การประเมินโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้_รอง ผอ ญตินันท์ รร.เขาตูม
ชื่อรายงาน: การประเมินโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ด้านทักษะการคิด
วิเคราะห์และคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านเขาตูม
องค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี
ผู้ประเมิน: นายญตินันท์ แก้วงาม ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนบ้านเขาตูม
วิทยฐานะ รองผู้อำนวยการสถานศึกษาชำนาญการพิเศษ
ปีที่รายงาน: 2561
บทสรุปผู้บริหาร
การประเมินโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ด้านทักษะการคิดวิเคราะห์และคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียนโรงเรียนบ้านเขาตูม มีวัตถุประสงค์ ของการประเมิน ดังต่อไปนี้ 1)เพื่อประเมินสภาพแวดล้อม (Context : C) ของโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ด้านทักษะการคิดวิเคราะห์และคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านเขาตูม 2) เพื่อประเมินปัจจัยนำเข้า (Input : I) ของโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ด้านทักษะการคิดวิเคราะห์และคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านเขาตูม 3) เพื่อประเมินกระบวนการ (Process : P) ของโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ด้านทักษะการคิดวิเคราะห์และคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านเขาตูม 4) เพื่อประเมินผลผลิต (Product : P) ของโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ด้านทักษะการคิดวิเคราะห์และคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านเขาตูม ได้แก่ ด้านทักษะการคิดวิเคราะห์ คุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียน ความพึงพอใจต่อโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ด้านทักษะการคิดวิเคราะห์และคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านเขาตูม ผู้ประเมินใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์โมเดล (CIPP Model) แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการประเมิน ประกอบด้วย ครูผู้สอน 24 คน และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึง 6 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 305 คน ปีการศึกษา 2561 จำนวน 319 คน ผู้ปกครองปีการศึกษา 2560 จำนวน 285 คน ปีการศึกษา 2561 จำนวน 278 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นแบบสอบถามการประเมินโครงการ แบบทดสอบทักษะการคิดวิเคราะห์ และแบบสอบถามความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าร้อยละ และเปรียบเทียบผลการทดสอบด้วย t-test Independent
ผลการประเมินโครงการ พบว่า
1) ด้านสภาพแวดล้อมของโครงการทั้งครูผู้สอนและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีความคิดเห็นว่าอยู่ในระดับมาก โดยประเด็นความต้องการและความจำเป็นในการดำเนินโครงการ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน ซึ่งความคิดเห็นของครูผู้สอนและความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ประเด็นความเหมาะสมของวัตถุประสงค์ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน ซึ่งความคิดเห็นของครูผู้สอนและความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ประเด็นความสอดคล้องกับนโยบายของหน่วยงานต้นสังกัด พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน ซึ่งความคิดเห็นของครูผู้สอนและความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ประเด็นความเป็นไปได้ของโครงการ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน ซึ่งความคิดเห็นของและความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก
2) ด้านปัจจัยนำเข้าที่ใช้ในการดำเนินโครงการปีการศึกษา 2560-2561 ทั้งครูผู้สอนและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีความคิดเห็นว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก โดยประเด็นความพร้อมของบุคลากร ตามความคิดเห็นของครูผู้สอน พบว่า ปีการศึกษา 2560 อยู่ในระดับมาก และ ปีการศึกษา 2561 อยู่ในระดับมากที่สุด ความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า ปีการศึกษา 2560 และปีการศึกษา 2561 อยู่ในระดับมาก ประเด็นความเพียงพอของงบประมาณ ตามความคิดเห็นของครูผู้สอน พบว่า ปีการศึกษา 2560 และปีการศึกษา 2561 อยู่ในระดับมาก ความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า ปีการศึกษา 2560 และปีการศึกษา 2561 อยู่ในระดับมาก ประเด็นความพร้อมของวัสดุ อุปกรณ์ สถานที่ ตามความคิดเห็นของครูผู้สอน พบว่า ปีการศึกษา 2560และปีการศึกษา 2561 อยู่ในระดับมาก ความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า ปีการศึกษา 2560 และปีการศึกษา 2561 อยู่ในระดับมาก ประเด็นการบริหารจัดการ ตามความคิดเห็นของครูผู้สอน พบว่า ปีการศึกษา 2560 และปีการศึกษา 2561 อยู่ในระดับมาก ความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า ปีการศึกษา 2560 และปีการศึกษา 2561 อยู่ในระดับมาก ประเด็นหน่วยงานที่สนับสนุนโครงการตามความคิดเห็นของครูผู้สอน พบว่า ปีการศึกษา 2560 และ ปีการศึกษา 2561 อยู่ในระดับมาก ความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า ปีการศึกษา 2560 และปีการศึกษา 2561 อยู่ในระดับมาก
3) ด้านกระบวนการ ปีการศึกษา 2560 โดยรวมผ่านเกณฑ์การประเมิน จำแนกเป็น ความคิดเห็นของครูผู้สอน มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก ความคิดเห็นของผู้ปกครอง มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก และความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก ปีการศึกษา 2561 ดังนี้ โดยรวมผ่านเกณฑ์การประเมิน จำแนกเป็น ความคิดเห็นของครูผู้สอน มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมากที่สุด ความคิดเห็นของผู้ปกครอง มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก และความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมากที่สุด
4) ด้านผลผลิต พบว่า นักเรียนมีทักษะด้านการคิดวิเคราะห์ ปี 2561 สูงกว่าปี 2560 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .01 คุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียน ปีการศึกษา 2560-2561 พบว่า ครูผู้สอน นักเรียน ผู้ปกครองและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความเห็นว่าคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียนมีคุณภาพในระดับมาก ความพึงพอใจต่อการดำเนินโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ด้านทักษะการคิดวิเคราะห์และคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านเขาตูม ปีการศึกษา 2560-2561 พบว่า ครูผู้สอน นักเรียน ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก
วิเคราะห์และคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านเขาตูม
องค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี
ผู้ประเมิน: นายญตินันท์ แก้วงาม ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนบ้านเขาตูม
วิทยฐานะ รองผู้อำนวยการสถานศึกษาชำนาญการพิเศษ
ปีที่รายงาน: 2561
บทสรุปผู้บริหาร
การประเมินโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ด้านทักษะการคิดวิเคราะห์และคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียนโรงเรียนบ้านเขาตูม มีวัตถุประสงค์ ของการประเมิน ดังต่อไปนี้ 1)เพื่อประเมินสภาพแวดล้อม (Context : C) ของโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ด้านทักษะการคิดวิเคราะห์และคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านเขาตูม 2) เพื่อประเมินปัจจัยนำเข้า (Input : I) ของโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ด้านทักษะการคิดวิเคราะห์และคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านเขาตูม 3) เพื่อประเมินกระบวนการ (Process : P) ของโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ด้านทักษะการคิดวิเคราะห์และคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านเขาตูม 4) เพื่อประเมินผลผลิต (Product : P) ของโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ด้านทักษะการคิดวิเคราะห์และคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านเขาตูม ได้แก่ ด้านทักษะการคิดวิเคราะห์ คุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียน ความพึงพอใจต่อโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ด้านทักษะการคิดวิเคราะห์และคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านเขาตูม ผู้ประเมินใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์โมเดล (CIPP Model) แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการประเมิน ประกอบด้วย ครูผู้สอน 24 คน และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึง 6 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 305 คน ปีการศึกษา 2561 จำนวน 319 คน ผู้ปกครองปีการศึกษา 2560 จำนวน 285 คน ปีการศึกษา 2561 จำนวน 278 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นแบบสอบถามการประเมินโครงการ แบบทดสอบทักษะการคิดวิเคราะห์ และแบบสอบถามความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าร้อยละ และเปรียบเทียบผลการทดสอบด้วย t-test Independent
ผลการประเมินโครงการ พบว่า
1) ด้านสภาพแวดล้อมของโครงการทั้งครูผู้สอนและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีความคิดเห็นว่าอยู่ในระดับมาก โดยประเด็นความต้องการและความจำเป็นในการดำเนินโครงการ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน ซึ่งความคิดเห็นของครูผู้สอนและความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ประเด็นความเหมาะสมของวัตถุประสงค์ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน ซึ่งความคิดเห็นของครูผู้สอนและความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ประเด็นความสอดคล้องกับนโยบายของหน่วยงานต้นสังกัด พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน ซึ่งความคิดเห็นของครูผู้สอนและความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ประเด็นความเป็นไปได้ของโครงการ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน ซึ่งความคิดเห็นของและความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก
2) ด้านปัจจัยนำเข้าที่ใช้ในการดำเนินโครงการปีการศึกษา 2560-2561 ทั้งครูผู้สอนและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีความคิดเห็นว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก โดยประเด็นความพร้อมของบุคลากร ตามความคิดเห็นของครูผู้สอน พบว่า ปีการศึกษา 2560 อยู่ในระดับมาก และ ปีการศึกษา 2561 อยู่ในระดับมากที่สุด ความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า ปีการศึกษา 2560 และปีการศึกษา 2561 อยู่ในระดับมาก ประเด็นความเพียงพอของงบประมาณ ตามความคิดเห็นของครูผู้สอน พบว่า ปีการศึกษา 2560 และปีการศึกษา 2561 อยู่ในระดับมาก ความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า ปีการศึกษา 2560 และปีการศึกษา 2561 อยู่ในระดับมาก ประเด็นความพร้อมของวัสดุ อุปกรณ์ สถานที่ ตามความคิดเห็นของครูผู้สอน พบว่า ปีการศึกษา 2560และปีการศึกษา 2561 อยู่ในระดับมาก ความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า ปีการศึกษา 2560 และปีการศึกษา 2561 อยู่ในระดับมาก ประเด็นการบริหารจัดการ ตามความคิดเห็นของครูผู้สอน พบว่า ปีการศึกษา 2560 และปีการศึกษา 2561 อยู่ในระดับมาก ความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า ปีการศึกษา 2560 และปีการศึกษา 2561 อยู่ในระดับมาก ประเด็นหน่วยงานที่สนับสนุนโครงการตามความคิดเห็นของครูผู้สอน พบว่า ปีการศึกษา 2560 และ ปีการศึกษา 2561 อยู่ในระดับมาก ความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า ปีการศึกษา 2560 และปีการศึกษา 2561 อยู่ในระดับมาก
3) ด้านกระบวนการ ปีการศึกษา 2560 โดยรวมผ่านเกณฑ์การประเมิน จำแนกเป็น ความคิดเห็นของครูผู้สอน มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก ความคิดเห็นของผู้ปกครอง มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก และความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก ปีการศึกษา 2561 ดังนี้ โดยรวมผ่านเกณฑ์การประเมิน จำแนกเป็น ความคิดเห็นของครูผู้สอน มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมากที่สุด ความคิดเห็นของผู้ปกครอง มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก และความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมากที่สุด
4) ด้านผลผลิต พบว่า นักเรียนมีทักษะด้านการคิดวิเคราะห์ ปี 2561 สูงกว่าปี 2560 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .01 คุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียน ปีการศึกษา 2560-2561 พบว่า ครูผู้สอน นักเรียน ผู้ปกครองและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความเห็นว่าคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียนมีคุณภาพในระดับมาก ความพึงพอใจต่อการดำเนินโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ด้านทักษะการคิดวิเคราะห์และคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านเขาตูม ปีการศึกษา 2560-2561 พบว่า ครูผู้สอน นักเรียน ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก