดือนครู1.5หมื่นบาทเมื่อกู้เงินโครงการสวัสดิการ ช.พ.ค.1.2 ล้านบาท จะถูกหักเงินแต่ละเดือน 7.5 พันบาท ครูจึงมีหนี้ท่วมหัว เพราะกว่าจะใช้หนี้หมดปาเข้าไป30ปี
 

         วันจันทร์ที่ 7 พ.ค. 2561 "หมอธี"นพ.ธีรเกียรติ   เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมว.ศธ.) จะไปเป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง MOU ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.)กับธนาคารออมสิน

 

         ที่ห้องประชุมราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมข้อตกลงโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค.-ช.พ.ส. ที่ทำไว้เดิม นับตั้งแต่โครงการแรกจนถึงโครงการ 7 (โครงการเกื้อกูลผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา)ที่ปล่อยวงเงินสินเชื่อให้คุณครูกู้สูงถึง 3 ล้านบาท จนกลายเป็นปัญหามากระทั่งทุกวันนี้

     

         สาเหตุต้องมีการแก้ไข MOU ที่ทำไว้เดิม เนื่องจากประเด็นหนึ่งที่ธนาคารออมสินจะต้องจ่ายเงินสนับสนุนตอบแทนให้ สกสค.จากดอกเบี้ยเงินกู้ที่หักไปจากคุณครูร้อยละ 1 บาท เพื่อแลกกับการประสานงานคุณครูลูกหนี้ที่เป็นสมาชิก ช.พ.ค.-ช.พ.ส เสียชีวิตแต่ละเดือนให้ออมสินทราบ จากนั้นก็จะหักเงินค่าฌาปนกิจสงเคราะห์ศพที่ทายาทพึงจะได้รับนำส่งธนาคารออมสินคืน

 

        สำหรับคุณครูที่มียอดหนี้คงค้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคุณครูที่มาขอกู้ในโครงการที่ 2-5 ทั้งหมด และบางส่วนในโครงการ 6-7 ที่ไม่ได้ทำประกันวงเงินกู้ในกรณีเสียชีวิตภายใน 9 ปี กับบางส่วนที่อายุเกิน 65 ปีไม่สามารถทำประกันได้ อย่างไรก็ตามหากเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ศพที่ทายาทได้รับไม่เพียงพอกับหนี้คงค้าง ก็จะต้องไปเรียกเก็บจากผู้ค้ำประกันเพิ่ม เนื่องจากปัจจุบันเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ศพที่ได้รับเพียง 9 แสนกว่าบาท แต่คุณครูบางรายกู้ได้ถึง 3 ล้านบาทจึงไม่เพียงพอ

 

        ปัญหาที่ สกสค. ดิ้นรนพยายามที่จะทำ MOU ใหม่เพราะMOU เดิมเสียเปรียบให้กับธนาคารออมสินในข้อตกลงที่ว่า หากคุณครูลูกหนี้ไม่สามารถชำระค่าเงินกู้แต่ละเดือนไม่ว่าจะสาเหตุใด ธนาคารออมสินก็จะหักเงินสนับสนุนที่มอบให้ สกสค. ชำระหนี้แทนทันที จนเป็นที่บอกกล่าวในบรรดาคุณครูลูกหนี้ให้มีพฤติกรรมเลียนแบบ ตามกันเนื่องจากไม่โดนแบ็คลิสต์จากธนาคาร

 

        ว่ากันว่าปัจจุบันดอกเบี้ยเงินกู้ที่ออมสินตอบแทนให้ สกสค. เข้ากองทุน ช.พ.ค.-ช.พ.ส. มีมากอักโข เป็นเหตุให้กรรมการและผู้บริหารชุดเก่าสามารถนำเงินส่วนนี้ไปให้บริษัทเอกชนรายหนึ่งกู้ถึง 2 พันกว่าล้านบาทจนเป็นข่าวทุจริตที่กระฉ่อนเมื่อประมาณ 3 ปีผ่านมา “ลุงตู่” จึง ใช้ ม.44 ปลดผู้บริหารออกทั้งยวง

       

          นับว่ากระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานแรกที่โดนคำสั่ง ม.44 จากคณะ คสช. ของลุงตู่ (จนบัดนี้ยังไม่ทราบเลยว่าเรียกเงินเก็บคืนได้หมดแล้วหรือยัง? หากยัง..มัวทำอะไรอยู่) 

 

        ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีข่าวเล็ดลอบออกมาว่า สกสค.ยังบริหารเงินกองทุน ช.พ.ค.-ช.พ.ค. นี้พลาดอีกหลายเรื่องในการนำเงินไปใช้ไม่ตรงวัตถุประสงค์ เห็นทีงานนี้ขอต้องขอความกรุณา "หมอธี" ช่วยตรวจสอบย้อนหลังดูหน่อย ดังนั้นแค่เงินที่ธนาคารออมสินหักจากดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 1 บาทมอบสนับสนุนให้ สกสค. มีมากขนาดนี้  จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่ายอดหนี้รวมของคุณครูทั้งประเทศที่กู้เงินกับโครงการสวัสดิการ ช.พ.ค.ของ สกสค. จะมากมายมหาศาลขนาดไหน

 

        จากเหตุดังกล่าวผู้บริหารที่มารักษาการ แทนจึงพยายามจะทำข้อตกลง MOU เสียใหม่เพื่อไม่ให้ธนาคารออมสินมาล้วงเงินสนันสนุนในกระเป๋าจ่ายหนี้แทนคุณครูอีกต่อไป โดยแลกกับเงื่อนไขไม่ขอรับเงินสนับสนุนค่าตอบแทน 1 บาทจากดอกเบี้ยเงินกู้ของคุณครูที่ออมสินมอบให้

 

        ทั้งนี้ให้ธนาคารออมสินลดดอกเบี้ยส่วนนี้ให้กับคุณครูโดยตรง ซึ่งแต่ละโครงการได้ไม่เท่ากันโดยเฉลี่ย 50 สตางค์ - 1 บาท ซึ่งโครงการเงินกู้วงเงินไม่เกิน 3 ล้านบาท มีคุณครูกู้กันมากที่สุด ได้ลดดอกเบี้ยส่วนนี้คืน จากเดิม MLR-0.85 อีกคนละ 50 สตางค์ต่อปี

 

         แต่ MOU ที่ทำกันใหม่นี้ สกสค. หาคำตอบได้แล้วหรือยังว่า ธนาคารออมสินจะมีวิธีการไปลดดอกเบี้ย ให้คุณครูอย่างไร ว่ากันว่า Mou ใหม่ บอกว่าเพียงแต่ สกสค. จะไม่รับและให้ครูโดยตรง แต่ธนาคารออมสินก็มีเงื่อนไขหลายประการ อาทิเช่น คุณครูที่จะได้อนิสงค์นี้จะต้องไม่เป็นผู้ที่เคยบิดพลิ้วเบี้ยวหนี้หรือเคยมีหนี้เสีย มิเช่นนั้นก็หมดสิทธิ์

 

       

          แหล่งข่าวจากธนาคารออมสิน ระบุว่า ธนาคารออมสินมีหลักการลดดอกเบี้ยให้คุณครู โดยจะไปเพิ่มเงินต้นทำให้ดอกเบี้ยที่จ่ายแต่ละงวดลดน้อยลง นั่นหมายความว่า สมมุติแต่ละเดือนคุณครูต้องจ่ายหนี้เงินกู้ขั้นต่ำ 10,000 บาทซึ่งอาจจะเป็นดอกเบี้ย 8,500 บาทเงินต้น 1,500 บาท จากข้อตกลงใหม่คือคุณครูยังคงต้องจ่ายหนี้เงินกู้ขั้นต่ำ 10,000 บาทต่อเดือนเช่นเดิม แต่จะไปลดดอกเบี้ยเหลือ 8000 บาท เงินต้นได้เพิ่มเป็น 2,000 บาท 

 

        หากเป็นเช่นนี้จริง ที่สกสค. โปรยยาหอมว่าเป็นการช่วยเหลือคุณครูลูกหนี้ที่กู้เงินโครงการ ช.พ.ค.-ช.พ.ส. กับธนาคารออมสิน จะชำระหนี้แต่ละเดือนลดลงจากเดิม ส่งผลให้คุณครูมีเงินเหลือ เพื่อมีใช้ในชีวิตประจำวันเพิ่มมากขึ้น

 

        เห็นทีงานนี้คุณครูทั้งหลายคงเงิบ ฝันสลายกันเป็นทิวแถว ที่ผ่านมา สกสค.แม้จะพยายามแก้ไขปัญหาช่วยตอบโจทย์ครูที่จะให้มีเงินเหลือใช้มากกว่าเดิม ไม่ต้องผ่อนชำระหนี้เงินกู้แต่ละเดือนมาก จนไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ

 

        โดยนับตั้งแต่จัดโครงการให้กู้เงินเพิ่มอีก 7 แสนบาท เพื่อไปหักยอดหนี้เดิมด้วยหลักเกณฑ์ต่างๆ หรือโอนหนี้ไปกู้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูที่  แว่วมาว่าข้อตกลงยังไม่มีความชัดเจน จน สกสค. เองต้องเสียเปรียบ ทำไปก็เพื่อสนองนโยบายสร้างผลงานของผู้บริหารแต่ละชุด ซึ่งสุดท้ายล้วนแต่ไม่ได้รับการตอบสนอง พังไม่เป็นท่า ไม่ได้ตอบโจทย์สนองความต้องการของคุณครูแต่อย่างไร

 

        สกสค. ตอบได้ข้อเท็จจริงแล้วหรือไม่ว่าที่ดิ้นรน จะไม่รับผลตอบแทนเงินสนันสนุนจากธนาคารออมสิน นั้นเพราะสาเหตุใดกันแน่และจะส่งผลต่อคุณครูอย่างไร จึงมีคำถามที่ตามมาว่า

 

         1. ทำไมไม่ให้มีทางเลือกสำหรับคุณครู ที่ได้เงินคืนจากดอกเบี้ย 50 สตางค์-1 บาท ส่งเป็นเงินก้อนให้คุณครูได้รับแต่ละเดือนไปเลยเพราะอย่างน้อยคุณครูก็จะได้เห็นได้จับเงินนำมาใช้จ่ายเพิ่มแต่ละเดือน แต่ถ้าหากครูคนไหนไม่เอาก็ไปทำตามวิธีการของธนาคารออมสิน ถามความต้องการของครูลูกหนี้ส่วนใหญ่แล้วหรือยังว่าต้องการแบบไหน

 

        2.หากอนาคตคุณครูที่ไม่สามารถชำระหนี้ค่างวดแต่ละเดือนได้ไม่ว่ากรณีใด ธนาคารออมสินก็จะเข้ามาดำเนินไล่บี้ทวงหนี้แทนกับคุณครูโดยตรงเลยใช้มั๊ย ต่อไปคุณครูก็ต้องช่วยเหลือตัวเองมากยิ่งขึ้น แล้ว สกสค. ที่เป็นต้นคิดโครงการเงินกู้นี้มาจะเข้ามาดูแลช่วยเหลืออย่างไรบ้าง คงไม่ปัดความรับผิดชอบเพราะไม่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่หน้าที่อีกแล้ว

 

        อย่าบอกนะว่าที่ผ่านมา สกสค.มีเงินกินมีเงินใช้ ส่วนหนึ่งไม่ได้มาจากดอกเบี้ยเงินกู้ของคุณครู เพราะเท่าที่ทราบตอนนี้ธนาคารออมสินรุกขนาดเอาคนค้ำประกันขึ้นศาลมาแล้วในบางรายที่ไม่สามารถตามทวงหนี้คนกู้ได้

 

        3.สกสค.ยังคงต้องมีภาระกิจแจ้งรายงานถึง สมาชิก ช.พ.ค.-ช.พ.ส. ที่เสียชีวิตให้ธนาคารออมสินทราบแต่ละเดือนอีกหรือไม่ ทั้งนี้เพื่อจะได้นำส่งเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ศพที่ทายาทจะได้รับมอบให้ธนาคารออมสินแทนในกรณีคุณครูผู้เสียชีวิตมียอดหนี้กู้คงค้าง หันย้อนกลับไปดูวัตถุประสงค์ของการขอจัดตั้งการฌาปนกิจสงเคราะห์ ช.พ.ค-ช.พ.ส. บ้างดีมั๊ย

 

        4.เป็นที่ให้ข้อคิดอย่างหนึ่งที่ว่าเมื่อก่อนธนาคารออมสินให้เงินสนับสนุนกับ สกสค.เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์แต่เมื่อมาหักให้คุณครูลูกหนี้แทน ก็ใช่ว่าจะได้รับทุกคนแล้ว อย่างนี้คนที่ได้ทั้งขึ้นทั้งล่องคือใคร สุดท้ายธนาคารออมสินก็โชคดีที่ได้ย่นระยะเวลาชำระหนี้คืนเงินต้นได้เร็วยิ่งขึ้น แล้วที่ผ่านมาเพียรทำโครงการให้คุณครูสามารถผ่อนหนี้ระยะยาว เพื่อจะได้ไม่ต้องจ่ายค่างวดแต่เดือนมากนั้นก็สูญเปล่า

 

         ไหนบอกว่า "ชีวิตครูเราดูแล" สกสค.ทำหน้าที่นี้เพื่อครูเต็มที่แล้วหรือยัง? ในวันนี้ สกสค. ไม่ต้องชี้นำธนาคารออมสิน แต่อย่างน้อยควรจะมีอำนาจต่อรองได้บ้าง ดอกเบี้ยส่วนลดนี้ก็ใช่ว่าจะมากมาย แล้วทำไมไม่สร้างศรัทธาและภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร ซึ่งจะได้ใจจาก"คุณครู"ค่อนประเทศมากกว่า อย่าลืมว่าปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งเริ่มมาจากใคร มีการเตรียมการวางแผนเผื่อความเสี่ยงในอนาคตไว้แค่ไหน

 

        เหนืออื่นใด  ณ ปัจจุบัน สมาชิก ช.พ.ค.-ช.พ.ส. นับวันลดลงเป็นจำนวนมาก แต่ยอดสมาชิกที่เสียชีวิต เทียบสัดส่วนไม่ได้กับสมาชิกที่มาสมัครใหม่ และยังจะมีปรากฏการณ์ที่คุณครู แห่กันมาถอดถอนการเป็นสมาชิก เพราะ“ตายแล้วทายาทไม่ได้เงิน”นั่นเอง..

คมชัดลึกออนไลน์....รายงาน 

ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์คมชัดลึกออนไลน์ วันที่ 6 พฤษภาคม 2561
  • 07 พ.ค. 2561 เวลา 09:47 น.
  • 3,066

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

^