การพัฒนาชุดการเรียนรู้วรรณคดีและวรรณกรรมตามแนวการสอน SQ-CR
ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดการเรียนรู้วรรณคดีและวรรณกรรมตามแนวการสอน SQ-CR เพื่อส่งเสริม
ทักษะการอ่านวิเคราะห์ วิจารณ์ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง บทเสภาสามัคคีเสวก
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
โรงเรียนขุนหาญวิทยาสรรค์
ผู้วิจัย สมพร แก่นจักร
ปีที่วิจัย 2563
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาชุดการเรียนรู้วรรณคดีและวรรณกรรมตามแนวการสอน SQ-CR เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านวิเคราะห์ วิจารณ์ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง บทเสภาสามัคคีเสวก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 2) ศึกษาทักษะการอ่านวิเคราะห์ วิจารณ์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนด้วยชุดการเรียนรู้วรรณคดีและวรรณกรรมตามแนวการสอน SQ-CR เรื่อง บทเสภาสามัคคีเสวก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดการเรียนรู้วรรณคดีและวรรณกรรมตามแนวการสอน SQ-CR เรื่อง บทเสภาสามัคคีเสวก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนด้วยชุดการเรียนรู้วรรณคดีและวรรณกรรมตามแนวการสอน SQ-CR เรื่อง บทเสภาสามัคคีเสวก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi - Experimental Design) ใช้กลุ่มทดลองเพียงกลุ่มเดียว มีการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนในรูปแบบที่เรียกว่า One - Group Pretest - Posttest Design กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนขุนหาญวิทยาสรรค์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ที่เรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวนนักเรียน 40 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) ชุดการเรียนรู้วรรณคดีและวรรณกรรมตามแนวการสอน SQ-CR 2) คู่มือการจัดการเรียนรู้ตามแนวการสอน SQ-CR 3) แบบประเมินทักษะการอ่านวิเคราะห์ วิจารณ์ 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจ การวิเคราะห์ข้อมูล ทำการวิเคราะห์โดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบความแตกต่างโดยใช้ค่าที (t - test)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการพัฒนาชุดการเรียนรู้วรรณคดีและวรรณกรรมตามแนวการสอน SQ-CR เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านวิเคราะห์ วิจารณ์ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง บทเสภาสามัคคีเสวก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จากการประเมินของผู้เชี่ยวชาญ พบว่า มีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด ( = 4.54, S.D = 0.59) และมีประสิทธิภาพ เท่ากับ 86.48/84.58 ถือว่าสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80
2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนด้วยชุดการเรียนรู้วรรณคดีและวรรณกรรมตามแนวการสอน SQ-CR เรื่อง บทเสภาสามัคคีเสวก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีผลการประเมินทักษะการอ่านวิเคราะห์ วิจารณ์ อยู่ในระดับดีมาก คิดเป็นร้อยละ 85.63
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนด้วยชุดการเรียนรู้วรรณคดีและวรรณกรรมตามแนวการสอน SQ-CR เรื่อง บทเสภาสามัคคีเสวก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดการเรียนรู้วรรณคดีและวรรณกรรมตามแนวการสอน SQ-CR เรื่อง บทเสภาสามัคคีเสวก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย อยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด ( = 4.56, S.D = 0.60)
ทักษะการอ่านวิเคราะห์ วิจารณ์ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง บทเสภาสามัคคีเสวก
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
โรงเรียนขุนหาญวิทยาสรรค์
ผู้วิจัย สมพร แก่นจักร
ปีที่วิจัย 2563
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาชุดการเรียนรู้วรรณคดีและวรรณกรรมตามแนวการสอน SQ-CR เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านวิเคราะห์ วิจารณ์ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง บทเสภาสามัคคีเสวก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 2) ศึกษาทักษะการอ่านวิเคราะห์ วิจารณ์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนด้วยชุดการเรียนรู้วรรณคดีและวรรณกรรมตามแนวการสอน SQ-CR เรื่อง บทเสภาสามัคคีเสวก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดการเรียนรู้วรรณคดีและวรรณกรรมตามแนวการสอน SQ-CR เรื่อง บทเสภาสามัคคีเสวก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนด้วยชุดการเรียนรู้วรรณคดีและวรรณกรรมตามแนวการสอน SQ-CR เรื่อง บทเสภาสามัคคีเสวก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi - Experimental Design) ใช้กลุ่มทดลองเพียงกลุ่มเดียว มีการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนในรูปแบบที่เรียกว่า One - Group Pretest - Posttest Design กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนขุนหาญวิทยาสรรค์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ที่เรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวนนักเรียน 40 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) ชุดการเรียนรู้วรรณคดีและวรรณกรรมตามแนวการสอน SQ-CR 2) คู่มือการจัดการเรียนรู้ตามแนวการสอน SQ-CR 3) แบบประเมินทักษะการอ่านวิเคราะห์ วิจารณ์ 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจ การวิเคราะห์ข้อมูล ทำการวิเคราะห์โดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบความแตกต่างโดยใช้ค่าที (t - test)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการพัฒนาชุดการเรียนรู้วรรณคดีและวรรณกรรมตามแนวการสอน SQ-CR เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านวิเคราะห์ วิจารณ์ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง บทเสภาสามัคคีเสวก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จากการประเมินของผู้เชี่ยวชาญ พบว่า มีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด ( = 4.54, S.D = 0.59) และมีประสิทธิภาพ เท่ากับ 86.48/84.58 ถือว่าสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80
2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนด้วยชุดการเรียนรู้วรรณคดีและวรรณกรรมตามแนวการสอน SQ-CR เรื่อง บทเสภาสามัคคีเสวก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีผลการประเมินทักษะการอ่านวิเคราะห์ วิจารณ์ อยู่ในระดับดีมาก คิดเป็นร้อยละ 85.63
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนด้วยชุดการเรียนรู้วรรณคดีและวรรณกรรมตามแนวการสอน SQ-CR เรื่อง บทเสภาสามัคคีเสวก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดการเรียนรู้วรรณคดีและวรรณกรรมตามแนวการสอน SQ-CR เรื่อง บทเสภาสามัคคีเสวก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย อยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด ( = 4.56, S.D = 0.60)