ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้แบบซิปปา (CIPPA MODEL)
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปา (CIPPA MODEL) เรื่อง ทศนิยม ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 (2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียนจากการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปา (CIPPA MODEL) เรื่อง ทศนิยม ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนหลังใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปา (CIPPA MODEL) เรื่อง ทศนิยม ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/2 โรงเรียนต้นแก้วผดุงพิทยาลัย อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) จำนวน 31 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย (1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปา (CIPPA MODEL) เรื่อง ทศนิยม ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งมีจำนวน 13 ชุดย่อย (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนใช้ทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนเป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ และ(3) แบบสอบถามความพึงพอใจนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปา (CIPPA MODEL) เรื่อง ทศนิยม ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าที (t–test)
ดำเนินการโดยให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน จากนั้นจึงทำการทดลองสอนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปา (CIPPA MODEL) เรื่อง ทศนิยม แล้วบันทึกผลการเรียน หลังจากนั้นให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์หลังเรียน และตอบแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนหลังจากใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปา (CIPPA MODEL) เรื่อง ทศนิยม จากนั้นนำผลการทดสอบไปหาค่าทางสถิติเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของคะแนนที่ได้จากการทำแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน และเปรียบเทียบผลการประเมินความพึงพอใจกับเกณฑ์ระดับคุณภาพ 5 ระดับ
ผลการวิจัย พบว่า
1. รายงานการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปา (CIPPA MODEL) เรื่อง ทศนิยม ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.53/80.01 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังจากใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปา (CIPPA MODEL) เรื่อง ทศนิยม ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สูงกว่าก่อนการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปา (CIPPA MODEL) เรื่อง ทศนิยม ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจต่อการเรียนหลังจากใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปา (CIPPA MODEL) เรื่อง ทศนิยม ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในภาพรวมอยู่ ในระดับ พึงพอใจมากที่สุด ( = 4.51, S.D. = 0.64)
ทั้งนี้เนื่องจากชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปา (CIPPA MODEL) เรื่อง ทศนิยม ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิ์ภาพตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ และเป็นวิธีเสริมสร้างให้ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ เป็นสื่อที่มีคุณค่า และมีประโยชน์ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง อีกทั้งยังมีรูปภาพรูปเล่มที่น่าสนใจมีการเสริมแรง พร้อมทั้งมีกลวิธีกระตุ้นให้ผู้เรียนสืบเสาะหาความรู้ด้วยตนเองที่หลากหลาย จึงส่งผลต่อการพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนเป็นอย่างดี รวมทั้งมีความพึงพอใจในการเรียนรู้อยู่ในระดับมาก ดังนั้นครูผู้สอนคณิตศาสตร์จึงควรนำวิธีการเรียนรู้แบบดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ดำเนินการโดยให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน จากนั้นจึงทำการทดลองสอนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปา (CIPPA MODEL) เรื่อง ทศนิยม แล้วบันทึกผลการเรียน หลังจากนั้นให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์หลังเรียน และตอบแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนหลังจากใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปา (CIPPA MODEL) เรื่อง ทศนิยม จากนั้นนำผลการทดสอบไปหาค่าทางสถิติเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของคะแนนที่ได้จากการทำแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน และเปรียบเทียบผลการประเมินความพึงพอใจกับเกณฑ์ระดับคุณภาพ 5 ระดับ
ผลการวิจัย พบว่า
1. รายงานการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปา (CIPPA MODEL) เรื่อง ทศนิยม ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.53/80.01 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังจากใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปา (CIPPA MODEL) เรื่อง ทศนิยม ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สูงกว่าก่อนการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปา (CIPPA MODEL) เรื่อง ทศนิยม ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจต่อการเรียนหลังจากใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปา (CIPPA MODEL) เรื่อง ทศนิยม ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในภาพรวมอยู่ ในระดับ พึงพอใจมากที่สุด ( = 4.51, S.D. = 0.64)
ทั้งนี้เนื่องจากชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปา (CIPPA MODEL) เรื่อง ทศนิยม ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิ์ภาพตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ และเป็นวิธีเสริมสร้างให้ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ เป็นสื่อที่มีคุณค่า และมีประโยชน์ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง อีกทั้งยังมีรูปภาพรูปเล่มที่น่าสนใจมีการเสริมแรง พร้อมทั้งมีกลวิธีกระตุ้นให้ผู้เรียนสืบเสาะหาความรู้ด้วยตนเองที่หลากหลาย จึงส่งผลต่อการพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนเป็นอย่างดี รวมทั้งมีความพึงพอใจในการเรียนรู้อยู่ในระดับมาก ดังนั้นครูผู้สอนคณิตศาสตร์จึงควรนำวิธีการเรียนรู้แบบดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น