การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้พัฒนาทัก
การปฏิบัติงานจากตาลโตนดเมืองเพชรบุรี ตามรูปแบบการเรียนการสอน
ทักษะปฏิบัติของเดวีส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ผู้วิจัย ฐิติยา หมั่นกิจ
ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้พัฒนาทักษะการปฏิบัติงานจากตาลโตนดเมืองเพชรบุรี ตามรูปแบบการเรียนการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้พัฒนาทักษะการปฏิบัติงานจากตาลโตนด เมืองเพชรบุรี ตามรูปแบบการเรียนการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) เพื่อทดลองใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้พัฒนาทักษะการปฏิบัติงานจากตาลโตนดเมืองเพชรบุรี ตามรูปแบบการเรียนการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ 4) เพื่อประเมินและปรับปรุงชุดกิจกรรม การเรียนรู้พัฒนาทักษะการปฏิบัติงานจากตาลโตนดเมืองเพชรบุรี ตามรูปแบบการเรียนการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาล 5 บ้านห้วยทรายใต้ สังกัด กองการศึกษา เทศบาลเมืองชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 1 ห้องเรียน จำนวน 32 คน ด้วยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ ในการวิจัยประกอบด้วย 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้พัฒนาทักษะการปฏิบัติงานจากตาลโตนดเมืองเพชรบุรี ตามรูปแบบการเรียนการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) แผนการจัดการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ทักษะการปฏิบัติงานจากตาลโตนดเมืองเพชรบุรี กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้พัฒนาทักษะการปฏิบัติงานจากตาลโตนดเมืองเพชรบุรี ตามรูปแบบการเรียน การสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6 การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D. ) การทดสอบหาค่าที (t-test dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis)
ผลวิจัยพบว่า
1. ข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้พัฒนาทักษะการปฏิบัติงาน จากตาลโตนดเมืองเพชรบุรี ตามรูปแบบการเรียนการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้จากผู้เรียน ครู ผู้เชี่ยวชาญ พบว่า ควรมีเนื้อหาให้ความรู้ มีกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย เน้นพัฒนาทักษะการปฏิติงาน ใช้ภาษา ที่เข้าใจง่ายชัดเจน มีภาพประกอบสีสันสวยงาม
2. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้พัฒนาทักษะการปฏิบัติงานจากตาลโตนดเมืองเพชรบุรี ตามรูปแบบการเรียนการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีทั้งหมด 5 ชุดกิจกรรม แต่ละชุดกิจกรรมประกอบด้วย 1) ชื่อชุดกิจกรรม 2) คำนำ 3) สารบัญ 4) คำแนะนำการใช้สำหรับครู 5) คำแนะนำการใช้สำหรับผู้เรียน 6) มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด 7) สาระการเรียนรู้ 8) จุดประสงค์การเรียนรู้ 9) แบบทดสอบก่อนเรียน 10) ใบความรู้ 11) กิจกรรม 12) เกณฑ์การประเมินกิจกรรม 13) แบบประเมินทักษะการปฏิบัติงาน 14) เกณฑ์การประเมินทักษะการปฏิบัติงาน 15) แบบทดสอบหลังเรียน 16) เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน 17) เกณฑ์การประเมินแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน 18) เฉลยกิจกรรม 19) ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ปรึกษา และ 20)บรรณานุกรม โดยมีค่าประสิทธิภาพ 86.12/85.11 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ที่กำหนดไว้
3. ผลการทดลองใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้พัฒนาทักษะการปฏิบัติงานจากตาลโตนด เมืองเพชรบุรี ตามรูปแบบการเรียนการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า การเรียนการสอนดำเนินการได้ตามแผนการจัด การเรียนรู้ ผู้เรียนให้ความสนใจและมีส่วนร่วมในการปฏิบัติกิจกรรมอย่างสนุกสนาน
4. ผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้พัฒนาทักษะการปฏิบัติงานจากตาลโตนดเมืองเพชรบุรี ตามรูปแบบการเรียนการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ทักษะ การปฏิบัติงานจากตาลโตนดเมืองเพชรบุรี กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญที่ .05 ผู้เรียนมีทักษะการปฏิบัติงานระหว่างการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ฯ โดยภาพรวมทักษะการปฏิบัติงานของผู้เรียนมีคะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 17.08 คิดเป็นร้อยละ 85.41 อยู่ในระดับดีมาก และผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อชุดกิจกรรม การเรียนรู้ฯ อยู่ในระดับมาก ( =4.24, S.D.=.31)