รายงานการใช้ชุดกิจกรรมงานประดิษฐ์สิ่งของจากเศษวัสดุเหลือใช้
ชื่อเรื่อง รายงานการใช้ชุดกิจกรรมงานประดิษฐ์สิ่งของจากเศษวัสดุเหลือใช้เชิงสร้างสรรค์
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์)
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ผู้รายงาน นางสาวเพลินจันทร์ ปฐมศิริกุล
ปีการศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมงานประดิษฐ์สิ่งของจากเศษวัสดุเหลือใช้เชิงสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ก่อนและหลังการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมงานประดิษฐ์สิ่งของจากเศษวัสดุเหลือใช้เชิงสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อชุดกิจกรรมงานประดิษฐ์สิ่งของจากเศษวัสดุเหลือใช้เชิงสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนเทศบาล ๓ (บ้านยะกัง) ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส สำนักการศึกษา เทศบาลเมืองนราธิวาส ประกอบด้วย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 จำนวน 30 คน และชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 จำนวน 30 คน รวมทั้งสิ้น 60 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 โรงเรียนเทศบาล ๓ (บ้านยะกัง) ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส สำนักการศึกษา เทศบาลเมืองนราธิวาส จำนวน 30 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ชุดกิจกรรมงานประดิษฐ์สิ่งของจากเศษวัสดุเหลือใช้เชิงสร้างสรรค์ จำนวน 9 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 30 ข้อ แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 18 แผน แบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 1 ชุด วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าสถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ ค่าประสิทธิภาพและวิเคราะห์ความแตกต่างโดยใช้ t-test (Dependent Samples) ผลการศึกษาพบว่า
1. ผลการพัฒนาชุดกิจกรรมงานประดิษฐ์สิ่งของจากเศษวัสดุเหลือใช้เชิงสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 83.09/83.89 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมงานประดิษฐ์สิ่งของจากเศษวัสดุเหลือใช้เชิงสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 สูงกว่าก่อนเรียนรู้ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อชุดกิจกรรมงานประดิษฐ์สิ่งของจากเศษวัสดุเหลือใช้เชิงสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์)
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ผู้รายงาน นางสาวเพลินจันทร์ ปฐมศิริกุล
ปีการศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมงานประดิษฐ์สิ่งของจากเศษวัสดุเหลือใช้เชิงสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ก่อนและหลังการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมงานประดิษฐ์สิ่งของจากเศษวัสดุเหลือใช้เชิงสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อชุดกิจกรรมงานประดิษฐ์สิ่งของจากเศษวัสดุเหลือใช้เชิงสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนเทศบาล ๓ (บ้านยะกัง) ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส สำนักการศึกษา เทศบาลเมืองนราธิวาส ประกอบด้วย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 จำนวน 30 คน และชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 จำนวน 30 คน รวมทั้งสิ้น 60 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 โรงเรียนเทศบาล ๓ (บ้านยะกัง) ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส สำนักการศึกษา เทศบาลเมืองนราธิวาส จำนวน 30 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ชุดกิจกรรมงานประดิษฐ์สิ่งของจากเศษวัสดุเหลือใช้เชิงสร้างสรรค์ จำนวน 9 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 30 ข้อ แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 18 แผน แบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 1 ชุด วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าสถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ ค่าประสิทธิภาพและวิเคราะห์ความแตกต่างโดยใช้ t-test (Dependent Samples) ผลการศึกษาพบว่า
1. ผลการพัฒนาชุดกิจกรรมงานประดิษฐ์สิ่งของจากเศษวัสดุเหลือใช้เชิงสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 83.09/83.89 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมงานประดิษฐ์สิ่งของจากเศษวัสดุเหลือใช้เชิงสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 สูงกว่าก่อนเรียนรู้ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อชุดกิจกรรมงานประดิษฐ์สิ่งของจากเศษวัสดุเหลือใช้เชิงสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก