การศึกษาการลดปัญหาการไม่ตอบคำถามครูผู้สอนในชั้นเรียน
หัวข้อวิจัย การศึกษาการลดปัญหาการไม่ตอบคำถามครูผู้สอนในชั้นเรียน
วิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ
โดยการสร้างความมั่นใจในตนเองให้กับผู้เรียน
ผู้ดำเนินการวิจัย นางจิดาภา แก้วเจริญ
หน่วยงาน แผนกการตลาด
ปีการศึกษา 2/2563
บทคัดย่อ
การศึกษาเรื่อง การลดปัญหาการไม่ตอบคำถามครูผู้สอนในชั้นเรียน วิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ โดยการสร้างความมั่นใจในตนเองให้กับผู้เรียน มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาการลดปัญหาการไม่ตอบคำถามครูผู้สอนในชั้นเรียน โดยการสร้างความมั่นใจในตนเอง การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้เรียนที่ลงทะเบียนเรียนวิชาหลักการตลาด ชั้น ปวช.1 สาขางานการตลาด จำนวน 36 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คืออัตราร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (standard deviation)
ผลการศึกษาพบว่า
1.ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม เพศชาย คิดเป็นร้อยละ 11.1 เพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 88.9 มีอายุ 18-20 ปี คิดเป็นร้อยละ 88.9 และอายุ 21-23 ปี คิดเป็นร้อยละ 11.1
2. การศึกษาเจตคติ สาเหตุ และปัจจัยกระตุ้นในการตอบคำถามครูผู้สอนในชั้นเรียน
ความคิดเห็นทั่วไปเกี่ยวกับการตอบคำถามครูผู้สอนในชั้นเรียนอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 4.02 และเมื่อพิจารณารายข้อพบว่านักศึกษามีความคิดเห็นทั่วไปเกี่ยวกับการตอบคำถามครูผู้สอน ในชั้นเรียนอยู่ในระดับมากที่สุด ลำดับแรก คือนักศึกษาชอบคำถามที่เป็นการแสดงความคิดเห็น มีค่าเฉลี่ย 4.61 รองลงมาคือ นักศึกษาชอบคำถามที่เป็นการแนะแนวข้อสอบและนักศึกษาชอบคำถามที่สนุกและไม่ทำให้เครียด มีค่าเฉลี่ย 4.38
สาเหตุที่นักศึกษาไม่ตอบคำถามครูผู้สอนในชั้นเรียน
สาเหตุที่นักศึกษาไม่ตอบคำถามครูผู้สอนในชั้นเรียนในอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 3.58 และเมื่อพิจารณารายข้อพบว่าสาเหตุที่นักศึกษาไม่ตอบคำถามครูผู้สอนในชั้นเรียนอยู่ในระดับมากที่สุด ลำดับแรกคือ กลัวเสียหน้าหรือถูกมองว่าโง่ถ้าตอบคำถามผิดมีค่าเฉลี่ย 4.55 รองลงมาคือ มีเพื่อน บางคนที่ชอบผูกขาดในการตอบ จึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องตอบก็ได้ มีค่าเฉลี่ย 4.50
ปัจจัยกระตุ้นที่ช่วยให้นักศึกษาตอบคำถามครูผู้สอนในชั้นเรียนในอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 4.11 และเมื่อพิจารณารายข้อพบว่าปัจจัยกระตุ้นที่ช่วยให้นักศึกษาตอบคำถามครูผู้สอนในชั้นเรียนอยู่ในระดับมากที่สุด ลำดับแรกคือ คำถามต้องไม่ยาก หรือซับซ้อนเกินไป มีค่าเฉลี่ย 4.77 รองลงมาคือ ต้องการให้มีเพื่อนช่วยคิด หรือตอบคำถามร่วมกับเพื่อนๆ มีค่าเฉลี่ย 4.72
วิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ
โดยการสร้างความมั่นใจในตนเองให้กับผู้เรียน
ผู้ดำเนินการวิจัย นางจิดาภา แก้วเจริญ
หน่วยงาน แผนกการตลาด
ปีการศึกษา 2/2563
บทคัดย่อ
การศึกษาเรื่อง การลดปัญหาการไม่ตอบคำถามครูผู้สอนในชั้นเรียน วิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ โดยการสร้างความมั่นใจในตนเองให้กับผู้เรียน มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาการลดปัญหาการไม่ตอบคำถามครูผู้สอนในชั้นเรียน โดยการสร้างความมั่นใจในตนเอง การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้เรียนที่ลงทะเบียนเรียนวิชาหลักการตลาด ชั้น ปวช.1 สาขางานการตลาด จำนวน 36 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คืออัตราร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (standard deviation)
ผลการศึกษาพบว่า
1.ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม เพศชาย คิดเป็นร้อยละ 11.1 เพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 88.9 มีอายุ 18-20 ปี คิดเป็นร้อยละ 88.9 และอายุ 21-23 ปี คิดเป็นร้อยละ 11.1
2. การศึกษาเจตคติ สาเหตุ และปัจจัยกระตุ้นในการตอบคำถามครูผู้สอนในชั้นเรียน
ความคิดเห็นทั่วไปเกี่ยวกับการตอบคำถามครูผู้สอนในชั้นเรียนอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 4.02 และเมื่อพิจารณารายข้อพบว่านักศึกษามีความคิดเห็นทั่วไปเกี่ยวกับการตอบคำถามครูผู้สอน ในชั้นเรียนอยู่ในระดับมากที่สุด ลำดับแรก คือนักศึกษาชอบคำถามที่เป็นการแสดงความคิดเห็น มีค่าเฉลี่ย 4.61 รองลงมาคือ นักศึกษาชอบคำถามที่เป็นการแนะแนวข้อสอบและนักศึกษาชอบคำถามที่สนุกและไม่ทำให้เครียด มีค่าเฉลี่ย 4.38
สาเหตุที่นักศึกษาไม่ตอบคำถามครูผู้สอนในชั้นเรียน
สาเหตุที่นักศึกษาไม่ตอบคำถามครูผู้สอนในชั้นเรียนในอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 3.58 และเมื่อพิจารณารายข้อพบว่าสาเหตุที่นักศึกษาไม่ตอบคำถามครูผู้สอนในชั้นเรียนอยู่ในระดับมากที่สุด ลำดับแรกคือ กลัวเสียหน้าหรือถูกมองว่าโง่ถ้าตอบคำถามผิดมีค่าเฉลี่ย 4.55 รองลงมาคือ มีเพื่อน บางคนที่ชอบผูกขาดในการตอบ จึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องตอบก็ได้ มีค่าเฉลี่ย 4.50
ปัจจัยกระตุ้นที่ช่วยให้นักศึกษาตอบคำถามครูผู้สอนในชั้นเรียนในอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 4.11 และเมื่อพิจารณารายข้อพบว่าปัจจัยกระตุ้นที่ช่วยให้นักศึกษาตอบคำถามครูผู้สอนในชั้นเรียนอยู่ในระดับมากที่สุด ลำดับแรกคือ คำถามต้องไม่ยาก หรือซับซ้อนเกินไป มีค่าเฉลี่ย 4.77 รองลงมาคือ ต้องการให้มีเพื่อนช่วยคิด หรือตอบคำถามร่วมกับเพื่อนๆ มีค่าเฉลี่ย 4.72