รายงานการพัฒนาชุดฝึกเสริมทักษะพื้นฐานกีฬาฟุตบอล
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
ผู้รายงาน นายอับดุลเล๊าะ ชายดานา
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การศึกษามีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของชุดฝึกเสริมทักษะพื้นฐานกีฬาฟุตบอล สำหรับนักเรียนชั้นประถม ศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาผลการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนและหลังการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกเสริมทักษะพื้นฐานกีฬาฟุตบอล สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา และ3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อชุดฝึกเสริมทักษะพื้นฐานกีฬาฟุตบอล สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาล 6 (ถนนโคกเคียน) ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส สำนักการศึกษา เทศบาลเมืองนราธิวาส ประกอบด้วย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 จำนวน 25 คน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 จำนวน 24 คน รวมทั้งสิ้น 49 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนเทศบาล 6 (ถนนโคกเคียน) ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส สำนักการศึกษา เทศบาลเมืองนราธิวาส จำนวน 25 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ชุดฝึกเสริมทักษะพื้นฐานกีฬาฟุตบอล จำนวน 6 ชุด แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 18 แผน แบบประเมินทักษะพื้นฐานกีฬาฟุตบอลก่อนและหลังการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกเสริมทักษะพื้นฐานกีฬาฟุตบอล ประกอบด้วย ตอนที่ 1 ความรู้ความเข้าใจมีข้อสอบ 30 ข้อ และตอนที่ 2 การประเมินทักษะพื้นฐานการเล่นฟุตบอล 20 คะแนน แบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 1 ชุด วิเคราะห์ข้อมูล โดยการหาค่าสถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและค่าประสิทธิภาพ ผลการศึกษาพบว่า
1. ชุดฝึกเสริมทักษะพื้นฐานกีฬาฟุตบอล สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 81.39/82.40 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80
2. ผลการศึกษาผลการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนและหลังการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกเสริมทักษะพื้นฐานกีฬาฟุตบอล สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา พบว่า หลังการเรียนรู้ มีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าก่อนการเรียนรู้
3. ผลศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อชุดฝึกเสริมทักษะพื้นฐานกีฬาฟุตบอล สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก