ให้ทุนเด็กช่าง 5 รุ่น รุ่นละ 2,300 ทุน กว่า 2.5หมื่นล้าน
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
ขอทุนให้เด็กช่าง2.5หมื่นล. ป้อนเมกะโปรเจ็กต์ภาครัฐ
สอศ.เล็งขอทุนหนุนเด็กช่าง 2.5 หมื่นล้าน ปั้นช่างเทคนิคป้อนเมกะโปรเจ็กต์ภาครัฐ ทั้งรถไฟความเร็วสูง โครงการน้ำ ผลิตระยะสั้นอาจเป็นการให้เปล่าไม่ต้องใช้คืน "นายกฯ" สั่ง สอศ.เบรกแก้โครงสร้าง ขอแก้ปัญหาภาพรวมประเทศก่อน ด้าน ศธ.ถกเครียดปัญหาธรรมาภิบาลเรื้อรัง ชี้ กกอ.ต้องมีอำนาจจัดการได้
นายกฤษณพงศ์ กีรติกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการตามที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เสนอขอปรับโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน หรือโอดอส มาเป็นโครงการทุนช่างเทคนิคและบัณฑิตนักปฏิบัติ เป็นโครงการระยะยาว 14 ปี ที่เริ่มตั้งแต่ พ.ศ.2558-2572 โดยให้ทุนเด็กทั้งหมด 5 รุ่น รุ่นละ 2,300 ทุน ใช้งบประมาณ จำนวน 25,000 ล้านบาท แบ่งเป็นทุนในประเทศทั้งหมด 700 ทุน ทุนต่างประเทศ 1,600 ทุน และแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ ทุนระยะสั้น เรียนไม่เกิน 6 เดือน ถึง 2 ปี จำนวน 1,250 ทุน แบ่งเป็นทุนในประเทศ 100 ทุน ทุนต่างประเทศ จำนวน 1,150 ทุน ระยะกลาง เรียน 4 ปี จำนวน 700 ทุน ทุนในประเทศ 400 ทุน ทุนต่างประเทศ 300 ทุน และทุนระยะยาว เรียน 7 ปี จำนวน 350 ทุน ทุนในประเทศ 200 ทุน ทุนต่างประเทศ จำนวน 150 ทุน
สำหรับส่วนของทุนระยะสั้น จะเน้นผลิตช่างเทคนิค นักปฏิบัติการที่มีความชำนาญเพื่อป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ขาดแคลน โดยเฉพาะโครงการเมกะโปรเจ็กต์ของรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง การบริหารจัดการน้ำ เป็นต้น และทุนนี้จะให้แบบไม่ต้องใช้คืนด้วย ในส่วนระยะกลางและระยะยาว ซึ่งค่อนข้างต้องใช้เวลาเรียนนานกว่า และใช้งบประมาณที่สูงขึ้น อาจจะเพิ่มหลักเกณฑ์ว่าต้องใช้ทุนโดยการกลับมาเป็นอาจารย์ในสถาบันอาชีวศึกษา และในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ซึ่งได้มีการมอบหมายให้ทาง สอศ.ไปจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการคัดเลือกเด็กเข้าร่วมโครงการได้ภายในปีการศึกษา 2558
นายกฤษณพงศ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังหารือถึงปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา โดยเห็นว่าหากมหาวิทยาลัยเกิดปัญหาน่าจะให้คณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เข้าไปมีบทบาทในการบริหารจัดการได้ ซึ่งอาจจะต้องดูทั้งสองส่วนคือ ร่าง พ.ร.บ.การจัดตั้งกระทรวงการอุดมศึกษา และร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษา หากเดินหน้าเฉพาะร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษาก่อน เพื่อให้ กกอ.เข้ามามีบทบาทในการแก้ปัญหาธรรมาภิบาลในมหาวิทยาลัย ก็สามารถทำได้ แต่โดยส่วนตัวเห็นว่าควรจะดูทั้งสองฉบับควบคู่กันไป เพื่อเป็นการเดินหน้าเรื่องการปฏิรูประบบอุดมศึกษาไปในคราวเดียวกัน
“เนื่องจากที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีได้ย้ำกับกระทรวงต่างๆ ว่า ถ้าเป็นไปได้ในช่วง 1-2 ปีนี้ไม่อยากให้แตะเรื่องโครงสร้างมากนัก ขอให้ใช้เวลาทุ่มเทกับการทำงานแก้ไขปัญหาก่อน ดังนั้นในส่วนของกระทรวงต่างๆ คงยังไม่มีการปรับโครงสร้างในช่วงนี้ เป็นการดำเนินงานวางระบบไว้สำหรับรัฐบาลหน้าต่อไป ดังนั้นหาก ศธ.จะเสนอจัดตั้งกระทรวงการอุดมศึกษา ก็อาจจะต้องเสนอเป็นกรณีพิเศษ เพราะปัญหาอุดมศึกษาถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องดูภาพรวมทั้งระบบ ซึ่งเรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เพราะว่าสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ได้เสนอร่าง พ.ร.บ.ทั้งสองฉบับให้ รมว.ศธ.พิจารณาแล้ว” รมช.ศธ.กล่าว.
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2558