LASTEST NEWS

29 มี.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 29 มี.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 29 มี.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 29 มี.ค. 2567สพป.บุรีรัมย์ เขต 3 รับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ปี พ.ศ.2567 จำนวน 26 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 5-11 เม.ย.2567 29 มี.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 29 มี.ค. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพป.ชลบุรี เขต 3 - ผลย้ายครู 2567 สพป.ชลบุรี เขต 3 29 มี.ค. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพป.สงขลา เขต 1 - ผลย้ายครู 2567 สพป.สงขลา เขต 1 29 มี.ค. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพป.พิจิตร เขต 2 - ผลย้ายครู 2567 สพป.พิจิตร เขต 2 29 มี.ค. 2567สพป.เพชรบุรี เขต 1 รับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ปี พ.ศ.2567 จำนวน 5 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 5-11 เม.ย.2567 29 มี.ค. 2567สพม.เพชรบุรี รับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ปี พ.ศ.2567 จำนวน 7 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 5-11 เม.ย.2567

ฟ้าผ่ากระทรวงศึกษาธิการ

  • 21 เม.ย. 2558 เวลา 11:41 น.
  • 9,233
ฟ้าผ่ากระทรวงศึกษาธิการ

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

ทั้งๆที่พายุสงกรานต์ผ่านไปแล้ว และกรมอุตุนิยมวิทยาท่านก็ยังไม่มีประกาศออกมาว่า พายุลูกใหม่จะมาเมื่อไรอีก

แต่ที่กระทรวงศึกษาธิการกลับมี “พายุหลง” ถล่มเข้าใส่อย่างจัง เกิดภาวะฝนตกลมแรง แถมมีฟ้าผ่าเปรี้ยงปร้าง จนข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของกระทรวงหลายท่านกระเด็นตกเก้าอี้เปียกปอนไปตามๆกัน

เมื่อมีคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายออกมาอย่างไม่มีใครคาดคิดไว้ก่อน และที่สำคัญเป็นคำสั่งหัวหน้า คสช. โดยอาศัยมาตรา 44 เอาเสียด้วย จึงทำให้พายุหลงลูกนี้ค่อนข้างรุนแรงไม่น้อย

เพราะธรรมดาของการโยกย้ายแค่ระดับ 11 กับระดับ 10 เช่นนี้ อาศัยเพียงอำนาจคณะรัฐมนตรีก็สามารถดำเนินการได้อยู่แล้ว

แต่บิ๊กตู่ท่านใช้ ม.44 ที่ร่ำลือกันว่าเป็นมาตราที่น่ากลัวมาก เพราะให้อำนาจหัวหน้า คสช.แบบล้นฟ้า พอๆกับ ม.17 ในยุคเผด็จการเต็มรูปยุคก่อนมาจัดการแทน

ทำให้คอการเมืองข้างเวทีอย่างพวกเราทั้งหลายต้องหยิบยกมาอภิปรายเป็นเชิงถามไถ่กันว่า มีอะไรอยู่เบื้องหลัง เบื้องหน้าหรือไม่?

ผู้ถูกย้ายบางท่านทำอะไรทุจริตเข้าบ้างหรือเปล่า?

หรือว่าท่านตั้งใจใช้ ม.44 เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเอาจริงเอาจังที่จะปฏิรูปการศึกษา ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนและสำคัญที่สุดของประเทศ

หากทำไปตามขั้นตอนปกติอาจจะล่าช้าไม่ทันกาล และดูไม่จริงจัง ไม่ขึงขัง จึงได้ออกคำสั่งชุดใหญ่ โดยอาศัยอำนาจของมาตรา 44 อย่างที่ว่า

ถ้าเรากลับไปอ่านอารัมภบทของคำสั่ง คสช. ตามมาตรา 44 ฉบับนี้อีกครั้ง จะเห็นได้ว่าเริ่มต้นด้วยความตั้งใจที่จะปฏิรูปการศึกษา โดยเขียนไว้เป็นประโยคแรกเลย ก่อนที่จะมีประโยคตามมาว่า...เพื่อให้เป็นไปตามนั้น จึงมีคำสั่งออกมาเป็นข้อๆดังกล่าว

แสดงให้เห็นว่า หัวหน้า คสช.กับนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นคนเดียวกัน มีความมุ่งมั่นที่จะปฏิรูปการศึกษาอย่างจริงจัง จึงเลือกใช้มาตรการที่มิใช่ขั้นตอนปกติของระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน สั่งการรวดเดียวให้มีการโยกย้ายและยุบเลิกคณะกรรมการสำคัญ ทั้ง 3 ชุดของกระทรวงศึกษาธิการ

ก็เอาเถอะไม่ว่าเบื้องหน้าเบื้องหลังที่แท้จริงของการใช้มาตราครอบจักรวาลมาตรานี้คืออะไรก็ตาม...แต่ประเด็นที่เราต้องยอมรับกันอย่างตรงไปตรงมาก็คือ กระทรวงศึกษาธิการสมควรถูกฟ้าผ่ามานานแล้ว

เพราะเป็นกระทรวงที่สำคัญที่สุดในการสร้างทรัพยากรมนุษย์และกำลังคนอันแข็งแกร่ง เพื่อการพัฒนาประเทศชาติให้ก้าวไกลออกไปในอนาคต

ทว่า ผลงานที่ผ่านมากลายเป็นสอบตกโดยสิ้นเชิง เพราะคุณภาพของพลเมืองไทยดูเหมือนจะถดถอยลงเรื่อยๆ จากการประเมินผลในด้านต่างๆ

โดยส่วนตัวผมเห็นด้วยกับการใช้ ม.44 โยกย้ายข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และยุบบอร์ดที่สำคัญอีก 3 บอร์ด ของกระทรวงศึกษาธิการครั้งนี้

ดูจากตัวบุคคล โดยเฉพาะผู้ที่จะไปดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ นพ.กำจร ตติยกวี นั้น ก็ถือว่าพอจะฝากความหวังไว้ได้

ท่านจบหมอแต่มาทำหน้าที่ด้านบริหารการศึกษา เคยเป็นทั้งรองอธิการบดีจุฬาฯ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา และล่าสุดขึ้นดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา ในปี 2557 หลัง คสช.ควบคุมอำนาจการบริหารประเทศไม่นานนัก

อย่างน้อยเปรียบเฉพาะตัว “ปลัดกระทรวง” ละก็ คนใหม่น่าจะเหมาะสมกว่าคนเก่า หากจะมีการปฏิรูปการศึกษาอย่างที่ต้องการ

แต่ก็นั่นแหละครับ กระทรวงศึกษาธิการเป็นกระทรวงเก่าแก่มากกระทรวงหนึ่ง มีบุคลากรที่มีลักษณะเฉพาะตัว และมีวัฒนธรรมความเชื่อตลอดจนแนวทางในการทำงานที่ผมเองก็บอกไม่ถูก

บอกได้แต่เพียงว่าในช่วงที่ผมเคยรับราชการ และมีหน้าที่ในการประสานกับกระทรวงต่างๆ 6-7 กระทรวง เพื่อการพัฒนาชนบท และกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคในยุคโน้น

กระทรวงศึกษาธิการเป็นกระทรวงที่ผมทำงานด้วยยากที่สุด และต้องใช้ความอุตสาหวิริยะมากกว่ากระทรวงอื่นๆ

เพราะฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงเฉพาะ “ปลัดกระทรวง” หรือ ผู้บริหารระดับสูงเพียง 4-5 ท่าน อาจไม่ใช่หลักประกันได้ว่า การปฏิรูปการศึกษาจะเดินทางไปสู่ความสำเร็จ

ยังมีงานอันเหน็ดเหนื่อยที่จะต้องทำอีกมากสำหรับการผ่าตัดกระทรวงนี้

แต่ก็ดีแล้วครับ...ที่มีการเริ่มต้นขึ้น อย่างน้อยก็เป็นการส่งสัญญาณไปสู่เจ้าหน้าที่กระทรวงศึกษาธิการในทุกระดับว่า นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป คสช.และรัฐบาลนี้จะเอาจริงในการปฏิรูปการศึกษาของประเทศไทย.

“ซูม”


ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 21 เมษายน 2558
  • 21 เม.ย. 2558 เวลา 11:41 น.
  • 9,233

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

^