การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตลูกเสือ-เนตรนารีสามัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ผู้วิจัย นายจักรพงศ์ xxxรพิศไตรย์
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตลูกเสือ-เนตรนารีสามัญ สำหรับนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพรูปแบบการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตลูกเสือ-เนตรนารีสามัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตลูกเสือ-เนตรนารีสามัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตลูกเสือ-เนตรนารีสามัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และเพื่อศึกษาความสามารถด้านทักษะชีวิตลูกเสือ-เนตรนารีสามัญ โดยใช้รูปแบบการเรียน การสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตลูกเสือ-เนตรนารีสามัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตลูกเสือ-เนตรนารีสามัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาล ๔ (ธนวิถี) สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครยะลา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา จำนวนทั้งสิ้น 155 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/3 จำนวน 31 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้รูปแบบการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตลูกเสือ-เนตรนารีสามัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 18 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 40 ข้อ แบบบันทึกพฤติกรรมทักษะชีวิตลูกเสือ-เนตรนารีสามัญ แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตลูกเสือ-เนตรนารีสามัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 1 ชุด วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ ค่าประสิทธิภาพ วิเคราะห์ความแตกต่างโดยใช้ t-test (Dependent Sample) และวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตลูกเสือ-เนตรนารีสามัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จากการวิเคราะห์เอกสารมีหลากหลาย
2. รูปแบบการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตลูกเสือ-เนตรนารีสามัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีชื่อว่า “PLOAE MODEL” โดยมีกระบวนการในการจัดกิจกรรม 5 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 Preparing and Motivation (P) ขั้นที่ 2 Learning Thinking by Practice (L) ขั้นที่ 3 Organizing of Knowledge (O) ขั้นที่ 4 Applying Thinking Process (A) และขั้นที่ 5 Evaluation (E) โดยมีค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 83.12/84.27 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตลูกเสือ-เนตรนารีสามัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
3.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตลูกเสือ-เนตรนารีสามัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3.2 ความสามารถด้านทักษะชีวิตลูกเสือ-เนตรนารีสามัญของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 อยู่ในระดับมาก
4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีความพึงพอใจต่อรูปแบบการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตลูกเสือ-เนตรนารีสามัญ อยู่ในระดับมาก