LASTEST NEWS

25 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 25 เม.ย. 2567สพป.บุรีรัมย์ เขต 1 ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 1) - ผลย้ายครู 2567 สพป.บุรีรัมย์ เขต 1 25 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 25 เม.ย. 2567สพป.เพชรบูรณ์ เขต 2 ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 1) - ผลย้ายครู 2567 สพป.เพชรบูรณ์ เขต 2 25 เม.ย. 2567สพป.บุรีรัมย์ เขต 2 ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 1) - ผลย้ายครู 2567 สพป.บุรีรัมย์ เขต 2 25 เม.ย. 2567สพม.สุราษฎร์ธานี ชุมพร ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 1) - ผลย้ายครู 2567 สพม.สุราษฎร์ธานี ชุมพร 25 เม.ย. 2567สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 1 ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 1) - ผลย้ายครู 2567 สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 1 25 เม.ย. 2567สพป.ยะลา เขต 1 ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 1) - ผลย้ายครู 2567 สพป.ยะลา เขต 1 25 เม.ย. 2567สพป.นครราชสีมา เขต 7 ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 1) - ผลย้ายครู 2567 สพป.นครราชสีมา เขต 7 25 เม.ย. 2567สพป.นนทบุรี เขต 1 ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 1) - ผลย้ายครู 2567 สพป.นนทบุรี เขต 1

รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ของครู เพื่อพัฒนาทักษะการคิด

usericon

ชื่อเรื่อง     รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ของครู เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหา
ของนักเรียน โรงเรียนเทศบาล 4 วัดโพธิวราราม
ผู้วิจัย         นายสุทัศน์ สมจิตร
ปีที่ทำวิจัย     2562

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ของครู เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 4 วัดโพธิวราราม โดยมีวัตถุประสงค์เฉพาะดังนี้ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาการจัดกระบวนการเรียนรู้ของครู เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาของนักเรียน โรงเรียนเทศบาล 4 วัดโพธิวราราม 2) เพื่อสร้างรูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ของครู เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาของนักเรียน โรงเรียนเทศบาล 4 วัดโพธิวราราม 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ของครู เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาของนักเรียน โรงเรียนเทศบาล 4 วัดโพธิวราราม และ 4) เพื่อประเมินความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูผู้สอน นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ของครู เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาของนักเรียน โรงเรียนเทศบาล 4 วัดโพธิวราราม
วิธีการวิจัยมี 4 ขั้นตอน ดังนี้ 1) การศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาการจัดกระบวนการเรียนรู้ของครู เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาของนักเรียน โรงเรียนเทศบาล 4 วัดโพธิวราราม 2) การสร้างรูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ของครู เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาของนักเรียน โดยการศึกษาวิเคราะห์เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ ตรวจสอบความตรงและความเหมาะสม ของรูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ของครู เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาของนักเรียน โดยการจัดประชาพิจารณ์ ประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญ ตัวแทนครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองเครือข่าย และตัวแทนนักเรียน รวมจำนวนผู้เข้าร่วมประชาพิจารณ์ 50 คน 3) การทดลองใช้รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ของครู เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาของนักเรียน ดำเนินการทดลองใช้รูปแบบ การจัดกระบวนการเรียนรู้ของครู เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาของนักเรียน โรงเรียนเทศบาล 4 วัดโพธิวราราม สังกัดเทศบาลนครอุดรธานี และ 4) ประเมินความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูผู้สอน นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ของครู เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 4 วัดโพธิวราราม รวมจำนวนทั้งสิ้น 784 คน
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาการจัดกระบวนการเรียนรู้ของครู เพื่อพัฒนาทักษะ การคิดแก้ปัญหาของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 4 วัดโพธิวราราม พบว่า ปัญหาที่เกิดจากครูยังขาดความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาที่สอน ครูยังใช้เทคนิคที่ไม่หลากหลาย ปัญหาด้านตัวนักเรียน คือ กระบวนการเรียนรู้ของนักเรียนยังไม่มีประสิทธิภาพ ปัญหาด้านสื่อ เทคโนโลยีและแหล่งเรียนรู้ พบว่า สื่อ เทคโนโลยีและแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียนยังมีน้อยไม่มีประสิทธิภาพ ส่วนการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองและชุมชนใน การร่วมกันแก้ปัญหาและพัฒนาการเรียนรู้ยังมีน้อย
    ส่วนผลการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการจัดการศึกษาของ พบว่า เป้าหมายสำคัญ ของการจัดการศึกษา คือ การจัดการเรียนรู้เพื่อให้คนไทยทุกคนได้เรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต อย่างทั่วถึง และมีคุณภาพ แนวทางในการพัฒนาการจัดกระบวนการเรียนรู้ของครู เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาของนักเรียน พบว่า การพัฒนาการจัดกระบวนการเรียนรู้ของครู เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาของนักเรียน ต้องใช้กระบวนการที่ให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ และแนวทางในการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพควรยึดหลักตามวัตถุประสงค์ของแผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่ 10 (พ.ศ.2560–2579) พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545
2. รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ของครู เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 4 วัดโพธิวราราม พบว่า มีความตรงและความเหมาะสมมาก โดยประกอบด้วย 4 กลยุทธ์ ได้แก่ 1) การพัฒนาศักยภาพครู 2) การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ 3) การพัฒนาสื่อ เทคโนโลยีและแหล่งเรียนรู้ 4) การมีส่วนร่วมชุมชนในการจัดการศึกษา เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาของนักเรียน
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ของครู เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาของนักเรียน โรงเรียนเทศบาล 4 วัดโพธิวราราม พบว่า การพัฒนาศักยภาพครู ทำให้ครูมีการปรับเปลี่ยนวิธีการสอน สามารถออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนได้หลากหลาย โดยเน้นนักเรียนเป็นสำคัญ มีการพัฒนาและใช้สื่อประกอบการเรียนการสอน นำกระบวนการวิจัยในชั้นเรียนมาเป็นส่วนหนึ่งของ การจัดการเรียนการสอน และสามารถนำผลการวิจัยไปใช้ในการแก้ปัญหาและพัฒนาการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ การพัฒนาสื่อ เทคโนโลยีและแหล่งเรียนรู้ และการมี ส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการศึกษา เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาของนักเรียน ทำให้นักเรียนได้เรียนรู้ตามความสนใจและความถนัดของตนเอง นักเรียนมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเอง ได้คิด ได้แก้ปัญหา ได้ลงมือปฏิบัติจริง นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และผลการประเมินทักษะการคิดแก้ปัญหาผ่านเกณฑ์ที่ทางโรงเรียนกำหนด
4. ผลการประเมินความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูผู้สอน นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ของครู เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหา ของนักเรียน โรงเรียนเทศบาล 4 วัดโพธิวราราม พบว่า คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูผู้สอน นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน มีความพึงพอใจต่อรูปแบบอยู่ในระดับมาก
somjit1703 29 ส.ค. 2563 เวลา 18:09 น. 0 350
ร่วมแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^